ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ตองกา อัตราภาษีการขาย
ราคา
ค่าปัจจุบันของอัตราภาษีการขายใน ตองกา คือ 15 % อัตราภาษีการขายใน ตองกา ลดลงเหลือ 15 % เมื่อ 1/1/2564 หลังจากที่เป็น 15 % เมื่อ 1/1/2563 ตั้งแต่ 1/1/2557 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ตองกา คือ 13.89 % มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2558 ที่ 15 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/1/2557 ที่ 5 %.
อัตราภาษีการขาย ·
แม็กซ์
อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม | |
---|---|
1/1/2557 | 5 % |
1/1/2558 | 15 % |
1/1/2559 | 15 % |
1/1/2560 | 15 % |
1/1/2561 | 15 % |
1/1/2562 | 15 % |
1/1/2563 | 15 % |
1/1/2564 | 15 % |
อัตราภาษีการขาย ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2564 | 15 % |
1/1/2563 | 15 % |
1/1/2562 | 15 % |
1/1/2561 | 15 % |
1/1/2560 | 15 % |
1/1/2559 | 15 % |
1/1/2558 | 15 % |
1/1/2557 | 5 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราภาษีการขาย
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇴 อัตราภาษีบริษัท | 25 % | 25 % | ประจำปี |
ในตองกา อัตราภาษีขายคือภาษีที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคตามราคาซื้อของสินค้าและบริการบางประเภท มาตรฐานที่เราใช้สำหรับอัตราภาษีขายหมายถึงอัตราสูงสุด รายได้จากอัตราภาษีขายเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับรัฐบาลของตองกา
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร อัตราภาษีการขาย
เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแพลตฟอร์มหลักในการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ หนึ่งในหมวดหมู่ที่สำคัญและน่าสนใจที่เรานำเสนอคือ 'อัตราภาษีขาย' ในบริบทของเศรษฐกิจมหภาค การทำความเข้าใจและวิเคราะห์อัตราภาษีขายเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการวางแผนธุรกิจ การลงทุน และนโยบายทางเศรษฐกิจ 'อัตราภาษีขาย' หรือ 'Sales Tax Rate' คือภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากการขายสินค้าหรือบริการ มันเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลและมีบทบาทสำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราภาษีขายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ และผู้ประกอบการ อัตราภาษีขายโดยทั่วไปมีสองประเภทหลัก คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีขาย (Sales Tax) ในหลายประเทศ ภาษีมูลค่าเพิ่มถูกนำมาใช้เป็นภาษีหลักในการเก็บรวบรวมรายได้ ในขณะที่บางประเทศเลือกใช้ภาษีขาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายทางภาษีและโครงสร้างเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ การเปลี่ยนแปลงในอัตราภาษีขายสามารถมีผลกระทบต่อการบริโภค การลงทุน และการเติบโตของเศรษฐกิจ ในประเทศไทย ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีประเภทหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยอยู่ที่ 7% ซึ่งเป็นอัตราที่ได้ถูกกำหนดมาเป็นเวลานาน ซึ่งรัฐบาลได้พิจารณาแล้วว่ามันเป็นอัตราที่เหมาะสมกับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ แต่มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนั้นอาจมีผลกระทบต่อตลาดทั้งในระดับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ การเพิ่มหรือปรับตัวของอัตราภาษีขายมีผลกระทบทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค หากอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ตามมาด้วยการลดลงของกำลังซื้อของผู้บริโภค ในทางตรงกันข้าม การลดอัตราภาษีขายจะเป็องค์ประกอบหนึ่งที่กระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ความสำคัญในการวิเคราะห์อัตราภาษีขายนั้นไม่ได้จำกัดเพียงการปรับนโยบายภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ นักลงทุนต่างชาติจะพิจารณาอัตราภาษีขายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจลงทุนในประเทศนั้นๆ การตั้งอัตราภาษีขายในระดับที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เว็บไซต์ Eulerpool เสนอข้อมูลที่ละเอียดและแม่นยำเกี่ยวกับอัตราภาษีขายในแต่ละประเทศ ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมและประมวลผลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายๆ เพื่อวิเคราะห์และเปรียบเทียบอัตราภาษีขายในบริบทของเศรษฐกิจมหภาค นอกจากนี้ เราให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ระดับการบริโภค และการลงทุน Eulerpool ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ ไม่ว่าเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือผู้ประกอบการ เราพยายามทำให้ข้อมูลของเราสามารถถูกใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และเข้าใจได้ในประกอบการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เราเชื่อว่าข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและแม่นยำจะเป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่าในการตัดสินใจ การศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราภาษีขายนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในหลายๆ ด้าน นอกจากจะช่วยในการวางแผนธุรกิจและการลงทุนแล้ว ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลในการปรับแต่งนโยบายทางภาษี การสร้างสรรค์แผนการตลาดและการบริหารจัดการภายในองค์กร จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับอัตราภาษีขายนั้นมีความสำคัญมากในเศรษฐกิจมหภาค เว็บไซต์ Eulerpool พร้อมที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่าน เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์และดำเนินกลยุทธ์เศรษฐกิจธุรกิจที่มีประสิทธิภาพในอนาคต