ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร นิวซีแลนด์ รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 141.627 ล้านล้าน NZD รายได้ของรัฐบาลใน นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 141.627 ล้านล้าน NZD เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 129.335 ล้านล้าน NZD เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2533 ถึง 1/1/2566 GDP เฉลี่ยใน นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 70.49 ล้านล้าน NZD โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2566 ด้วย 153.01 ล้านล้าน NZD ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2533 ด้วย 23.03 ล้านล้าน NZD
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/1/2533 | 23.03 ล้านล้าน NZD |
1/1/2534 | 25.01 ล้านล้าน NZD |
1/1/2535 | 28.87 ล้านล้าน NZD |
1/1/2536 | 29.84 ล้านล้าน NZD |
1/1/2537 | 30.18 ล้านล้าน NZD |
1/1/2538 | 33.65 ล้านล้าน NZD |
1/1/2539 | 35.06 ล้านล้าน NZD |
1/1/2540 | 34.78 ล้านล้าน NZD |
1/1/2541 | 35.58 ล้านล้าน NZD |
1/1/2542 | 41.99 ล้านล้าน NZD |
1/1/2543 | 41.61 ล้านล้าน NZD |
1/1/2544 | 45.1 ล้านล้าน NZD |
1/1/2545 | 49.95 ล้านล้าน NZD |
1/1/2546 | 56.61 ล้านล้าน NZD |
1/1/2547 | 59.27 ล้านล้าน NZD |
1/1/2548 | 65.13 ล้านล้าน NZD |
1/1/2549 | 71.19 ล้านล้าน NZD |
1/1/2550 | 74.35 ล้านล้าน NZD |
1/1/2551 | 81.24 ล้านล้าน NZD |
1/1/2552 | 59.19 ล้านล้าน NZD |
1/1/2553 | 73.73 ล้านล้าน NZD |
1/1/2554 | 80.65 ล้านล้าน NZD |
1/1/2555 | 82.75 ล้านล้าน NZD |
1/1/2556 | 85.68 ล้านล้าน NZD |
1/1/2557 | 88.54 ล้านล้าน NZD |
1/1/2558 | 93.81 ล้านล้าน NZD |
1/1/2559 | 97.42 ล้านล้าน NZD |
1/1/2560 | 103.42 ล้านล้าน NZD |
1/1/2561 | 109.97 ล้านล้าน NZD |
1/1/2562 | 119.14 ล้านล้าน NZD |
1/1/2563 | 116 ล้านล้าน NZD |
1/1/2564 | 129.34 ล้านล้าน NZD |
1/1/2565 | 141.63 ล้านล้าน NZD |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 141.627 ล้านล้าน NZD |
1/1/2564 | 129.335 ล้านล้าน NZD |
1/1/2563 | 116.003 ล้านล้าน NZD |
1/1/2562 | 119.142 ล้านล้าน NZD |
1/1/2561 | 109.973 ล้านล้าน NZD |
1/1/2560 | 103.422 ล้านล้าน NZD |
1/1/2559 | 97.416 ล้านล้าน NZD |
1/1/2558 | 93.805 ล้านล้าน NZD |
1/1/2557 | 88.536 ล้านล้าน NZD |
1/1/2556 | 85.678 ล้านล้าน NZD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇳🇿 การใช้จ่ายทางทหาร | 3.029 ล้านล้าน USD | 2.829 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇳🇿 งบประมาณของรัฐ | -2.4 % of GDP | -2.7 % of GDP | ประจำปี |
🇳🇿 ดัชนีการทุจริต | 85 Points | 87 Points | ประจำปี |
🇳🇿 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -9.446 ล้านล้าน NZD | -9.691 ล้านล้าน NZD | ประจำปี |
🇳🇿 รัฐบาลใช้จ่าย | 161.822 ล้านล้าน NZD | 150.956 ล้านล้าน NZD | ประจำปี |
🇳🇿 รัฐบาลใช้จ่าย | 14.454 ล้านล้าน NZD | 14.491 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 หนี้สาธารณะ | 155.273 ล้านล้าน NZD | 128.873 ล้านล้าน NZD | ประจำปี |
🇳🇿 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 35.9 % of GDP | 29.8 % of GDP | ประจำปี |
🇳🇿 อันดับคอร์รัปชั่น | 3 | 2 | ประจำปี |
รายได้ของรัฐบาล หมายถึง รายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากเงินทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณดุลการคลังของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป