ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฮังการี หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่าสภาพปัจจุบันของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ฮังการี คือ 16.9 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ฮังการี ลดลงเป็น 16.9 % of GDP เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เคยเป็น 17.3 % of GDP ใน 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/12/2513 ถึง 1/3/2567 ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยใน ฮังการี อยู่ที่ 16.74 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลถึงในวันที่ 1/6/2553 กับ 40.8 % of GDP ในขณะที่ค่าสภาพต่ำสุดถูกบันทึกใน 1/12/2541 ด้วย 4.4 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/12/2513 | 6.6 % of GDP |
1/3/2514 | 6.6 % of GDP |
1/6/2514 | 6.8 % of GDP |
1/9/2514 | 7 % of GDP |
1/12/2514 | 7.1 % of GDP |
1/3/2515 | 7.1 % of GDP |
1/6/2515 | 7.3 % of GDP |
1/9/2515 | 7.5 % of GDP |
1/12/2515 | 7.6 % of GDP |
1/3/2516 | 7.6 % of GDP |
1/6/2516 | 7.7 % of GDP |
1/9/2516 | 7.9 % of GDP |
1/12/2516 | 8 % of GDP |
1/3/2517 | 8.1 % of GDP |
1/6/2517 | 8.4 % of GDP |
1/9/2517 | 8.7 % of GDP |
1/12/2517 | 9 % of GDP |
1/3/2518 | 9 % of GDP |
1/6/2518 | 9.2 % of GDP |
1/9/2518 | 9.5 % of GDP |
1/12/2518 | 9.8 % of GDP |
1/3/2519 | 9.8 % of GDP |
1/6/2519 | 10.1 % of GDP |
1/9/2519 | 10.4 % of GDP |
1/12/2519 | 10.6 % of GDP |
1/3/2520 | 10.7 % of GDP |
1/6/2520 | 10.9 % of GDP |
1/9/2520 | 11.2 % of GDP |
1/12/2520 | 11.3 % of GDP |
1/3/2521 | 11.3 % of GDP |
1/6/2521 | 11.5 % of GDP |
1/9/2521 | 11.8 % of GDP |
1/12/2521 | 12.1 % of GDP |
1/3/2522 | 12.1 % of GDP |
1/6/2522 | 12.3 % of GDP |
1/9/2522 | 12.5 % of GDP |
1/12/2522 | 12.7 % of GDP |
1/3/2523 | 12.9 % of GDP |
1/6/2523 | 13.2 % of GDP |
1/9/2523 | 13.6 % of GDP |
1/12/2523 | 13.9 % of GDP |
1/3/2524 | 13.9 % of GDP |
1/6/2524 | 14.1 % of GDP |
1/9/2524 | 14.4 % of GDP |
1/12/2524 | 14.4 % of GDP |
1/3/2525 | 14.4 % of GDP |
1/6/2525 | 14.5 % of GDP |
1/9/2525 | 14.6 % of GDP |
1/12/2525 | 14.7 % of GDP |
1/3/2526 | 14.9 % of GDP |
1/6/2526 | 15.3 % of GDP |
1/9/2526 | 15.8 % of GDP |
1/12/2526 | 16.1 % of GDP |
1/3/2527 | 16.3 % of GDP |
1/6/2527 | 16.7 % of GDP |
1/9/2527 | 16.9 % of GDP |
1/12/2527 | 17 % of GDP |
1/3/2528 | 17.3 % of GDP |
1/6/2528 | 17.8 % of GDP |
1/9/2528 | 18.2 % of GDP |
1/12/2528 | 18.4 % of GDP |
1/3/2529 | 18.8 % of GDP |
1/6/2529 | 19.4 % of GDP |
1/9/2529 | 20 % of GDP |
1/12/2529 | 20.1 % of GDP |
1/3/2530 | 20.2 % of GDP |
1/6/2530 | 20.5 % of GDP |
1/9/2530 | 20.6 % of GDP |
1/12/2530 | 20.6 % of GDP |
1/3/2531 | 20.5 % of GDP |
1/6/2531 | 20.5 % of GDP |
1/9/2531 | 20.4 % of GDP |
1/12/2531 | 20 % of GDP |
1/3/2532 | 19.8 % of GDP |
1/6/2532 | 19.7 % of GDP |
1/9/2532 | 19.6 % of GDP |
1/12/2532 | 18.2 % of GDP |
1/3/2533 | 17.7 % of GDP |
1/6/2533 | 17.4 % of GDP |
1/9/2533 | 17.6 % of GDP |
1/12/2533 | 17 % of GDP |
1/3/2534 | 14.9 % of GDP |
1/6/2534 | 11.7 % of GDP |
1/9/2534 | 11.7 % of GDP |
1/12/2534 | 11 % of GDP |
1/3/2535 | 10.6 % of GDP |
1/6/2535 | 10.4 % of GDP |
1/9/2535 | 10.2 % of GDP |
1/12/2535 | 10.1 % of GDP |
1/3/2536 | 9.9 % of GDP |
1/6/2536 | 9.9 % of GDP |
1/9/2536 | 9.8 % of GDP |
1/12/2536 | 9.7 % of GDP |
1/3/2537 | 9.4 % of GDP |
1/6/2537 | 9.2 % of GDP |
1/9/2537 | 9.1 % of GDP |
1/12/2537 | 8.9 % of GDP |
1/3/2538 | 8.2 % of GDP |
1/6/2538 | 7.6 % of GDP |
1/9/2538 | 7.2 % of GDP |
1/12/2538 | 6.6 % of GDP |
1/3/2539 | 6.2 % of GDP |
1/6/2539 | 5.8 % of GDP |
1/9/2539 | 5.5 % of GDP |
1/12/2539 | 5.2 % of GDP |
1/3/2540 | 4.9 % of GDP |
1/6/2540 | 4.7 % of GDP |
1/9/2540 | 4.6 % of GDP |
1/12/2540 | 4.9 % of GDP |
1/3/2541 | 4.6 % of GDP |
1/6/2541 | 4.5 % of GDP |
1/9/2541 | 4.5 % of GDP |
1/12/2541 | 4.4 % of GDP |
1/3/2542 | 4.4 % of GDP |
1/6/2542 | 4.5 % of GDP |
1/9/2542 | 4.8 % of GDP |
1/12/2542 | 5 % of GDP |
1/3/2543 | 5.2 % of GDP |
1/6/2543 | 5.6 % of GDP |
1/9/2543 | 6 % of GDP |
1/12/2543 | 6.5 % of GDP |
1/3/2544 | 6.7 % of GDP |
1/6/2544 | 7.1 % of GDP |
1/9/2544 | 7.6 % of GDP |
1/12/2544 | 8.3 % of GDP |
1/3/2545 | 8.5 % of GDP |
1/6/2545 | 9.6 % of GDP |
1/9/2545 | 10.8 % of GDP |
1/12/2545 | 11.8 % of GDP |
1/3/2546 | 12.8 % of GDP |
1/6/2546 | 14.4 % of GDP |
1/9/2546 | 15.8 % of GDP |
1/12/2546 | 17.1 % of GDP |
1/3/2547 | 17.5 % of GDP |
1/6/2547 | 18.3 % of GDP |
1/9/2547 | 19 % of GDP |
1/12/2547 | 20 % of GDP |
1/3/2548 | 20.5 % of GDP |
1/6/2548 | 21.5 % of GDP |
1/9/2548 | 22.6 % of GDP |
1/12/2548 | 23.5 % of GDP |
1/3/2549 | 24.2 % of GDP |
1/6/2549 | 26 % of GDP |
1/9/2549 | 26.5 % of GDP |
1/12/2549 | 26.2 % of GDP |
1/3/2550 | 26.3 % of GDP |
1/6/2550 | 27.2 % of GDP |
1/9/2550 | 28.9 % of GDP |
1/12/2550 | 30 % of GDP |
1/3/2551 | 31.9 % of GDP |
1/6/2551 | 30.6 % of GDP |
1/9/2551 | 32.7 % of GDP |
1/12/2551 | 36.3 % of GDP |
1/3/2552 | 40.4 % of GDP |
1/6/2552 | 37.2 % of GDP |
1/9/2552 | 37.4 % of GDP |
1/12/2552 | 37.6 % of GDP |
1/3/2553 | 37.8 % of GDP |
1/6/2553 | 40.8 % of GDP |
1/9/2553 | 39 % of GDP |
1/12/2553 | 39.5 % of GDP |
1/3/2554 | 36.5 % of GDP |
1/6/2554 | 37.4 % of GDP |
1/9/2554 | 38.8 % of GDP |
1/12/2554 | 37.5 % of GDP |
1/3/2555 | 34 % of GDP |
1/6/2555 | 33.1 % of GDP |
1/9/2555 | 32 % of GDP |
1/12/2555 | 31.7 % of GDP |
1/3/2556 | 31.5 % of GDP |
1/6/2556 | 29.9 % of GDP |
1/9/2556 | 29.4 % of GDP |
1/12/2556 | 28.3 % of GDP |
1/3/2557 | 27.8 % of GDP |
1/6/2557 | 27.1 % of GDP |
1/9/2557 | 26.4 % of GDP |
1/12/2557 | 25.6 % of GDP |
1/3/2558 | 23.6 % of GDP |
1/6/2558 | 22.8 % of GDP |
1/9/2558 | 22.1 % of GDP |
1/12/2558 | 21.2 % of GDP |
1/3/2559 | 20.7 % of GDP |
1/6/2559 | 20.3 % of GDP |
1/9/2559 | 20.1 % of GDP |
1/12/2559 | 20.1 % of GDP |
1/3/2560 | 19.7 % of GDP |
1/6/2560 | 19.5 % of GDP |
1/9/2560 | 19.3 % of GDP |
1/12/2560 | 18.7 % of GDP |
1/3/2561 | 18.3 % of GDP |
1/6/2561 | 18.2 % of GDP |
1/9/2561 | 18 % of GDP |
1/12/2561 | 17.7 % of GDP |
1/3/2562 | 17.6 % of GDP |
1/6/2562 | 17.5 % of GDP |
1/9/2562 | 18.1 % of GDP |
1/12/2562 | 18.5 % of GDP |
1/3/2563 | 18.8 % of GDP |
1/6/2563 | 19.8 % of GDP |
1/9/2563 | 20.4 % of GDP |
1/12/2563 | 20.9 % of GDP |
1/3/2564 | 21.3 % of GDP |
1/6/2564 | 21.3 % of GDP |
1/9/2564 | 21.5 % of GDP |
1/12/2564 | 21.2 % of GDP |
1/3/2565 | 20.3 % of GDP |
1/6/2565 | 19.9 % of GDP |
1/9/2565 | 19.3 % of GDP |
1/12/2565 | 18.8 % of GDP |
1/3/2566 | 18.1 % of GDP |
1/6/2566 | 17.7 % of GDP |
1/9/2566 | 17.3 % of GDP |
1/12/2566 | 16.9 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 16.9 % of GDP |
1/9/2566 | 17.3 % of GDP |
1/6/2566 | 17.7 % of GDP |
1/3/2566 | 18.1 % of GDP |
1/12/2565 | 18.8 % of GDP |
1/9/2565 | 19.3 % of GDP |
1/6/2565 | 19.9 % of GDP |
1/3/2565 | 20.3 % of GDP |
1/12/2564 | 21.2 % of GDP |
1/9/2564 | 21.5 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇺 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 6.463 ชีวภาพ. HUF | 6.917 ชีวภาพ. HUF | ควอร์เตอร์ |
🇭🇺 การออมส่วนบุคคล | 18.96 % | 16.47 % | ประจำปี |
🇭🇺 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | -26.9 points | -26.7 points | รายเดือน |
🇭🇺 เครดิตของภาคเอกชน | 10.44 ชีวภาพ. HUF | 10.353 ชีวภาพ. HUF | รายเดือน |
🇭🇺 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 0.8 % | 0.1 % | รายเดือน |
🇭🇺 ยอดขายปลีกประจำปี | 4.1 % | 2.5 % | รายเดือน |
🇭🇺 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.7 USD/Liter | 1.63 USD/Liter | รายเดือน |
🇭🇺 สินเชื่อบุคคล | 1.415 ชีวภาพ. HUF | 1.394 ชีวภาพ. HUF | รายเดือน |
🇭🇺 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 7.5 % | 7.5 % | รายเดือน |
🇭🇺 อัตราส่วนหนี้สินของครัวเรือนต่อรายได้ | 31.93 % | 36.16 % | ประจำปี |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ