ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇴

มาเก๊า รายได้ของรัฐบาล

ราคา

24.329 ล้านล้าน MOP
การเปลี่ยนแปลง +/-
+6.274 ล้านล้าน MOP
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+29.60 %

มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน มาเก๊า อยู่ที่ 24.329 ล้านล้าน MOP รายได้ของรัฐบาลใน มาเก๊า เพิ่มขึ้นเป็น 24.329 ล้านล้าน MOP เมื่อ 1/6/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 18.055 ล้านล้าน MOP เมื่อ 1/3/2566 จาก 1/3/2546 ถึง 1/9/2566 GDP เฉลี่ยใน มาเก๊า อยู่ที่ 21.3 ล้านล้าน MOP โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/6/2557 ด้วย 44.76 ล้านล้าน MOP ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/6/2546 ด้วย 3.17 ล้านล้าน MOP

แหล่งที่มา: Monetary Authority Of Macao

รายได้ของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รายได้ของรัฐ

รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/6/256624.329 ล้านล้าน MOP
1/3/256618.055 ล้านล้าน MOP
1/9/25658.028 ล้านล้าน MOP
1/6/25659.015 ล้านล้าน MOP
1/3/256512.434 ล้านล้าน MOP
1/12/256414.262 ล้านล้าน MOP
1/9/256414.367 ล้านล้าน MOP
1/6/256416.98 ล้านล้าน MOP
1/3/256415.193 ล้านล้าน MOP
1/12/256316.225 ล้านล้าน MOP
1
2
3
4
5
...
9

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇴
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
10.239 ล้านล้าน MOP3.669 ล้านล้าน MOPควอร์เตอร์
🇲🇴
รัฐบาลใช้จ่าย
16.902 ล้านล้าน MOP20.66 ล้านล้าน MOPควอร์เตอร์
🇲🇴
รัฐบาลใช้จ่าย
9.925 ล้าน MOP15.457 ล้าน MOPควอร์เตอร์

รายได้ของรัฐบาลหมายถึงรายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากการลงทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลถือเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณการสมดุลงบประมาณของรัฐบาล

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร รายได้ของรัฐบาล

รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป