ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇿

นิวซีแลนด์ อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

4 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.7 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-16.09 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน นิวซีแลนด์ คือ 4 % อัตราเงินเฟ้อ ใน นิวซีแลนด์ ลดลงถึง 4 % เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.7 % เมื่อ 1/12/2566 จาก 1/9/2467 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 4.35 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/6/2530 ที่ 18.9 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/12/2475 ที่ -9.2 %

แหล่งที่มา: Statistics New Zealand

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25674 %
1/12/25664.7 %
1/9/25665.6 %
1/6/25666 %
1/3/25666.7 %
1/12/25657.2 %
1/9/25657.2 %
1/6/25657.3 %
1/3/25656.9 %
1/12/25645.9 %
1
2
3
4
5
...
37

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇿
CPI Transport
1,268 points1,301 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
PPI อินพุต
0.7 %0.9 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
2.6 %2 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
2.3 %2.5 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0.2 %0.8 %รายเดือน
🇳🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
1,267 points1,259 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
1,357 points1,347 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
1,260 points1,250 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ต้นทุนการผลิต
1,409 points1,397 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ต้นทุนการผลิต
1,384 points1,371 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ตัวคูณ GDP
1,460 points1,439 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ราคานำเข้า
998 points1,052 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ราคานำเข้า MoM
-5.1 %3.8 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
ราคาวัตถุดิบ YoY
0.899 %3.548 %รายเดือน
🇳🇿
ราคาส่งออก
1,362 points1,366 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ราคาส่งออกเดือนต่อเดือน
-0.3 %-4.2 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.6 %0.5 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
0.9 %0.7 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.7 %4.4 %ควอร์เตอร์

ในนิวซีแลนด์ หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภค คือ ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (คิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) อาหารคิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ การขนส่งคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ การพักผ่อนและวัฒนธรรมคิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ดคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบคิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ สินค้าและบริการในครัวเรือน สุขภาพ เสื้อผ้าและรองเท้า การสื่อสาร และการศึกษาคิดเป็นอีก 16 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ