ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ซูดาน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน ซูดาน คือ 189.8 ล้าน USD การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน ซูดาน เพิ่มขึ้นเป็น 189.8 ล้าน USD ในวันที่ 1/9/2562 หลังจากที่มันอยู่ที่ 154 ล้าน USD เมื่อวันที่ 1/6/2562 ตั้งแต่ 1/3/2546 ถึง 1/12/2565 GDP เฉลี่ยใน ซูดาน คือ 334.2 ล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1/3/2549 ด้วย 1.57 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/6/2554 ด้วย -390.2 ล้าน USD
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ·
แม็กซ์
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | |
---|---|
1/3/2546 | 274.19 ล้าน USD |
1/6/2546 | 379.88 ล้าน USD |
1/9/2546 | 367.06 ล้าน USD |
1/12/2546 | 328.06 ล้าน USD |
1/3/2547 | 341.83 ล้าน USD |
1/6/2547 | 366.19 ล้าน USD |
1/9/2547 | 418.37 ล้าน USD |
1/12/2547 | 384.68 ล้าน USD |
1/3/2548 | 406.13 ล้าน USD |
1/6/2548 | 658.23 ล้าน USD |
1/9/2548 | 555.75 ล้าน USD |
1/12/2548 | 684.53 ล้าน USD |
1/3/2549 | 1.57 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 688.13 ล้าน USD |
1/9/2549 | 603.27 ล้าน USD |
1/12/2549 | 677.5 ล้าน USD |
1/3/2550 | 549.75 ล้าน USD |
1/6/2550 | 640.91 ล้าน USD |
1/9/2550 | 644.27 ล้าน USD |
1/12/2550 | 590.66 ล้าน USD |
1/3/2551 | 611.86 ล้าน USD |
1/6/2551 | 531.87 ล้าน USD |
1/9/2551 | 686.47 ล้าน USD |
1/12/2551 | 681.08 ล้าน USD |
1/3/2552 | 853.91 ล้าน USD |
1/6/2552 | 570.83 ล้าน USD |
1/9/2552 | 650.5 ล้าน USD |
1/12/2552 | 586.81 ล้าน USD |
1/3/2553 | 336.8 ล้าน USD |
1/6/2553 | 583.7 ล้าน USD |
1/9/2553 | 587.2 ล้าน USD |
1/12/2553 | 556 ล้าน USD |
1/9/2554 | 641.5 ล้าน USD |
1/12/2554 | 486.4 ล้าน USD |
1/3/2555 | 534.3 ล้าน USD |
1/6/2555 | 514.3 ล้าน USD |
1/9/2555 | 655.2 ล้าน USD |
1/12/2555 | 609 ล้าน USD |
1/3/2556 | 391.8 ล้าน USD |
1/6/2556 | 410.6 ล้าน USD |
1/9/2556 | 449 ล้าน USD |
1/12/2556 | 436.4 ล้าน USD |
1/3/2558 | 309.7 ล้าน USD |
1/6/2558 | 447.1 ล้าน USD |
1/9/2558 | 464.3 ล้าน USD |
1/12/2558 | 515.6 ล้าน USD |
1/3/2559 | 350.4 ล้าน USD |
1/6/2559 | 208.5 ล้าน USD |
1/9/2559 | 227.1 ล้าน USD |
1/12/2559 | 277.8 ล้าน USD |
1/3/2560 | 222.3 ล้าน USD |
1/6/2560 | 203.1 ล้าน USD |
1/9/2560 | 282.6 ล้าน USD |
1/12/2560 | 357.3 ล้าน USD |
1/3/2561 | 240.7 ล้าน USD |
1/6/2561 | 214.3 ล้าน USD |
1/9/2561 | 280.8 ล้าน USD |
1/12/2561 | 400 ล้าน USD |
1/3/2562 | 267.3 ล้าน USD |
1/6/2562 | 154 ล้าน USD |
1/9/2562 | 189.8 ล้าน USD |
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2562 | 189.8 ล้าน USD |
1/6/2562 | 154 ล้าน USD |
1/3/2562 | 267.3 ล้าน USD |
1/12/2561 | 400 ล้าน USD |
1/9/2561 | 280.8 ล้าน USD |
1/6/2561 | 214.3 ล้าน USD |
1/3/2561 | 240.7 ล้าน USD |
1/12/2560 | 357.3 ล้าน USD |
1/9/2560 | 282.6 ล้าน USD |
1/6/2560 | 203.1 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇸🇩 กระแสเงินทุน | 30.5 ล้าน USD | 33.7 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇩 การผลิตน้ำมันดิบ | 80 BBL/D/1K | 70 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇸🇩 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇸🇩 นำเข้า | 1.122 ล้านล้าน USD | 975.717 ล้าน USD | รายเดือน |
🇸🇩 ยอดการค้า | -829.854 ล้าน USD | -733.784 ล้าน USD | รายเดือน |
🇸🇩 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -1.753 ล้านล้าน USD | -1.667 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇩 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -2.48 % of GDP | -3.4 % of GDP | ประจำปี |
🇸🇩 ส่งออก | 292.137 ล้าน USD | 241.933 ล้าน USD | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความหมายถึงการลงทุนโดยหน่วยงานหรือบุคคลจากประเทศหนึ่งเข้าไปลงทุนในกิจการของประเทศอื่น โดยมีการถือหุ้นหรือสิทธิ์ในการบริหารจัดการกิจการนั้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต่างกับการลงทุนทางการเงินที่เน้นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อหากำไรในระยะสั้น ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจมหภาค ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศมักจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านการเพิ่มพูนทุนทรัพย์สิน การสร้างงานใหม่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเพิ่มผลผลิต ผู้ลงทุนต่างประเทศมักจะมองหาสิ่งที่พวกเขาสามารถได้รับจากการลงทุน เช่น ผลตอบแทนที่สูงขึ้น การกระจายความเสี่ยง การเข้าถึงแหล่งทรัพยากร หรือการขยายตลาดใหม่ ซึ่งทุกปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค ในมุมมองของประเทศที่รับการลงทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า FDI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ผ่านการนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ นอกจากนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังสามารถช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน โรงงาน และระบบสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจสามารถขยับขยายและพัฒนาได้เร็วขึ้น อีกประเด็นที่สำคัญคือผลกระทบต่อการว่างงาน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมักจะนำไปสู่การสร้างงานใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เมื่อมีการสร้างงานใหม่ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอัตราการว่างงาน แต่ยังช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น การใช้จ่ายนี้เองจะนำไปสู่การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันยั่งยืน สำหรับประเทศไทย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศถือเป็นแหล่งทุนที่สำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนโยบายที่เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยได้มีการออกกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมและสร้างความเอื้อต่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี การให้สิทธิเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และการส่งเสริมการลงทุนในคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones หรือ SEZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการให้สิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้มักจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมให้บริการ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและสามารถลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เมื่อพูดถึงปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทย มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ความเป็นกลางทางการเมือง ศักยภาพทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่เติบโต และการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเพียงบางส่วนของปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การมีนโยบายที่ชัดเจนและความโปร่งใสในการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่จะไม่สามารถละเลยได้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแต่ผลบวกเท่านั้น ยังมีผลกระทบบางประการที่ต้องระมัดระวัง เช่น การเข้าไปควบคุมกิจการที่อาจจะผูกขาดตลาด หรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินกว่าความจำเป็น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนเหล่านี้มีประโยชน์สูงสุดแก่เศรษฐกิจและประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ การพัฒนาเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในการรับมือกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การมีบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถสูงจะทำให้ประเทศมีโอกาสในการเจรจาและบริหารจัดการการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการพัฒนาทางทักษะที่คงอยู่และลดการพึ่งพาทรัพยากรจากต่างประเทศ สุดท้ายนี้ การมีข้อมูลครบถ้วนและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เว็บไซต์ eulerpool ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการนำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาค ทีมงานของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน และถูกต้องที่สุดเพื่อช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในเครื่องหมายที่จะบอกถึงสุขภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดและเติบโตในโลกเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว