ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇿

สวาซิแลนด์ รายได้ของรัฐบาล

ราคา

18.965 ล้านล้าน SZL
การเปลี่ยนแปลง +/-
-331.11 ล้าน SZL
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-1.73 %

มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน สวาซิแลนด์ อยู่ที่ 18.965 ล้านล้าน SZL รายได้ของรัฐบาลใน สวาซิแลนด์ ลดลงเหลือ 18.965 ล้านล้าน SZL เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่มีมูลค่า 19.296 ล้านล้าน SZL ใน 1/1/2564 ตั้งแต่ 1/1/2549 ถึง 1/1/2566 ค่า GDP เฉลี่ยใน สวาซิแลนด์ อยู่ที่ 13.75 ล้านล้าน SZL ค่าสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/1/2566 ด้วยมูลค่า 25.48 ล้านล้าน SZL ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2549 ด้วยมูลค่า 5.5 ล้านล้าน SZL

แหล่งที่มา: Central Bank of Swaziland

รายได้ของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รายได้ของรัฐ

รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/256518.965 ล้านล้าน SZL
1/1/256419.296 ล้านล้าน SZL
1/1/256319.153 ล้านล้าน SZL
1/1/256217.884 ล้านล้าน SZL
1/1/256115.956 ล้านล้าน SZL
1/1/256015.395 ล้านล้าน SZL
1/1/255914.51 ล้านล้าน SZL
1/1/255814.462 ล้านล้าน SZL
1/1/255714.731 ล้านล้าน SZL
1/1/255613.106 ล้านล้าน SZL
1
2

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇿
การใช้จ่ายทางทหาร
67.8 ล้าน USD74.3 ล้าน USDประจำปี
🇸🇿
งบประมาณของรัฐ
-1.7 % of GDP-5.4 % of GDPประจำปี
🇸🇿
ดัชนีการทุจริต
30 Points30 Pointsประจำปี
🇸🇿
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-1.5 ล้านล้าน SZL-4.189 ล้านล้าน SZLประจำปี
🇸🇿
รัฐบาลใช้จ่าย
26.979 ล้านล้าน SZL23.154 ล้านล้าน SZLประจำปี
🇸🇿
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
18.91 % of GDP19.06 % of GDPประจำปี
🇸🇿
อันดับคอร์รัปชั่น
130 130 ประจำปี

รายได้ของรัฐบาลหมายถึงรายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณดุลยภาพงบประมาณของรัฐบาล

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร รายได้ของรัฐบาล

รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป