ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇱🇹

ลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง

ราคา

2.104 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.349 ล้านล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+94.39 %

ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ 2.104 ล้านล้าน EUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ลิทัวเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 2.104 ล้านล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/9/2565 หลังจากที่มันอยู่ที่ 754.8 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/6/2565 ตั้งแต่ 1/3/2547 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ -42.37 ล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/9/2565 ด้วย 2.1 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2563 ด้วย -1.6 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: Statistics Lithuania

การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง

  • แม็กซ์

การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ

การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25652.104 ล้านล้าน EUR
1/6/2565754.8 ล้าน EUR
1/3/2565821 ล้าน EUR
1/9/2564634.9 ล้าน EUR
1/9/2561212.2 ล้าน EUR
1/9/2560515.8 ล้าน EUR
1/9/2559402.4 ล้าน EUR
1/9/2558568.3 ล้าน EUR
1/6/2558357 ล้าน EUR
1/3/255866.5 ล้าน EUR
1
2
3
4

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇱🇹
การจดทะเบียนรถยนต์
2,803 Units2,843 Unitsรายเดือน
🇱🇹
การผลิตในภาคการผลิต
1.8 %6.9 %รายเดือน
🇱🇹
การผลิตไฟฟ้า
418.332 Gigawatt-hour523.961 Gigawatt-hourรายเดือน
🇱🇹
การผลิตเหมืองแร่
-1.9 %11.9 %รายเดือน
🇱🇹
การผลิตอุตสาหกรรม
-4.5 %5 %รายเดือน
🇱🇹
การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน
-2.1 %-1.2 %รายเดือน
🇱🇹
การล้มละลาย
264 Companies218 Companiesควอร์เตอร์
🇱🇹
การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า
112 Units167 Unitsรายเดือน
🇱🇹
สภาวะธุรกิจ
-7.6 points-5.8 pointsรายเดือน
🇱🇹
อัตราการใช้กำลังการผลิต
70.7 %68.6 %ควอร์เตอร์

ในลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักถือเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของเศรษฐกิจ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง

การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool