ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มาเก๊า รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน มาเก๊า อยู่ที่ 24.329 ล้านล้าน MOP รายได้ของรัฐบาลใน มาเก๊า เพิ่มขึ้นเป็น 24.329 ล้านล้าน MOP เมื่อ 1/6/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 18.055 ล้านล้าน MOP เมื่อ 1/3/2566 จาก 1/3/2546 ถึง 1/9/2566 GDP เฉลี่ยใน มาเก๊า อยู่ที่ 21.3 ล้านล้าน MOP โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/6/2557 ด้วย 44.76 ล้านล้าน MOP ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/6/2546 ด้วย 3.17 ล้านล้าน MOP
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/3/2546 | 3.51 ล้านล้าน MOP |
1/6/2546 | 3.17 ล้านล้าน MOP |
1/9/2546 | 4.04 ล้านล้าน MOP |
1/12/2546 | 4.57 ล้านล้าน MOP |
1/3/2547 | 4.16 ล้านล้าน MOP |
1/6/2547 | 4.52 ล้านล้าน MOP |
1/9/2547 | 6.02 ล้านล้าน MOP |
1/12/2547 | 6.19 ล้านล้าน MOP |
1/3/2548 | 5.13 ล้านล้าน MOP |
1/6/2548 | 5.75 ล้านล้าน MOP |
1/9/2548 | 6.38 ล้านล้าน MOP |
1/12/2548 | 6.57 ล้านล้าน MOP |
1/3/2549 | 6 ล้านล้าน MOP |
1/6/2549 | 6.94 ล้านล้าน MOP |
1/9/2549 | 7.69 ล้านล้าน MOP |
1/12/2549 | 8.44 ล้านล้าน MOP |
1/3/2550 | 9.78 ล้านล้าน MOP |
1/6/2550 | 9.2 ล้านล้าน MOP |
1/9/2550 | 11.25 ล้านล้าน MOP |
1/12/2550 | 12.01 ล้านล้าน MOP |
1/3/2551 | 13.23 ล้านล้าน MOP |
1/6/2551 | 12.9 ล้านล้าน MOP |
1/9/2551 | 14.28 ล้านล้าน MOP |
1/12/2551 | 15.51 ล้านล้าน MOP |
1/3/2552 | 11.47 ล้านล้าน MOP |
1/6/2552 | 11.74 ล้านล้าน MOP |
1/9/2552 | 15.85 ล้านล้าน MOP |
1/12/2552 | 17.62 ล้านล้าน MOP |
1/3/2553 | 17.13 ล้านล้าน MOP |
1/6/2553 | 19.88 ล้านล้าน MOP |
1/9/2553 | 21.2 ล้านล้าน MOP |
1/12/2553 | 24.35 ล้านล้าน MOP |
1/3/2554 | 26.84 ล้านล้าน MOP |
1/6/2554 | 28.24 ล้านล้าน MOP |
1/9/2554 | 30.06 ล้านล้าน MOP |
1/12/2554 | 32.61 ล้านล้าน MOP |
1/3/2555 | 30.98 ล้านล้าน MOP |
1/6/2555 | 33.42 ล้านล้าน MOP |
1/9/2555 | 33.27 ล้านล้าน MOP |
1/12/2555 | 36.67 ล้านล้าน MOP |
1/3/2556 | 35.58 ล้านล้าน MOP |
1/6/2556 | 39.46 ล้านล้าน MOP |
1/9/2556 | 39.44 ล้านล้าน MOP |
1/12/2556 | 43.05 ล้านล้าน MOP |
1/3/2557 | 44.35 ล้านล้าน MOP |
1/6/2557 | 44.76 ล้านล้าน MOP |
1/9/2557 | 40.48 ล้านล้าน MOP |
1/12/2557 | 33.8 ล้านล้าน MOP |
1/3/2558 | 29.94 ล้านล้าน MOP |
1/6/2558 | 27.96 ล้านล้าน MOP |
1/9/2558 | 28.23 ล้านล้าน MOP |
1/12/2558 | 28.09 ล้านล้าน MOP |
1/3/2559 | 26.34 ล้านล้าน MOP |
1/6/2559 | 25.62 ล้านล้าน MOP |
1/9/2559 | 27.47 ล้านล้าน MOP |
1/12/2559 | 29.51 ล้านล้าน MOP |
1/3/2560 | 29.26 ล้านล้าน MOP |
1/6/2560 | 30.91 ล้านล้าน MOP |
1/9/2560 | 32.67 ล้านล้าน MOP |
1/12/2560 | 36.24 ล้านล้าน MOP |
1/3/2561 | 34.1 ล้านล้าน MOP |
1/6/2561 | 34.14 ล้านล้าน MOP |
1/9/2561 | 37.27 ล้านล้าน MOP |
1/12/2561 | 34.3 ล้านล้าน MOP |
1/3/2562 | 34 ล้านล้าน MOP |
1/6/2562 | 32.3 ล้านล้าน MOP |
1/9/2562 | 36.29 ล้านล้าน MOP |
1/12/2562 | 36.83 ล้านล้าน MOP |
1/3/2563 | 22.53 ล้านล้าน MOP |
1/6/2563 | 7.18 ล้านล้าน MOP |
1/9/2563 | 10.27 ล้านล้าน MOP |
1/12/2563 | 16.22 ล้านล้าน MOP |
1/3/2564 | 15.19 ล้านล้าน MOP |
1/6/2564 | 16.98 ล้านล้าน MOP |
1/9/2564 | 14.37 ล้านล้าน MOP |
1/12/2564 | 14.26 ล้านล้าน MOP |
1/3/2565 | 12.43 ล้านล้าน MOP |
1/6/2565 | 9.02 ล้านล้าน MOP |
1/9/2565 | 8.03 ล้านล้าน MOP |
1/3/2566 | 18.06 ล้านล้าน MOP |
1/6/2566 | 24.33 ล้านล้าน MOP |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 24.329 ล้านล้าน MOP |
1/3/2566 | 18.055 ล้านล้าน MOP |
1/9/2565 | 8.028 ล้านล้าน MOP |
1/6/2565 | 9.015 ล้านล้าน MOP |
1/3/2565 | 12.434 ล้านล้าน MOP |
1/12/2564 | 14.262 ล้านล้าน MOP |
1/9/2564 | 14.367 ล้านล้าน MOP |
1/6/2564 | 16.98 ล้านล้าน MOP |
1/3/2564 | 15.193 ล้านล้าน MOP |
1/12/2563 | 16.225 ล้านล้าน MOP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇴 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | 10.239 ล้านล้าน MOP | 3.669 ล้านล้าน MOP | ควอร์เตอร์ |
🇲🇴 รัฐบาลใช้จ่าย | 16.902 ล้านล้าน MOP | 20.66 ล้านล้าน MOP | ควอร์เตอร์ |
🇲🇴 รัฐบาลใช้จ่าย | 9.925 ล้าน MOP | 15.457 ล้าน MOP | ควอร์เตอร์ |
รายได้ของรัฐบาลหมายถึงรายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากการลงทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลถือเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณการสมดุลงบประมาณของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป