ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ตรินิแดดและโตเบโก ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ตรินิแดดและโตเบโก คือ 821.3 ล้าน USD ดุลการค้าใน ตรินิแดดและโตเบโก ลดลงไปที่ 821.3 ล้าน USD ในวันที่ 1/6/2566 หลังจากที่เป็น 1.529 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/3/2566 ตั้งแต่ 1/3/2538 ถึง 1/9/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ตรินิแดดและโตเบโก คือ 737.87 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/3/2556 ด้วยค่า 3.47 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/9/2556 ด้วยค่า -396 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/3/2538 | 278.1 ล้าน USD |
1/6/2538 | 79.2 ล้าน USD |
1/9/2538 | 9.5 ล้าน USD |
1/12/2538 | 163.4 ล้าน USD |
1/3/2539 | 87.8 ล้าน USD |
1/6/2539 | 144.6 ล้าน USD |
1/9/2539 | 2.2 ล้าน USD |
1/12/2539 | 116.9 ล้าน USD |
1/3/2540 | 115.8 ล้าน USD |
1/3/2542 | 20.5 ล้าน USD |
1/9/2542 | 87.6 ล้าน USD |
1/12/2542 | 107.2 ล้าน USD |
1/6/2543 | 479.1 ล้าน USD |
1/9/2543 | 87.5 ล้าน USD |
1/12/2543 | 278.3 ล้าน USD |
1/3/2544 | 424.8 ล้าน USD |
1/6/2544 | 215.8 ล้าน USD |
1/12/2544 | 460.7 ล้าน USD |
1/3/2545 | 125.6 ล้าน USD |
1/9/2545 | 151.2 ล้าน USD |
1/3/2546 | 445 ล้าน USD |
1/6/2546 | 90.8 ล้าน USD |
1/9/2546 | 433.1 ล้าน USD |
1/12/2546 | 324.3 ล้าน USD |
1/6/2547 | 785.4 ล้าน USD |
1/9/2547 | 677.6 ล้าน USD |
1/12/2547 | 370.6 ล้าน USD |
1/3/2548 | 877.3 ล้าน USD |
1/6/2548 | 803.9 ล้าน USD |
1/9/2548 | 776.2 ล้าน USD |
1/12/2548 | 1.48 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 1.19 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 1.09 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 1.85 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 1.12 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 1.55 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 818.2 ล้าน USD |
1/9/2550 | 885.1 ล้าน USD |
1/12/2550 | 2.28 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 1.12 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 2.68 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 3.22 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 2.05 ล้านล้าน USD |
1/3/2552 | 2.54 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 34.5 ล้าน USD |
1/3/2553 | 1.3 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 1.28 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 728 ล้าน USD |
1/12/2553 | 1.42 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 1.37 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 1.24 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 2.65 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 202.4 ล้าน USD |
1/12/2555 | 1.52 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 3.47 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 2.04 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 997.5 ล้าน USD |
1/3/2557 | 2.04 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 425.4 ล้าน USD |
1/12/2557 | 878 ล้าน USD |
1/3/2558 | 1.35 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 847.4 ล้าน USD |
1/9/2558 | 873 ล้าน USD |
1/12/2558 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 332.7 ล้าน USD |
1/6/2559 | 371.8 ล้าน USD |
1/9/2559 | 293.3 ล้าน USD |
1/12/2559 | 417.9 ล้าน USD |
1/3/2560 | 1.12 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 747.8 ล้าน USD |
1/9/2560 | 734.2 ล้าน USD |
1/12/2560 | 587.1 ล้าน USD |
1/3/2561 | 1.12 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 1.03 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 809.7 ล้าน USD |
1/12/2561 | 1.17 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 999.3 ล้าน USD |
1/6/2562 | 758 ล้าน USD |
1/9/2562 | 432.7 ล้าน USD |
1/12/2562 | 540.6 ล้าน USD |
1/3/2563 | 387.4 ล้าน USD |
1/6/2563 | 327.8 ล้าน USD |
1/12/2563 | 275.6 ล้าน USD |
1/3/2564 | 901.7 ล้าน USD |
1/6/2564 | 968.1 ล้าน USD |
1/9/2564 | 867.6 ล้าน USD |
1/12/2564 | 1.97 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 2.29 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.5 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 2.68 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.71 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 1.53 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 821.3 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 821.3 ล้าน USD |
1/3/2566 | 1.529 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.714 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 2.678 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.501 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 2.287 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 1.974 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 867.6 ล้าน USD |
1/6/2564 | 968.1 ล้าน USD |
1/3/2564 | 901.7 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇹 การผลิตน้ำมันดิบ | 55 BBL/D/1K | 55 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇹🇹 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇹🇹 ทองคำสำรอง | 1.95 Tonnes | 1.95 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 นำเข้า | 1.723 ล้านล้าน USD | 1.761 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 470.5 ล้าน USD | 589.4 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 11.3 % of GDP | 17.9 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇹 ส่งออก | 2.534 ล้านล้าน USD | 2.488 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 21 % of GDP | 20.7 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇹 หนี้สินต่างประเทศ | 36.922 ล้านล้าน TTD | 37.053 ล้านล้าน TTD | รายเดือน |
ตรินิแดดและโตเบโกส่งออกหลักคือก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน, แอมโมเนีย, แอลกอฮอล์, เหล็ก, ปุ๋ย, และเหล็กและเหล็กกล้า ในขณะเดียวกัน ประเทศนี้นำเข้าหลักคือน้ำมัน, แร่เหล็ก, เชื้อเพลิง, ยานพาหนะ, เครื่องทำน้ำร้อน, เอทิลแอลกอฮอล์, เหล็กและเหล็กกล้า, ปั๊มและตัวเร่งปฏิกิริยา คู่ค้าหลักของตรินิแดดและโตเบโกคือสหรัฐอเมริกา คิดเป็นประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของการค้าทั้งหมด คู่ค้าอื่นๆ รวมถึงจาไมก้า, สเปน, โคลอมเบีย, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, รัสเซีย และสาธารณรัฐโดมินิกัน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว