ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อุรุกวัย ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อุรุกวัย คือ 168.97 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อุรุกวัย เพิ่มขึ้นเป็น 168.97 คะแนน เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 164.39 คะแนน เมื่อ 1/12/2566 จาก 1/3/2548 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน อุรุกวัย คือ 130.62 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2556 ที่ 189.46 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2557 ที่ 85.36 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2548 | 98.51 points |
1/6/2548 | 99.55 points |
1/9/2548 | 100.48 points |
1/12/2548 | 101.25 points |
1/3/2549 | 103.63 points |
1/6/2549 | 104.86 points |
1/9/2549 | 107.2 points |
1/12/2549 | 110.08 points |
1/3/2550 | 114.82 points |
1/6/2550 | 116.73 points |
1/9/2550 | 117.92 points |
1/12/2550 | 116.74 points |
1/3/2551 | 121.09 points |
1/6/2551 | 125.58 points |
1/9/2551 | 126.09 points |
1/12/2551 | 130.27 points |
1/3/2552 | 133.3 points |
1/6/2552 | 134.31 points |
1/9/2552 | 136.84 points |
1/12/2552 | 137.82 points |
1/3/2553 | 138.53 points |
1/6/2553 | 140.87 points |
1/9/2553 | 141.04 points |
1/12/2553 | 148.29 points |
1/3/2554 | 152.6 points |
1/6/2554 | 154.32 points |
1/9/2554 | 155.34 points |
1/12/2554 | 158.1 points |
1/3/2555 | 166.84 points |
1/6/2555 | 165.17 points |
1/9/2555 | 166.72 points |
1/12/2555 | 174.48 points |
1/3/2556 | 175.78 points |
1/6/2556 | 179.41 points |
1/9/2556 | 183.19 points |
1/12/2556 | 189.46 points |
1/3/2557 | 85.5 points |
1/6/2557 | 85.36 points |
1/9/2557 | 85.39 points |
1/12/2557 | 89.42 points |
1/3/2558 | 91.17 points |
1/6/2558 | 92.53 points |
1/9/2558 | 95.03 points |
1/12/2558 | 98.12 points |
1/3/2559 | 100.33 points |
1/6/2559 | 100.26 points |
1/9/2559 | 100.48 points |
1/12/2559 | 99.02 points |
1/3/2560 | 103.7 points |
1/6/2560 | 103.24 points |
1/9/2560 | 106.49 points |
1/12/2560 | 106.55 points |
1/3/2561 | 110.4 points |
1/6/2561 | 111.31 points |
1/9/2561 | 114.59 points |
1/12/2561 | 113.52 points |
1/3/2562 | 121.61 points |
1/6/2562 | 119.67 points |
1/9/2562 | 124.78 points |
1/12/2562 | 125.54 points |
1/3/2563 | 132.98 points |
1/6/2563 | 134.06 points |
1/9/2563 | 136.09 points |
1/12/2563 | 137.31 points |
1/3/2564 | 146.66 points |
1/6/2564 | 152.56 points |
1/9/2564 | 153.15 points |
1/12/2564 | 156.05 points |
1/3/2565 | 157.65 points |
1/6/2565 | 155.8 points |
1/9/2565 | 160.14 points |
1/12/2565 | 162.36 points |
1/3/2566 | 165.89 points |
1/6/2566 | 163.11 points |
1/9/2566 | 163.59 points |
1/12/2566 | 164.39 points |
1/3/2567 | 168.97 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 168.97 คะแนน |
1/12/2566 | 164.39 คะแนน |
1/9/2566 | 163.59 คะแนน |
1/6/2566 | 163.11 คะแนน |
1/3/2566 | 165.89 คะแนน |
1/12/2565 | 162.36 คะแนน |
1/9/2565 | 160.14 คะแนน |
1/6/2565 | 155.8 คะแนน |
1/3/2565 | 157.65 คะแนน |
1/12/2564 | 156.05 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇺🇾 CPI Transport | 102.93 points | 102.98 points | รายเดือน |
🇺🇾 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 2.23 % | -1.59 % | รายเดือน |
🇺🇾 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 5.95 % | 6.4 % | รายเดือน |
🇺🇾 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 107.95 points | 107.53 points | รายเดือน |
🇺🇾 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 110.07 points | 109.78 points | รายเดือน |
🇺🇾 ต้นทุนการผลิต | 287.03 points | 285.19 points | รายเดือน |
🇺🇾 อัตราเงินเฟ้อ | 4.1 % | 3.68 % | รายเดือน |
🇺🇾 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.37 % | 0.29 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ