ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ซิมบับเว การนำเข้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าในซิมบับเวคือ719 ล้านUSD การนำเข้าในซิมบับเวลดลงมาที่719 ล้านUSDเมื่อวันที่1/3/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่725.4 ล้านUSDเมื่อวันที่1/2/2567 จากช่วง1/12/2536ถึง1/4/2567, GDP เฉลี่ยในซิมบับเวอยู่ที่714.77 ล้านUSD ค่าอยู่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2552ด้วย6.21 ล้านล้านUSD, ในขณะที่ค่าที่ต่ำที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อ1/4/2563ด้วย224.7 ล้านUSD
การนำเข้า ·
แม็กซ์
นำเข้า | |
---|---|
1/12/2536 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/12/2537 | 1.78 ล้านล้าน USD |
1/12/2538 | 2.13 ล้านล้าน USD |
1/12/2539 | 2.25 ล้านล้าน USD |
1/12/2540 | 2.65 ล้านล้าน USD |
1/12/2541 | 2.02 ล้านล้าน USD |
1/12/2542 | 1.68 ล้านล้าน USD |
1/12/2543 | 1.91 ล้านล้าน USD |
1/12/2544 | 1.83 ล้านล้าน USD |
1/12/2545 | 1.82 ล้านล้าน USD |
1/12/2546 | 1.78 ล้านล้าน USD |
1/12/2547 | 1.99 ล้านล้าน USD |
1/12/2548 | 1.99 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 1.97 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 1.94 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 2.63 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 6.21 ล้านล้าน USD |
1/1/2553 | 340.69 ล้าน USD |
1/2/2553 | 357.37 ล้าน USD |
1/3/2553 | 447.46 ล้าน USD |
1/4/2553 | 495.27 ล้าน USD |
1/5/2553 | 474.57 ล้าน USD |
1/6/2553 | 479.78 ล้าน USD |
1/7/2553 | 509.46 ล้าน USD |
1/8/2553 | 524.92 ล้าน USD |
1/9/2553 | 530.16 ล้าน USD |
1/10/2553 | 564.64 ล้าน USD |
1/11/2553 | 570.56 ล้าน USD |
1/12/2553 | 570.06 ล้าน USD |
1/1/2554 | 559.09 ล้าน USD |
1/2/2554 | 550.18 ล้าน USD |
1/3/2554 | 512.38 ล้าน USD |
1/4/2554 | 559.85 ล้าน USD |
1/5/2554 | 623.21 ล้าน USD |
1/6/2554 | 630.45 ล้าน USD |
1/7/2554 | 648.46 ล้าน USD |
1/8/2554 | 1.22 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 815.14 ล้าน USD |
1/10/2554 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/11/2554 | 622.94 ล้าน USD |
1/12/2554 | 587.87 ล้าน USD |
1/1/2555 | 609.64 ล้าน USD |
1/2/2555 | 470.58 ล้าน USD |
1/3/2555 | 512.17 ล้าน USD |
1/4/2555 | 490.14 ล้าน USD |
1/5/2555 | 523.92 ล้าน USD |
1/6/2555 | 500.35 ล้าน USD |
1/7/2555 | 674.01 ล้าน USD |
1/8/2555 | 799.49 ล้าน USD |
1/9/2555 | 633.03 ล้าน USD |
1/10/2555 | 890.79 ล้าน USD |
1/11/2555 | 713.43 ล้าน USD |
1/12/2555 | 665.5 ล้าน USD |
1/1/2556 | 606.71 ล้าน USD |
1/2/2556 | 499.16 ล้าน USD |
1/3/2556 | 532.81 ล้าน USD |
1/4/2556 | 963.64 ล้าน USD |
1/5/2556 | 580.03 ล้าน USD |
1/6/2556 | 714.12 ล้าน USD |
1/7/2556 | 572.8 ล้าน USD |
1/8/2556 | 703.92 ล้าน USD |
1/9/2556 | 750.21 ล้าน USD |
1/10/2556 | 609.95 ล้าน USD |
1/11/2556 | 594.16 ล้าน USD |
1/12/2556 | 576.47 ล้าน USD |
1/1/2557 | 487.82 ล้าน USD |
1/2/2557 | 478.79 ล้าน USD |
1/3/2557 | 499.94 ล้าน USD |
1/4/2557 | 463.05 ล้าน USD |
1/5/2557 | 481.72 ล้าน USD |
1/6/2557 | 497.74 ล้าน USD |
1/7/2557 | 508.21 ล้าน USD |
1/8/2557 | 516.32 ล้าน USD |
1/9/2557 | 546.76 ล้าน USD |
1/10/2557 | 601.57 ล้าน USD |
1/11/2557 | 529.93 ล้าน USD |
1/12/2557 | 497.63 ล้าน USD |
1/1/2558 | 519.5 ล้าน USD |
1/2/2558 | 474.43 ล้าน USD |
1/3/2558 | 499.61 ล้าน USD |
1/4/2558 | 438.48 ล้าน USD |
1/5/2558 | 453 ล้าน USD |
1/6/2558 | 532.21 ล้าน USD |
1/7/2558 | 541.58 ล้าน USD |
1/8/2558 | 512.23 ล้าน USD |
1/9/2558 | 583.68 ล้าน USD |
1/10/2558 | 515.94 ล้าน USD |
1/11/2558 | 449.29 ล้าน USD |
1/12/2558 | 481.11 ล้าน USD |
1/1/2559 | 395.36 ล้าน USD |
1/2/2559 | 427.32 ล้าน USD |
1/3/2559 | 478.07 ล้าน USD |
1/4/2559 | 356.48 ล้าน USD |
1/5/2559 | 408.23 ล้าน USD |
1/6/2559 | 429.59 ล้าน USD |
1/7/2559 | 394.43 ล้าน USD |
1/8/2559 | 449.55 ล้าน USD |
1/9/2559 | 444.73 ล้าน USD |
1/10/2559 | 468.08 ล้าน USD |
1/11/2559 | 475.54 ล้าน USD |
1/12/2559 | 488.97 ล้าน USD |
1/1/2560 | 384.96 ล้าน USD |
1/2/2560 | 424.36 ล้าน USD |
1/3/2560 | 461.77 ล้าน USD |
1/4/2560 | 405.54 ล้าน USD |
1/5/2560 | 465.65 ล้าน USD |
1/6/2560 | 495.15 ล้าน USD |
1/7/2560 | 481.91 ล้าน USD |
1/8/2560 | 448.27 ล้าน USD |
1/9/2560 | 440 ล้าน USD |
1/10/2560 | 460.8 ล้าน USD |
1/11/2560 | 493.7 ล้าน USD |
1/12/2560 | 556.3 ล้าน USD |
1/1/2561 | 489.7 ล้าน USD |
1/2/2561 | 574.94 ล้าน USD |
1/3/2561 | 606.04 ล้าน USD |
1/4/2561 | 544.56 ล้าน USD |
1/5/2561 | 532.43 ล้าน USD |
1/6/2561 | 614.6 ล้าน USD |
1/7/2561 | 560 ล้าน USD |
1/8/2561 | 576.5 ล้าน USD |
1/9/2561 | 587.33 ล้าน USD |
1/10/2561 | 592.3 ล้าน USD |
1/11/2561 | 628.7 ล้าน USD |
1/12/2561 | 494.7 ล้าน USD |
1/1/2562 | 336.8 ล้าน USD |
1/2/2562 | 370.5 ล้าน USD |
1/3/2562 | 329 ล้าน USD |
1/4/2562 | 416.7 ล้าน USD |
1/5/2562 | 436.8 ล้าน USD |
1/6/2562 | 458.5 ล้าน USD |
1/7/2562 | 357 ล้าน USD |
1/8/2562 | 384.2 ล้าน USD |
1/9/2562 | 403.9 ล้าน USD |
1/10/2562 | 400.6 ล้าน USD |
1/11/2562 | 431.2 ล้าน USD |
1/12/2562 | 418.8 ล้าน USD |
1/1/2563 | 383.5 ล้าน USD |
1/2/2563 | 455.3 ล้าน USD |
1/3/2563 | 450.5 ล้าน USD |
1/4/2563 | 224.7 ล้าน USD |
1/5/2563 | 361.1 ล้าน USD |
1/6/2563 | 407.3 ล้าน USD |
1/7/2563 | 345.8 ล้าน USD |
1/8/2563 | 404.9 ล้าน USD |
1/9/2563 | 441.4 ล้าน USD |
1/10/2563 | 490.2 ล้าน USD |
1/11/2563 | 509.7 ล้าน USD |
1/12/2563 | 527.2 ล้าน USD |
1/1/2564 | 460.3 ล้าน USD |
1/2/2564 | 451.9 ล้าน USD |
1/3/2564 | 527.2 ล้าน USD |
1/4/2564 | 489.9 ล้าน USD |
1/5/2564 | 503.1 ล้าน USD |
1/6/2564 | 622.2 ล้าน USD |
1/7/2564 | 667.6 ล้าน USD |
1/8/2564 | 630.2 ล้าน USD |
1/9/2564 | 666.7 ล้าน USD |
1/10/2564 | 713.6 ล้าน USD |
1/11/2564 | 684.3 ล้าน USD |
1/12/2564 | 771.2 ล้าน USD |
1/1/2565 | 633.2 ล้าน USD |
1/2/2565 | 630.1 ล้าน USD |
1/3/2565 | 713.8 ล้าน USD |
1/4/2565 | 637.2 ล้าน USD |
1/5/2565 | 714.4 ล้าน USD |
1/6/2565 | 751.4 ล้าน USD |
1/7/2565 | 728.2 ล้าน USD |
1/8/2565 | 759.9 ล้าน USD |
1/9/2565 | 765.3 ล้าน USD |
1/10/2565 | 770.5 ล้าน USD |
1/11/2565 | 802.2 ล้าน USD |
1/12/2565 | 772.6 ล้าน USD |
1/1/2566 | 633.8 ล้าน USD |
1/2/2566 | 623.5 ล้าน USD |
1/3/2566 | 746.4 ล้าน USD |
1/4/2566 | 708.6 ล้าน USD |
1/5/2566 | 850.3 ล้าน USD |
1/6/2566 | 727.4 ล้าน USD |
1/7/2566 | 782.9 ล้าน USD |
1/8/2566 | 820.2 ล้าน USD |
1/9/2566 | 772.7 ล้าน USD |
1/10/2566 | 901.5 ล้าน USD |
1/11/2566 | 827.3 ล้าน USD |
1/12/2566 | 819.4 ล้าน USD |
1/1/2567 | 686.9 ล้าน USD |
1/2/2567 | 725.4 ล้าน USD |
1/3/2567 | 719 ล้าน USD |
การนำเข้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 719 ล้าน USD |
1/2/2567 | 725.4 ล้าน USD |
1/1/2567 | 686.9 ล้าน USD |
1/12/2566 | 819.4 ล้าน USD |
1/11/2566 | 827.3 ล้าน USD |
1/10/2566 | 901.5 ล้าน USD |
1/9/2566 | 772.7 ล้าน USD |
1/8/2566 | 820.2 ล้าน USD |
1/7/2566 | 782.9 ล้าน USD |
1/6/2566 | 727.4 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇿🇼 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇿🇼 ยอดการค้า | -184.3 ล้าน USD | -81.4 ล้าน USD | รายเดือน |
🇿🇼 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 133.9 ล้าน USD | 305 ล้าน USD | ประจำปี |
🇿🇼 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 1.603 ล้าน | 1.044 ล้าน | ประจำปี |
🇿🇼 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 1 % of GDP | 2.9 % of GDP | ประจำปี |
🇿🇼 ส่งออก | 515.5 ล้าน USD | 534.7 ล้าน USD | รายเดือน |
🇿🇼 หนี้สินต่างประเทศ | 13.325 ล้านล้าน USD | 14.324 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
การนำเข้าสินค้าหลักของซิมบับเว ได้แก่ ยานพาหนะและเครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิง และอาหาร พันธมิตรการนำเข้าสินค้าหลักของซิมบับเวคือ แอฟริกาใต้และจีน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
คืออะไร การนำเข้า
การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป