ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มาเก๊า ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน มาเก๊า คือ 56.355 ล้าน MOP ดุลการค้าใน มาเก๊า ลดลงไปที่ 56.355 ล้าน MOP ในวันที่ 1/8/2546 หลังจากที่เป็น 239.544 ล้าน MOP ในวันที่ 1/7/2546 ตั้งแต่ 1/1/2540 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน มาเก๊า คือ -3.94 ล้านล้าน MOP จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/7/2543 ด้วยค่า 634.54 ล้าน MOP ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/5/2564 ด้วยค่า -14.56 ล้านล้าน MOP
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2540 | 262.42 ล้าน MOP |
1/6/2540 | 87.71 ล้าน MOP |
1/7/2540 | 357.11 ล้าน MOP |
1/8/2540 | 353.02 ล้าน MOP |
1/9/2540 | 97.38 ล้าน MOP |
1/10/2540 | 86.01 ล้าน MOP |
1/12/2540 | 176.93 ล้าน MOP |
1/1/2541 | 342.35 ล้าน MOP |
1/6/2541 | 323.43 ล้าน MOP |
1/7/2541 | 535.35 ล้าน MOP |
1/8/2541 | 512.53 ล้าน MOP |
1/9/2541 | 6.02 ล้าน MOP |
1/10/2541 | 114.08 ล้าน MOP |
1/11/2541 | 124.59 ล้าน MOP |
1/12/2541 | 322.32 ล้าน MOP |
1/1/2542 | 359.9 ล้าน MOP |
1/5/2542 | 45.57 ล้าน MOP |
1/6/2542 | 225.6 ล้าน MOP |
1/7/2542 | 543.18 ล้าน MOP |
1/8/2542 | 373.99 ล้าน MOP |
1/9/2542 | 290.81 ล้าน MOP |
1/10/2542 | 5.83 ล้าน MOP |
1/12/2542 | 146.75 ล้าน MOP |
1/1/2543 | 589.56 ล้าน MOP |
1/5/2543 | 80.2 ล้าน MOP |
1/6/2543 | 370.35 ล้าน MOP |
1/7/2543 | 634.54 ล้าน MOP |
1/8/2543 | 583.38 ล้าน MOP |
1/9/2543 | 59.46 ล้าน MOP |
1/12/2543 | 331.27 ล้าน MOP |
1/1/2544 | 106.59 ล้าน MOP |
1/6/2544 | 87.28 ล้าน MOP |
1/7/2544 | 200.48 ล้าน MOP |
1/8/2544 | 251.49 ล้าน MOP |
1/9/2544 | 26.87 ล้าน MOP |
1/12/2544 | 99.94 ล้าน MOP |
1/6/2545 | 6.34 ล้าน MOP |
1/7/2545 | 80.1 ล้าน MOP |
1/8/2545 | 138.26 ล้าน MOP |
1/12/2545 | 57.48 ล้าน MOP |
1/1/2546 | 142.06 ล้าน MOP |
1/6/2546 | 154.21 ล้าน MOP |
1/7/2546 | 239.54 ล้าน MOP |
1/8/2546 | 56.36 ล้าน MOP |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/8/2546 | 56.355 ล้าน MOP |
1/7/2546 | 239.544 ล้าน MOP |
1/6/2546 | 154.212 ล้าน MOP |
1/1/2546 | 142.06 ล้าน MOP |
1/12/2545 | 57.484 ล้าน MOP |
1/8/2545 | 138.258 ล้าน MOP |
1/7/2545 | 80.1 ล้าน MOP |
1/6/2545 | 6.341 ล้าน MOP |
1/12/2544 | 99.944 ล้าน MOP |
1/9/2544 | 26.865 ล้าน MOP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇴 กระแสเงินทุน | -14.228 ล้านล้าน MOP | -23.631 ล้านล้าน MOP | ประจำปี |
🇲🇴 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -20.674 ล้านล้าน MOP | -6.456 ล้านล้าน MOP | ประจำปี |
🇲🇴 เงื่อนไขการซื้อขาย | 99.9 points | 98.7 points | ควอร์เตอร์ |
🇲🇴 นำเข้า | 10.614 ล้านล้าน MOP | 11.117 ล้านล้าน MOP | รายเดือน |
🇲🇴 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 22.441 ล้านล้าน MOP | 14.077 ล้านล้าน MOP | ประจำปี |
🇲🇴 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 2.692 ล้าน | 2.601 ล้าน | รายเดือน |
🇲🇴 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 5.6 % of GDP | 5.7 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇴 รายได้จากการท่องเที่ยว | 20.348 ล้านล้าน MOP | 19.188 ล้านล้าน MOP | ควอร์เตอร์ |
🇲🇴 ส่งออก | 1.035 ล้านล้าน MOP | 1.218 ล้านล้าน MOP | รายเดือน |
ยอดขาดดุลการค้าของมาเก๊าเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการส่งออกลดลงและการนำเข้าสูงขึ้น มาเก๊าส่งออกสินค้าส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและสิ่งทอ ยาสูบและไวน์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง ทองแดง นาฬิกา เครื่องประดับเพชร เครื่องจักรสำนักงาน และอุปกรณ์สื่อสาร มาเก๊านำเข้าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องประดับทอง โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา กระเป๋าถือ ยานพาหนะ รองเท้า และคอมพิวเตอร์พกพา คู่ค้าหลักของมาเก๊าคือ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เยอรมนี และไต้หวัน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว