ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เลบานอน กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในเลบานอนคือ1.076 ล้านล้านUSD กระแสเงินทุนในเลบานอนลดลงเหลือ1.076 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/9/2565 หลังจากที่เคยเป็น2.755 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/6/2565 ตั้งแต่1/9/2546ถึง1/12/2565 GDP เฉลี่ยในเลบานอนอยู่ที่1.89 ล้านล้านUSD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/6/2548กับ5.76 ล้านล้านUSD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/3/2548กับ-2.09 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/9/2546 | 2.79 ล้านล้าน USD |
1/12/2546 | 2.06 ล้านล้าน USD |
1/3/2547 | 2.54 ล้านล้าน USD |
1/6/2547 | 1.56 ล้านล้าน USD |
1/9/2547 | 1.83 ล้านล้าน USD |
1/12/2547 | 1.36 ล้านล้าน USD |
1/6/2548 | 5.76 ล้านล้าน USD |
1/9/2548 | 885.1 ล้าน USD |
1/12/2548 | 1.91 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 358.6 ล้าน USD |
1/12/2549 | 5.09 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 2.59 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 940.8 ล้าน USD |
1/9/2550 | 2.44 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 1.02 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 873.6 ล้าน USD |
1/6/2551 | 3.31 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 1.84 ล้านล้าน USD |
1/3/2552 | 2.85 ล้านล้าน USD |
1/6/2552 | 2.27 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 2.68 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 3.32 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 793.7 ล้าน USD |
1/9/2553 | 277.9 ล้าน USD |
1/12/2553 | 611.8 ล้าน USD |
1/6/2554 | 1.9 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 757.8 ล้าน USD |
1/12/2554 | 1.32 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 387.1 ล้าน USD |
1/6/2555 | 1.82 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 2.21 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 253.4 ล้าน USD |
1/3/2556 | 1.25 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 2.04 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 940.3 ล้าน USD |
1/12/2556 | 1.58 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 1.34 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 3.66 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 3.32 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 4.43 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 4.24 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 1.25 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 2.85 ล้านล้าน USD |
1/12/2558 | 2.71 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 761.3 ล้าน USD |
1/6/2559 | 3.41 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 4.52 ล้านล้าน USD |
1/12/2559 | 4.86 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 3.2 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 3.88 ล้านล้าน USD |
1/12/2560 | 1.82 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 1.58 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 686.1 ล้าน USD |
1/12/2561 | 2.77 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 3.89 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 4.89 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 85.3 ล้าน USD |
1/3/2563 | 4.78 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 707 ล้าน USD |
1/9/2563 | 5.13 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 909.5 ล้าน USD |
1/3/2564 | 1.81 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 663.9 ล้าน USD |
1/12/2564 | 4.43 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 807.1 ล้าน USD |
1/6/2565 | 2.76 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 1.08 ล้านล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2565 | 1.076 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.755 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 807.1 ล้าน USD |
1/12/2564 | 4.434 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 663.9 ล้าน USD |
1/3/2564 | 1.807 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 909.5 ล้าน USD |
1/9/2563 | 5.13 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 707 ล้าน USD |
1/3/2563 | 4.778 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇧 การโอนเงิน | 1.159 ล้านล้าน USD | 1.165 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇱🇧 ดัชนีการก่อการร้าย | 1.562 Points | 3.4 Points | ประจำปี |
🇱🇧 ทองคำสำรอง | 286.83 Tonnes | 286.83 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇱🇧 นำเข้า | 486.839 ล้าน USD | 1.447 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇱🇧 ยอดการค้า | -397.351 ล้าน USD | -1.217 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇱🇧 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 591.3 ล้าน USD | 185.6 ล้าน USD | รายเดือน |
🇱🇧 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 261,557 | 151,846 | รายเดือน |
🇱🇧 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -30.9 % of GDP | -12.9 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇧 ส่งออก | 89.488 ล้าน USD | 230.043 ล้าน USD | รายเดือน |
🇱🇧 หนี้สินต่างประเทศ | 40.419 ล้านล้าน USD | 41.614 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
ในเลบานอน การไหลเวียนของเงินทุนระหว่างประเทศถูกวัดโดยใช้ดุลบัญชีทุนและการเงินของดุลการชำระเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว