ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇱

อิสราเอล อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.8 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.1 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+3.64 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน อิสราเอล คือ 2.8 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน อิสราเอล เพิ่มขึ้นเป็น 2.8 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 2.7 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/9/2495 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน อิสราเอล คือ 27.02 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/11/2527 ที่ 486.2 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/3/2547 ที่ -2.7 %.

แหล่งที่มา: Central Bureau of Statistics, Israel

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25672.8 %
1/3/25672.7 %
1/2/25672.5 %
1/1/25672.6 %
1/12/25663 %
1/11/25663.3 %
1/10/25663.7 %
1/9/25663.8 %
1/8/25664.1 %
1/7/25663.3 %
1
2
3
4
5
...
79

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇱
CPI Transport
108.3 points110 pointsรายเดือน
🇮🇱
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
3.1 %3 %รายเดือน
🇮🇱
เงินเฟ้อด้านอาหาร
4.5 %3.7 %รายเดือน
🇮🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
107.1 points106.9 pointsรายเดือน
🇮🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
108.5 points108.1 pointsรายเดือน
🇮🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
105.8 points105.2 pointsรายเดือน
🇮🇱
ต้นทุนการผลิต
122.2 points122.3 pointsรายเดือน
🇮🇱
ตัวคูณ GDP
117.25 points116.38 pointsควอร์เตอร์
🇮🇱
ราคานำเข้า
117.2 points117.9 pointsควอร์เตอร์
🇮🇱
ราคาส่งออก
107.5 points107 pointsควอร์เตอร์
🇮🇱
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.2 %0.8 %รายเดือน
🇮🇱
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.619 %2.534 %รายเดือน

ในอิสราเอล หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภค ได้แก่ ที่อยู่อาศัย (25 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด); การขนส่งและการสื่อสาร (18 เปอร์เซ็นต์); และอาหาร (18 เปอร์เซ็นต์) ดัชนียังรวมถึง: การศึกษา วัฒนธรรม และบันเทิง 11 เปอร์เซ็นต์ และการบำรุงรักษาที่อยู่อาศัย 9 เปอร์เซ็นต์ สินค้าและบริการอื่นๆ 6 เปอร์เซ็นต์; สุขภาพ 6 เปอร์เซ็นต์; เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน 4 เปอร์เซ็นต์; และเสื้อผ้าและรองเท้า 3 เปอร์เซ็นต์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ