ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ 495.8 ล้าน EUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ลิทัวเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 495.8 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/9/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 434.5 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/3/2538 ถึง 1/12/2567 GDP เฉลี่ยใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ 26.91 ล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/9/2565 ด้วย 1.81 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2563 ด้วย -1.18 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2538 | 89 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 189.3 ล้าน EUR |
1/9/2539 | 158 ล้าน EUR |
1/3/2540 | 13.5 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 37.4 ล้าน EUR |
1/9/2540 | 44.9 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 155.3 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 21.6 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 130.9 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 78.3 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 41 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 24.9 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 2.8 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 72.3 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 29.8 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 20.8 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 79.3 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 77.8 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 119.4 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 56.8 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 109.8 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 61.9 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 103.3 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 286.7 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 71.6 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 336.8 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 310.9 ล้าน EUR |
1/9/2550 | 402.7 ล้าน EUR |
1/12/2550 | 45.3 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 588.2 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 272.4 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 314.2 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 337.5 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 133.8 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 90 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 427.6 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 338.9 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 479.7 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 511.6 ล้าน EUR |
1/9/2555 | 634.1 ล้าน EUR |
1/3/2556 | 43.9 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 591.7 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 150.2 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 73.5 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 492.2 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 253.2 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 437.6 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 588.4 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 10.9 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 364 ล้าน EUR |
1/3/2560 | 117.9 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 504.6 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 236.1 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 358.7 ล้าน EUR |
1/12/2561 | 175.1 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 91 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 554 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 858.2 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 777 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.81 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 228.4 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 434.5 ล้าน EUR |
1/9/2567 | 495.8 ล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2567 | 495.8 ล้าน EUR |
1/9/2566 | 434.5 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 228.4 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.809 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 777 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 858.2 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 554 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 91 ล้าน EUR |
1/12/2561 | 175.1 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 358.7 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇹 การจดทะเบียนรถยนต์ | 2,531 Units | 2,836 Units | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตในภาคการผลิต | 7.3 % | 11.6 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตไฟฟ้า | 791.147 Gigawatt-hour | 751.094 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตเหมืองแร่ | 2.4 % | 53.6 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตอุตสาหกรรม | 8.3 % | 8.9 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | -1.5 % | 4.4 % | รายเดือน |
🇱🇹 การล้มละลาย | 264 Companies | 262 Companies | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 101 Units | 161 Units | รายเดือน |
🇱🇹 สภาวะธุรกิจ | -3.3 points | -4.6 points | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 71.1 % | 71.1 % | ควอร์เตอร์ |
ในลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักถือเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool