ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สเปน หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่าสภาพปัจจุบันของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน สเปน คือ 48 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน สเปน ลดลงเป็น 48 % of GDP เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เคยเป็น 49.9 % of GDP ใน 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/12/2523 ถึง 1/12/2566 ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยใน สเปน อยู่ที่ 49.76 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลถึงในวันที่ 1/6/2553 กับ 85.8 % of GDP ในขณะที่ค่าสภาพต่ำสุดถูกบันทึกใน 1/3/2528 ด้วย 22.6 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/12/2523 | 24.1 % of GDP |
1/3/2524 | 23.9 % of GDP |
1/6/2524 | 24.2 % of GDP |
1/9/2524 | 24.4 % of GDP |
1/12/2524 | 25.3 % of GDP |
1/3/2525 | 25.1 % of GDP |
1/6/2525 | 25.4 % of GDP |
1/9/2525 | 25.5 % of GDP |
1/12/2525 | 26.1 % of GDP |
1/3/2526 | 26 % of GDP |
1/6/2526 | 25.9 % of GDP |
1/9/2526 | 25.5 % of GDP |
1/12/2526 | 25.9 % of GDP |
1/3/2527 | 24.5 % of GDP |
1/6/2527 | 24.2 % of GDP |
1/9/2527 | 22.9 % of GDP |
1/12/2527 | 23.4 % of GDP |
1/3/2528 | 22.6 % of GDP |
1/6/2528 | 23.1 % of GDP |
1/9/2528 | 22.8 % of GDP |
1/12/2528 | 23.4 % of GDP |
1/3/2529 | 22.6 % of GDP |
1/6/2529 | 23.1 % of GDP |
1/9/2529 | 22.9 % of GDP |
1/12/2529 | 23.8 % of GDP |
1/3/2530 | 23.8 % of GDP |
1/6/2530 | 24.7 % of GDP |
1/9/2530 | 24.9 % of GDP |
1/12/2530 | 26.3 % of GDP |
1/3/2531 | 26.1 % of GDP |
1/6/2531 | 26.7 % of GDP |
1/9/2531 | 27.3 % of GDP |
1/12/2531 | 29 % of GDP |
1/3/2532 | 29 % of GDP |
1/6/2532 | 30.4 % of GDP |
1/9/2532 | 30.4 % of GDP |
1/12/2532 | 31.1 % of GDP |
1/3/2533 | 30.9 % of GDP |
1/6/2533 | 31.3 % of GDP |
1/9/2533 | 30.8 % of GDP |
1/12/2533 | 30.6 % of GDP |
1/3/2534 | 30.5 % of GDP |
1/6/2534 | 31.2 % of GDP |
1/9/2534 | 30.6 % of GDP |
1/12/2534 | 31 % of GDP |
1/3/2535 | 30.2 % of GDP |
1/6/2535 | 30.8 % of GDP |
1/9/2535 | 30.7 % of GDP |
1/12/2535 | 31 % of GDP |
1/3/2536 | 30.9 % of GDP |
1/6/2536 | 31.3 % of GDP |
1/9/2536 | 31.5 % of GDP |
1/12/2536 | 31.4 % of GDP |
1/3/2537 | 31.1 % of GDP |
1/6/2537 | 31.3 % of GDP |
1/9/2537 | 30.8 % of GDP |
1/12/2537 | 31.1 % of GDP |
1/3/2538 | 31.1 % of GDP |
1/6/2538 | 31.5 % of GDP |
1/9/2538 | 31.2 % of GDP |
1/12/2538 | 31.2 % of GDP |
1/3/2539 | 31.5 % of GDP |
1/6/2539 | 32.4 % of GDP |
1/9/2539 | 31.9 % of GDP |
1/12/2539 | 32.1 % of GDP |
1/3/2540 | 32.3 % of GDP |
1/6/2540 | 33.6 % of GDP |
1/9/2540 | 33.6 % of GDP |
1/12/2540 | 34.3 % of GDP |
1/3/2541 | 35 % of GDP |
1/6/2541 | 36.5 % of GDP |
1/9/2541 | 36.7 % of GDP |
1/12/2541 | 37.9 % of GDP |
1/3/2542 | 39.1 % of GDP |
1/6/2542 | 40.5 % of GDP |
1/9/2542 | 40.9 % of GDP |
1/12/2542 | 42.1 % of GDP |
1/3/2543 | 42.9 % of GDP |
1/6/2543 | 43.9 % of GDP |
1/9/2543 | 44.2 % of GDP |
1/12/2543 | 45.4 % of GDP |
1/3/2544 | 45.5 % of GDP |
1/6/2544 | 46.6 % of GDP |
1/9/2544 | 46.5 % of GDP |
1/12/2544 | 47.1 % of GDP |
1/3/2545 | 48 % of GDP |
1/6/2545 | 49.6 % of GDP |
1/9/2545 | 50.1 % of GDP |
1/12/2545 | 51 % of GDP |
1/3/2546 | 51.9 % of GDP |
1/6/2546 | 53.9 % of GDP |
1/9/2546 | 54.7 % of GDP |
1/12/2546 | 56.6 % of GDP |
1/3/2547 | 57.9 % of GDP |
1/6/2547 | 60.4 % of GDP |
1/9/2547 | 61.4 % of GDP |
1/12/2547 | 63.4 % of GDP |
1/3/2548 | 64.7 % of GDP |
1/6/2548 | 67.4 % of GDP |
1/9/2548 | 68.4 % of GDP |
1/12/2548 | 70.8 % of GDP |
1/3/2549 | 72.4 % of GDP |
1/6/2549 | 75.2 % of GDP |
1/9/2549 | 75.9 % of GDP |
1/12/2549 | 78 % of GDP |
1/3/2550 | 79 % of GDP |
1/6/2550 | 80.9 % of GDP |
1/9/2550 | 81.2 % of GDP |
1/12/2550 | 81.8 % of GDP |
1/3/2551 | 81.8 % of GDP |
1/6/2551 | 82.8 % of GDP |
1/9/2551 | 82.3 % of GDP |
1/12/2551 | 82.6 % of GDP |
1/3/2552 | 82.5 % of GDP |
1/6/2552 | 84 % of GDP |
1/9/2552 | 84.3 % of GDP |
1/12/2552 | 85 % of GDP |
1/3/2553 | 84.7 % of GDP |
1/6/2553 | 85.8 % of GDP |
1/9/2553 | 84.5 % of GDP |
1/12/2553 | 84.4 % of GDP |
1/3/2554 | 83.4 % of GDP |
1/6/2554 | 83.5 % of GDP |
1/9/2554 | 82.6 % of GDP |
1/12/2554 | 82.5 % of GDP |
1/3/2555 | 81.9 % of GDP |
1/6/2555 | 82.2 % of GDP |
1/9/2555 | 81.5 % of GDP |
1/12/2555 | 81.5 % of GDP |
1/3/2556 | 80.5 % of GDP |
1/6/2556 | 80.3 % of GDP |
1/9/2556 | 78.9 % of GDP |
1/12/2556 | 77.7 % of GDP |
1/3/2557 | 76.5 % of GDP |
1/6/2557 | 76.3 % of GDP |
1/9/2557 | 74.7 % of GDP |
1/12/2557 | 73.4 % of GDP |
1/3/2558 | 71.9 % of GDP |
1/6/2558 | 71.3 % of GDP |
1/9/2558 | 69.3 % of GDP |
1/12/2558 | 68 % of GDP |
1/3/2559 | 66.8 % of GDP |
1/6/2559 | 66.8 % of GDP |
1/9/2559 | 65.3 % of GDP |
1/12/2559 | 64.5 % of GDP |
1/3/2560 | 63.5 % of GDP |
1/6/2560 | 63.4 % of GDP |
1/9/2560 | 61.9 % of GDP |
1/12/2560 | 61.1 % of GDP |
1/3/2561 | 60.5 % of GDP |
1/6/2561 | 60.7 % of GDP |
1/9/2561 | 59.6 % of GDP |
1/12/2561 | 58.9 % of GDP |
1/3/2562 | 58.2 % of GDP |
1/6/2562 | 58.5 % of GDP |
1/9/2562 | 57.3 % of GDP |
1/12/2562 | 56.8 % of GDP |
1/3/2563 | 57 % of GDP |
1/6/2563 | 60.7 % of GDP |
1/9/2563 | 61.2 % of GDP |
1/12/2563 | 62.6 % of GDP |
1/3/2564 | 62.6 % of GDP |
1/6/2564 | 61 % of GDP |
1/9/2564 | 59.1 % of GDP |
1/12/2564 | 57.6 % of GDP |
1/3/2565 | 56.1 % of GDP |
1/6/2565 | 55.6 % of GDP |
1/9/2565 | 53.7 % of GDP |
1/12/2565 | 52.3 % of GDP |
1/3/2566 | 50.4 % of GDP |
1/6/2566 | 49.9 % of GDP |
1/9/2566 | 48 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 48 % of GDP |
1/6/2566 | 49.9 % of GDP |
1/3/2566 | 50.4 % of GDP |
1/12/2565 | 52.3 % of GDP |
1/9/2565 | 53.7 % of GDP |
1/6/2565 | 55.6 % of GDP |
1/3/2565 | 56.1 % of GDP |
1/12/2564 | 57.6 % of GDP |
1/9/2564 | 59.1 % of GDP |
1/6/2564 | 61 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇪🇸 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 208.818 ล้านล้าน EUR | 208.082 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇪🇸 การออมส่วนบุคคล | 21.17 % | 6.63 % | ควอร์เตอร์ |
🇪🇸 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 84.5 points | 82.5 points | รายเดือน |
🇪🇸 เครดิตของภาคเอกชน | 1.146 ชีวภาพ. EUR | 1.153 ชีวภาพ. EUR | รายเดือน |
🇪🇸 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 1 % | 0.4 % | รายเดือน |
🇪🇸 ยอดขายปลีกประจำปี | 0.2 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇪🇸 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.7 USD/Liter | 1.73 USD/Liter | รายเดือน |
🇪🇸 รายได้ส่วนบุคคลที่ใช้ได้ | 299.999 ล้านล้าน EUR | 251.796 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇪🇸 สินเชื่อบุคคล | 629.328 ล้านล้าน EUR | 631.222 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇪🇸 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 3.89 % | 3.61 % | รายเดือน |
🇪🇸 อัตราส่วนหนี้สินของครัวเรือนต่อรายได้ | 84.78 % | 88.35 % | ประจำปี |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ