ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇻🇳

เวียดนาม การนำเข้า

ราคา

32.72 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+2.73 ล้านล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+8.71 %

มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าใน เวียดนาม อยู่ที่ 32.72 ล้านล้าน USD การนำเข้าใน เวียดนาม เพิ่มขึ้นเป็น 32.72 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 29.99 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/4/2567 ตั้งแต่ 1/12/2533 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน เวียดนาม อยู่ที่ 10.61 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อ 1/5/2567 โดยมีมูลค่า 32.72 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/2/2542 โดยมีมูลค่า 740 ล้าน USD

แหล่งที่มา: General Statistics Office of Vietnam

การนำเข้า

  • แม็กซ์

นำเข้า

การนำเข้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/256732.72 ล้านล้าน USD
1/4/256729.99 ล้านล้าน USD
1/3/256731.08 ล้านล้าน USD
1/2/256723.3 ล้านล้าน USD
1/1/256730.9 ล้านล้าน USD
1/12/256629.4 ล้านล้าน USD
1/11/256629.58 ล้านล้าน USD
1/10/256629.52 ล้านล้าน USD
1/9/256628.48 ล้านล้าน USD
1/8/256629.32 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
34

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇻🇳
กระแสเงินทุน
-1.644 ล้านล้าน USD-2.775 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇻🇳
การผลิตน้ำมันดิบ
165 BBL/D/1K167 BBL/D/1Kรายเดือน
🇻🇳
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
10.84 ล้านล้าน USD8.25 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
เงื่อนไขการซื้อขาย
104.94 points102.5 pointsประจำปี
🇻🇳
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0.227 Pointsประจำปี
🇻🇳
ยอดการค้า
2.94 ล้านล้าน USD-450 ล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
6.375 ล้านล้าน USD7.222 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇻🇳
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
1.249 ล้าน 1.384 ล้าน รายเดือน
🇻🇳
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
0.2 % of GDP-0.3 % of GDPประจำปี
🇻🇳
ส่งออก
33.09 ล้านล้าน USD32.27 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇻🇳
หนี้สินต่างประเทศ
144.858 ล้านล้าน USD139.499 ล้านล้าน USDประจำปี

การนำเข้าหลักของเวียดนามประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน (18 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) และเครื่องจักร อุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม (16 เปอร์เซ็นต์) อื่นๆ รวมถึง: โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน (8 เปอร์เซ็นต์); ผ้าทอ (5 เปอร์เซ็นต์) และเหล็กและเหล็กกล้า (4 เปอร์เซ็นต์) พันธมิตรการนำเข้าหลักได้แก่ ประเทศจีน (28 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) และเกาหลีใต้ (22 เปอร์เซ็นต์) อื่นๆ รวมถึง: ญี่ปุ่น (8 เปอร์เซ็นต์); ไต้หวัน (6 เปอร์เซ็นต์); ไทย (5 เปอร์เซ็นต์) และสหรัฐอเมริกา (4 เปอร์เซ็นต์)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร การนำเข้า

การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป