ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇱🇻

ลัตเวีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

1.1 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.2 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+20.00 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ลัตเวีย คือ 1.1 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน ลัตเวีย เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 0.9 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/1/2541 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน ลัตเวีย คือ 4.16 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/9/2565 ที่ 22.2 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/2/2553 ที่ -4.3 %.

แหล่งที่มา: Central Statistical Bureau of Latvia

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25671.1 %
1/3/25670.9 %
1/2/25670.4 %
1/1/25670.9 %
1/12/25660.6 %
1/11/25661 %
1/10/25662.1 %
1/9/25663.3 %
1/8/25665.4 %
1/7/25666.4 %
1
2
3
4
5
...
28

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇱🇻
CPI Transport
134.5 points133.4 pointsรายเดือน
🇱🇻
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-1.9 %-3.3 %รายเดือน
🇱🇻
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.4 %1.5 %รายเดือน
🇱🇻
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
146.2 points146.1 pointsรายเดือน
🇱🇻
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
145.99 points145.43 pointsรายเดือน
🇱🇻
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
153.8 points153.3 pointsรายเดือน
🇱🇻
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
134.66 points134.07 pointsรายเดือน
🇱🇻
ต้นทุนการผลิต
127.5 points127.3 pointsรายเดือน
🇱🇻
ตัวคูณ GDP
1.454 %1.393 %ควอร์เตอร์
🇱🇻
ราคานำเข้า
107.9 points108.2 pointsรายเดือน
🇱🇻
ราคาส่งออก
112.6 points111.9 pointsรายเดือน
🇱🇻
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.3 %0.5 %รายเดือน
🇱🇻
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
0 %1.1 %รายเดือน
🇱🇻
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0 %0.4 %รายเดือน
🇱🇻
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
0.2 %0.4 %รายเดือน
🇱🇻
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
4.1 %3.1 %รายเดือน

ในลัตเวีย หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 26 ของน้ำหนักทั้งหมด) ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภคคิดเป็นร้อยละ 17; การขนส่งคิดเป็นร้อยละ 14; เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบคิดเป็นร้อยละ 8; สันทนาการและวัฒนธรรมคิดเป็นร้อยละ 7; สุขภาพคิดเป็นร้อยละ 6; และเสื้อผ้าและรองเท้าคิดเป็นร้อยละ 5 สินค้าและบริการอื่นๆ; เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์และการบำรุงรักษาบ้าน; ร้านอาหารและโรงแรม; การสื่อสาร; และการศึกษา คิดเป็นร้อยละ 17 ที่เหลือของน้ำหนักทั้งหมด

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ