ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ 2.104 ล้านล้าน EUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ลิทัวเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 2.104 ล้านล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/9/2565 หลังจากที่มันอยู่ที่ 754.8 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/6/2565 ตั้งแต่ 1/3/2547 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน ลิทัวเนีย อยู่ที่ -42.37 ล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/9/2565 ด้วย 2.1 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2563 ด้วย -1.6 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2547 | 108.8 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 10 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 49.8 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 67.6 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 150.2 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 261.1 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 151.2 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 319.1 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 288.5 ล้าน EUR |
1/9/2550 | 469.1 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 538.9 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 231.9 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 376.4 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 349.4 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 202.3 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 113.1 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 434 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 352.3 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 485.1 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 469.9 ล้าน EUR |
1/9/2555 | 642 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 630.1 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 58.9 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 66.1 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 522.5 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 66.5 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 357 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 568.3 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 402.4 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 515.8 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 212.2 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 634.9 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 821 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 754.8 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 2.1 ล้านล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2565 | 2.104 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 754.8 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 821 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 634.9 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 212.2 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 515.8 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 402.4 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 568.3 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 357 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 66.5 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇹 การจดทะเบียนรถยนต์ | 2,803 Units | 2,843 Units | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตในภาคการผลิต | 1.8 % | 6.9 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตไฟฟ้า | 418.332 Gigawatt-hour | 523.961 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตเหมืองแร่ | -1.9 % | 11.9 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตอุตสาหกรรม | -4.5 % | 5 % | รายเดือน |
🇱🇹 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | -2.1 % | -1.2 % | รายเดือน |
🇱🇹 การล้มละลาย | 264 Companies | 218 Companies | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 112 Units | 167 Units | รายเดือน |
🇱🇹 สภาวะธุรกิจ | -7.6 points | -5.8 points | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 70.7 % | 68.6 % | ควอร์เตอร์ |
ในลิทัวเนีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักถือเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool