ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇱

โปแลนด์ ดุลการค้า

ราคา

486 ล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+162 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+40.00 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน โปแลนด์ คือ 486 ล้าน EUR ดุลการค้าใน โปแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 486 ล้าน EUR เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 324 ล้าน EUR เมื่อ 1/2/2567 จาก 1/1/2543 ถึง 1/4/2567 GDP เฉลี่ยใน โปแลนด์ คือ -676.92 ล้าน EUR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/6/2563 โดยมีมูลค่า 1.93 ล้านล้าน EUR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/2/2565 โดยมีมูลค่า -3.29 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: National Bank of Poland

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/2567486 ล้าน EUR
1/2/2567324 ล้าน EUR
1/1/25671.297 ล้านล้าน EUR
1/10/25661.055 ล้านล้าน EUR
1/9/2566585 ล้าน EUR
1/8/2566116 ล้าน EUR
1/7/256679 ล้าน EUR
1/6/25661.482 ล้านล้าน EUR
1/5/2566895 ล้าน EUR
1/4/2566258 ล้าน EUR
1
2
3
4
...
5

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇱
กระแสเงินทุน
253 ล้าน EUR88 ล้าน EURรายเดือน
🇵🇱
การขายอาวุธ
499 ล้าน SIPRI TIV419 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇵🇱
การผลิตน้ำมันดิบ
14 BBL/D/1K17 BBL/D/1Kรายเดือน
🇵🇱
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
251.554 ล้านล้าน EUR238.97 ล้านล้าน EURประจำปี
🇵🇱
การโอนเงิน
681 ล้าน EUR664 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇵🇱
เงื่อนไขการซื้อขาย
96 points97 pointsรายเดือน
🇵🇱
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇵🇱
ทองคำสำรอง
358.69 Tonnes358.69 Tonnesควอร์เตอร์
🇵🇱
นำเข้า
27.283 ล้านล้าน EUR26.971 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇱
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
67,276.837 Terajoule62,160.285 Terajouleรายเดือน
🇵🇱
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
588 ล้าน EUR168 ล้าน EURรายเดือน
🇵🇱
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
1.6 % of GDP-2.4 % of GDPประจำปี
🇵🇱
ส่งออก
27.979 ล้านล้าน EUR28.331 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇱
หนี้สินต่างประเทศ
431.553 ล้านล้าน USD429.065 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

จากช่วงต้นทศวรรษที่ผ่านมา การหมุนเวียนการค้าต่างประเทศของโปแลนด์เพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า โปแลนด์ส่งออกผลไม้และผักแปรรูป เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์อิเล็กโทรเมคานิค ยานพาหนะ เครื่องบิน และเรือ ส่วนใหญ่นำเข้าของโปแลนด์คือสินค้าทุนที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงอุตสาหกรรมและสำหรับการผลิต เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง เคมีภัณฑ์ แร่ เชื้อเพลิง และสารหล่อลื่น สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของโปแลนด์ คิดเป็นประมาณ 79% ของการส่งออกและ 64% ของการนำเข้า

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว