ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อินโดนีเซีย กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในอินโดนีเซียอยู่ที่9.785 ล้านล้านUSD กระแสเงินทุนในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น9.785 ล้านล้านUSDเมื่อ1/12/2566 หลังจากที่เป็น3.685 ล้านล้านUSDเมื่อ1/3/2566 จากวันที่1/3/2553ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในอินโดนีเซียอยู่ที่5.02 ล้านล้านUSD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่15.9 ล้านล้านUSDเมื่อ1/12/2561 ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/9/2554ที่-9.46 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2553 | 5.59 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 3.74 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 7.41 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 9.79 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 4.76 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 11.58 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 6.74 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 2.12 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 5 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 5.83 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 11.96 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 36.71 ล้าน USD |
1/6/2556 | 8.7 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 4.57 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 8.66 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 6.46 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 14.35 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 14.57 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 9.55 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 5.61 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 2 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 61.87 ล้าน USD |
1/12/2558 | 9.19 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 4.42 ล้านล้าน USD |
1/6/2559 | 7.11 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 10.06 ล้านล้าน USD |
1/12/2559 | 7.76 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 6.65 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 5.35 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 9.6 ล้านล้าน USD |
1/12/2560 | 7.13 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 2.19 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 3.11 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 4.01 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 15.9 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 9.88 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 6.74 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 7.43 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 12.55 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 10.99 ล้านล้าน USD |
1/9/2563 | 862.86 ล้าน USD |
1/3/2564 | 5.84 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.54 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 7.32 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 685.55 ล้าน USD |
1/3/2566 | 3.69 ล้านล้าน USD |
1/12/2566 | 9.78 ล้านล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 9.785 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 3.685 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 685.55 ล้าน USD |
1/9/2564 | 7.324 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.543 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 5.837 ล้านล้าน USD |
1/9/2563 | 862.86 ล้าน USD |
1/6/2563 | 10.989 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 12.549 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 7.434 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇩 การขายอาวุธ | 17 ล้าน SIPRI TIV | 9 ล้าน SIPRI TIV | ประจำปี |
🇮🇩 การผลิตน้ำมันดิบ | 606 BBL/D/1K | 570 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇮🇩 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 204.4 IDR Trillion | 184.4 IDR Trillion | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 การส่งออกเทียบปีต่อปี | 2.86 % | 1.72 % | รายเดือน |
🇮🇩 การโอนเงิน | 3.822 ล้านล้าน USD | 3.676 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 เงื่อนไขการซื้อขาย | 110.19 points | 110.03 points | รายเดือน |
🇮🇩 ดัชนีการก่อการร้าย | 3.993 Points | 5.502 Points | ประจำปี |
🇮🇩 ต่างประเทศตรง YoY | 15.5 % | 5.3 % | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 ทองคำสำรอง | 78.57 Tonnes | 78.57 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 นำเข้า | 19.4 ล้านล้าน USD | 16.896 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇩 นำเข้า YoY | -8.83 % | 10.09 % | รายเดือน |
🇮🇩 ยอดการค้า | 2.927 ล้านล้าน USD | 2.72 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇩 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -3.021 ล้านล้าน USD | -2.407 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 1.34 ล้าน | 1.311 ล้าน | รายเดือน |
🇮🇩 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -0.3 % of GDP | 1 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇩 รายได้จากการท่องเที่ยว | 3.633 ล้านล้าน USD | 3.531 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇮🇩 ส่งออก | 22.327 ล้านล้าน USD | 19.616 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇮🇩 หนี้สินต่างประเทศ | 403.852 ล้านล้าน USD | 408.464 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว