ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇻🇳

เวียดนาม ดุลการค้า

ราคา

1.11 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-1.67 ล้านล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-85.86 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน เวียดนาม คือ 1.11 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน เวียดนาม ลดลงไปที่ 1.11 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 2.78 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/12/2533 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน เวียดนาม คือ 7.84 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/8/2563 ด้วยค่า 4.99 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2539 ด้วยค่า -3.89 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: General Statistics Office of Vietnam

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25671.11 ล้านล้าน USD
1/3/25672.78 ล้านล้าน USD
1/2/25671.38 ล้านล้าน USD
1/1/25673.63 ล้านล้าน USD
1/12/25662.06 ล้านล้าน USD
1/11/25661.54 ล้านล้าน USD
1/10/25662.73 ล้านล้าน USD
1/9/25662.2 ล้านล้าน USD
1/8/25663.44 ล้านล้าน USD
1/7/25663.07 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
11

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇻🇳
กระแสเงินทุน
-1.644 ล้านล้าน USD-2.775 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇻🇳
การผลิตน้ำมันดิบ
165 BBL/D/1K167 BBL/D/1Kรายเดือน
🇻🇳
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
10.84 ล้านล้าน USD8.25 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
เงื่อนไขการซื้อขาย
104.94 points102.5 pointsประจำปี
🇻🇳
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0.227 Pointsประจำปี
🇻🇳
นำเข้า
30.15 ล้านล้าน USD32.72 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
6.375 ล้านล้าน USD7.222 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇻🇳
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
1.249 ล้าน 1.384 ล้าน รายเดือน
🇻🇳
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
0.2 % of GDP-0.3 % of GDPประจำปี
🇻🇳
ส่งออก
33.09 ล้านล้าน USD32.27 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
หนี้สินต่างประเทศ
144.858 ล้านล้าน USD139.499 ล้านล้าน USDประจำปี

ตั้งแต่ปี 2012 เวียดนามเริ่มมีการรายงานการเกินดุลย์การค้าอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากการเติบโตของการส่งออกแข็งแกร่งกว่าการนำเข้า ในปี 2017 มีการบันทึกการขาดดุลย์การค้ากับเกาหลีใต้, จีน, ไต้หวัน, ไทย, สิงคโปร์ และอาร์เจนตินา ในขณะที่เวียดนามบันทึกการเกินดุลย์การค้ากับสหรัฐอเมริกา, เนเธอร์แลนด์, ฮ่องกง, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออสเตรีย

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว