ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

23,8 % Ø-Performance der Fair-Value-Strategie seit 2003
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇬🇧

สหราชอาณาจักร การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ

ราคา

14.908 ล้านล้าน GBP
การเปลี่ยนแปลง +/-
-1.002 ล้านล้าน GBP
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-6.50 %

มูลค่าปัจจุบันของการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐในสหราชอาณาจักรคือ14.908 ล้านล้านGBP การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐในสหราชอาณาจักรลดลงเป็น14.908 ล้านล้านGBPเมื่อ1/1/2568หลังจากที่เป็น15.91 ล้านล้านGBPเมื่อ1/1/2567 จาก1/1/2536ถึง1/4/2568ค่าเฉลี่ย GDP ในสหราชอาณาจักรอยู่ที่-5.83 ล้านล้านGBP มูลค่าสูงสุดตลอดกาลบรรลุใน1/1/2567ด้วย15.91 ล้านล้านGBPในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกใน1/5/2563ด้วย-50.66 ล้านล้านGBP

แหล่งที่มา: Office for National Statistics

การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ

  • แม็กซ์

การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ

การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/256814.908 ล้านล้าน GBP
1/1/256715.91 ล้านล้าน GBP
1/1/25669.645 ล้านล้าน GBP
1/7/2565335 ล้าน GBP
1/1/256512.674 ล้านล้าน GBP
1/1/25638.905 ล้านล้าน GBP
1/7/25621.605 ล้านล้าน GBP
1/3/2562784 ล้าน GBP
1/1/256211.052 ล้านล้าน GBP
1/7/25613.225 ล้านล้าน GBP
1
2
3
4
5
...
6

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇬🇧
การชำระดอกเบี้ยค่าหนี้สินของรัฐบาล
9.017 ล้านล้าน GBP4.499 ล้านล้าน GBPรายเดือน
🇬🇧
การใช้จ่ายทางทหาร
81.763 ล้านล้าน USD75.303 ล้านล้าน USDประจำปี
🇬🇧
ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP
44.7 % of GDP44.8 % of GDPประจำปี
🇬🇧
คำขอลี้ภัย
17,101 persons26,366 personsควอร์เตอร์
🇬🇧
งบประมาณของรัฐ
-4.8 % of GDP-4.8 % of GDPประจำปี
🇬🇧
ดัชนีการทุจริต
71 Points71 Pointsประจำปี
🇬🇧
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-20.155 ล้านล้าน GBP-14.139 ล้านล้าน GBPรายเดือน
🇬🇧
รัฐบาลใช้จ่าย
111.768 ล้านล้าน GBP119.427 ล้านล้าน GBPรายเดือน
🇬🇧
รัฐบาลใช้จ่าย
138.066 ล้านล้าน GBP138.771 ล้านล้าน GBPควอร์เตอร์
🇬🇧
รายได้ของรัฐ
91.613 ล้านล้าน GBP105.288 ล้านล้าน GBPรายเดือน
🇬🇧
รายได้จากภาษี
62.134 ล้านล้าน GBP71.551 ล้านล้าน GBPรายเดือน
🇬🇧
หนี้สาธารณะ
2.828 ชีวภาพ. GBP2.807 ชีวภาพ. GBPรายเดือน
🇬🇧
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
95.9 % of GDP95.5 % of GDPประจำปี
🇬🇧
หนี้สุทธิของรัฐบาลต่อ GDP
95.5 % of GDP95.1 % of GDPรายเดือน
🇬🇧
อันดับคอร์รัปชั่น
20 20 ประจำปี

ในสหราชอาณาจักร มาตรวัดการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ (PSNB) ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงในมูลหนี้สินสุทธิทางการเงินของภาครัฐ ซึ่งแสดงถึงดุลของบัญชีทางการเงิน: ความแตกต่างระหว่างการเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงินสุทธิกับการก่อหนี้สินสุทธิ มาตรวัดการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ (PSNB) มักถูกเรียกโดยผู้วิจารณ์ว่า "การขาดดุล"

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การกู้ยืมสุทธิของภาครัฐ

การกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐ (Public Sector Net Borrowing) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนโยบายการคลังของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในยุคที่เกือบทุกประเทศต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเงินอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 การเข้าใจตัวชี้วัดนี้จึงมีความสำคัญมาก สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด การกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐ หมายถึงปริมาณเงินที่รัฐบาลยืมมาจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเอกชน, ตลาดทุน, หรือจากต่างประเทศ เพื่อนำมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ เนื่องจากรายได้จากภาษีและรายได้อื่นๆ ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย การกู้ยืมนี้ยังครอบคลุมถึงหนี้สินที่เกิดจากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และองค์กรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอีกด้วย ภาคการคลังของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตั้งแต่การสรรหาทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, การบริการสาธารณะ, ไปจนถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในกรณีที่เผชิญกับภาวะถดถอย การรู้จักและเข้าใจตัวชี้วัดการกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการประเมินเสถียรภาพทางการคลังและภาวะหนี้สินของรัฐทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัจจัยหลายประการที่มีผลกระทบต่อการกู้ยืมของภาครัฐ ได้แก่ การบริหารจัดการงบประมาณ, สภาวะเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากรัฐบาลมีการจัดการงบประมาณที่ดีและมีประสิทธิภาพ อัตราการกู้ยืมก็จะอยู่ในระดับที่ไม่เป็นภาระหนักต่อเศรษฐกิจชาติ แต่หากเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น วิกฤตทางสาธารณสุขหรือภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ การกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับการใช้จ่ายฉุกเฉิน การวิเคราะห์การกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐยังเชื่อมโยงกับความสามารถในการชำระหนี้ และความชัดเจนในการกำหนดนโยบายการคลัง รัฐบาลต้องหาวิธีการและแหล่งที่ให้การกู้ยืม โดยคำนึงถึงประโยชน์และต้นทุน นอกจากนั้นต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการกู้ยืม และมีแผนการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการกู้ยืมนั้นๆ นอกจากปัจจัยภายในประเทศแล้ว ปัจจัยระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อระดับการกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐเช่นกัน ตลาดการเงินระหว่างประเทศ, การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน, และนโยบายการคลังของประเทศอื่นอาจมีผลต่อดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้ยืม รัฐบาลต้องมีการวิเคราะห์สภาวะดังกล่าวอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าอัตราการกู้ยืมจะไม่ทำให้เกิดภาระหนักในอนาคต การสื่อสารและความโปร่งใสในการบริหารจัดการการกู้ยืมเงินสุทธิของรัฐยังเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน ในยุคที่ข้อมูลสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว ความโปร่งใสในการประกาศข้อมูลการเงิน สถานะการคลัง และแนวทางการชำระหนี้ จะมีผลต่อเสถียรภาพของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม การวิเคราะห์ตัวชี้วัดการกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐโดยละเอียดและมีความถูกต้อง สามารถนำมาใช้ในการกำหนดนโยบายการคลังที่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐสามารถลดภาระหนี้และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบประมาณได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ความสามารถในการทำนโยบายและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว สำหรับผู้ที่สนใจติดตามการกู้ยืมเงินสุทธิของภาครัฐในการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ทางเว็บไซต์ eulerpool ของเราได้ให้บริการข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย ผ่านการวิเคราะห์และการเก็บรวมรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ จัดให้มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทุกคน