ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลักเซมเบิร์ก การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในลักเซมเบิร์กคือ2.945 ล้านล้านEUR การใช้จ่ายของรัฐบาลในลักเซมเบิร์กเพิ่มขึ้นเป็น2.945 ล้านล้านEURเมื่อ1/9/2566หลังจากที่มันคือ2.911 ล้านล้านEURเมื่อ1/6/2566 จาก1/3/2538ถึง1/12/2566 GDP เฉลี่ยในลักเซมเบิร์กคือ1.9 ล้านล้านEUR มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2566ที่มีมูลค่า2.99 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/3/2538ที่มีมูลค่า1.15 ล้านล้านEUR
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2538 | 1.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2538 | 1.16 ล้านล้าน EUR |
1/9/2538 | 1.16 ล้านล้าน EUR |
1/12/2538 | 1.17 ล้านล้าน EUR |
1/3/2539 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/6/2539 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/9/2539 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/12/2539 | 1.2 ล้านล้าน EUR |
1/3/2540 | 1.21 ล้านล้าน EUR |
1/6/2540 | 1.23 ล้านล้าน EUR |
1/9/2540 | 1.24 ล้านล้าน EUR |
1/12/2540 | 1.25 ล้านล้าน EUR |
1/3/2541 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/6/2541 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/9/2541 | 1.26 ล้านล้าน EUR |
1/12/2541 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/3/2542 | 1.33 ล้านล้าน EUR |
1/6/2542 | 1.34 ล้านล้าน EUR |
1/9/2542 | 1.35 ล้านล้าน EUR |
1/12/2542 | 1.37 ล้านล้าน EUR |
1/3/2543 | 1.37 ล้านล้าน EUR |
1/6/2543 | 1.39 ล้านล้าน EUR |
1/9/2543 | 1.41 ล้านล้าน EUR |
1/12/2543 | 1.42 ล้านล้าน EUR |
1/3/2544 | 1.48 ล้านล้าน EUR |
1/6/2544 | 1.49 ล้านล้าน EUR |
1/9/2544 | 1.5 ล้านล้าน EUR |
1/12/2544 | 1.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2545 | 1.54 ล้านล้าน EUR |
1/6/2545 | 1.53 ล้านล้าน EUR |
1/9/2545 | 1.54 ล้านล้าน EUR |
1/12/2545 | 1.55 ล้านล้าน EUR |
1/3/2546 | 1.56 ล้านล้าน EUR |
1/6/2546 | 1.57 ล้านล้าน EUR |
1/9/2546 | 1.58 ล้านล้าน EUR |
1/12/2546 | 1.6 ล้านล้าน EUR |
1/3/2547 | 1.61 ล้านล้าน EUR |
1/6/2547 | 1.62 ล้านล้าน EUR |
1/9/2547 | 1.64 ล้านล้าน EUR |
1/12/2547 | 1.64 ล้านล้าน EUR |
1/3/2548 | 1.66 ล้านล้าน EUR |
1/6/2548 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/9/2548 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/12/2548 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/6/2549 | 1.67 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 1.67 ล้านล้าน EUR |
1/12/2549 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/3/2550 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/9/2550 | 1.68 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 1.7 ล้านล้าน EUR |
1/3/2551 | 1.7 ล้านล้าน EUR |
1/6/2551 | 1.74 ล้านล้าน EUR |
1/9/2551 | 1.75 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 1.77 ล้านล้าน EUR |
1/3/2552 | 1.79 ล้านล้าน EUR |
1/6/2552 | 1.81 ล้านล้าน EUR |
1/9/2552 | 1.82 ล้านล้าน EUR |
1/12/2552 | 1.86 ล้านล้าน EUR |
1/3/2553 | 1.87 ล้านล้าน EUR |
1/6/2553 | 1.88 ล้านล้าน EUR |
1/9/2553 | 1.9 ล้านล้าน EUR |
1/12/2553 | 1.89 ล้านล้าน EUR |
1/3/2554 | 1.91 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 1.93 ล้านล้าน EUR |
1/9/2554 | 1.96 ล้านล้าน EUR |
1/12/2554 | 1.97 ล้านล้าน EUR |
1/3/2555 | 1.98 ล้านล้าน EUR |
1/6/2555 | 2 ล้านล้าน EUR |
1/9/2555 | 2.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2555 | 2.04 ล้านล้าน EUR |
1/3/2556 | 2.09 ล้านล้าน EUR |
1/6/2556 | 2.09 ล้านล้าน EUR |
1/9/2556 | 2.1 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 2.11 ล้านล้าน EUR |
1/3/2557 | 2.11 ล้านล้าน EUR |
1/6/2557 | 2.12 ล้านล้าน EUR |
1/9/2557 | 2.12 ล้านล้าน EUR |
1/12/2557 | 2.13 ล้านล้าน EUR |
1/3/2558 | 2.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2558 | 2.15 ล้านล้าน EUR |
1/9/2558 | 2.17 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 2.17 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 2.16 ล้านล้าน EUR |
1/6/2559 | 2.18 ล้านล้าน EUR |
1/9/2559 | 2.19 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 2.21 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 2.24 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 2.27 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 2.3 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 2.31 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 2.41 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 2.39 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 2.39 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 2.41 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 2.42 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 2.44 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 2.48 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 2.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 2.55 ล้านล้าน EUR |
1/6/2563 | 2.61 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 2.67 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 2.68 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 2.75 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 2.78 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 2.76 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 2.8 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.82 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.83 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 2.87 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 2.88 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 2.88 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 2.91 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 2.95 ล้านล้าน EUR |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 2.945 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 2.911 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 2.876 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 2.881 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 2.871 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.832 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 2.825 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 2.796 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 2.763 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 2.779 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇺 การใช้จ่ายทางทหาร | 662.5 ล้าน USD | 509.9 ล้าน USD | ประจำปี |
🇱🇺 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 48.1 % of GDP | 43.9 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇺 คำขอลี้ภัย | 160 persons | 170 persons | รายเดือน |
🇱🇺 งบประมาณของรัฐ | -1.3 % of GDP | -0.3 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇺 ดัชนีการทุจริต | 78 Points | 77 Points | ประจำปี |
🇱🇺 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -992.9 ล้าน EUR | -222.3 ล้าน EUR | ประจำปี |
🇱🇺 รัฐบาลใช้จ่าย | 38.145 ล้านล้าน EUR | 34.024 ล้านล้าน EUR | ประจำปี |
🇱🇺 รายได้ของรัฐ | 37.152 ล้านล้าน EUR | 33.802 ล้านล้าน EUR | ประจำปี |
🇱🇺 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 25.7 % of GDP | 24.7 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇺 อันดับคอร์รัปชั่น | 9 | 10 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายสาธารณะเพื่อสินค้าและบริการ และเป็นองค์ประกอบหลักของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการตั้งค่าเป้าหมายงบประมาณ ปรับการเก็บภาษี เพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ