ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇭🇰

ฮ่องกง ดุลการค้า

ราคา

6.648 ล้านล้าน HKD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-580 ล้าน HKD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-8.36 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ฮ่องกง คือ 6.648 ล้านล้าน HKD ดุลการค้าใน ฮ่องกง ลดลงไปที่ 6.648 ล้านล้าน HKD ในวันที่ 1/1/2565 หลังจากที่เป็น 7.228 ล้านล้าน HKD ในวันที่ 1/1/2552 ตั้งแต่ 1/1/2495 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ฮ่องกง คือ -9.6 ล้านล้าน HKD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/1/2552 ด้วยค่า 7.23 ล้านล้าน HKD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/6/2565 ด้วยค่า -68.53 ล้านล้าน HKD

แหล่งที่มา: Census and Statistics Department, Hong Kong

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/25656.648 ล้านล้าน HKD
1/1/25527.228 ล้านล้าน HKD
1/1/25494.367 ล้านล้าน HKD
1/10/25483.476 ล้านล้าน HKD
1/1/2547839 ล้าน HKD
1/1/25461.803 ล้านล้าน HKD
1/1/25441.268 ล้านล้าน HKD
1/8/25422.409 ล้านล้าน HKD
1/1/25411.238 ล้านล้าน HKD
1/1/25371.734 ล้านล้าน HKD
1
2
3
4
5
...
8

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇭🇰
กระแสเงินทุน
135.212 ล้านล้าน HKD37.322 ล้านล้าน HKDควอร์เตอร์
🇭🇰
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
17.554 ชีวภาพ. HKD17.051 ชีวภาพ. HKDประจำปี
🇭🇰
การส่งออกเทียบปีต่อปี
14.8 %11.9 %รายเดือน
🇭🇰
เงื่อนไขการซื้อขาย
101 points100.7 pointsรายเดือน
🇭🇰
ทองคำสำรอง
2.08 Tonnes2.08 Tonnesควอร์เตอร์
🇭🇰
นำเข้า
388.09 ล้านล้าน HKD388.933 ล้านล้าน HKDรายเดือน
🇭🇰
นำเข้า YoY
9.6 %3.7 %รายเดือน
🇭🇰
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
100.959 ล้านล้าน HKD70.721 ล้านล้าน HKDควอร์เตอร์
🇭🇰
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
3.391 ล้าน 3.402 ล้าน รายเดือน
🇭🇰
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
7.1 % of GDP10.6 % of GDPประจำปี
🇭🇰
ส่งออก
375.947 ล้านล้าน HKD378.739 ล้านล้าน HKDรายเดือน
🇭🇰
หนี้สินต่างประเทศ
14.409 ชีวภาพ. HKD14.362 ชีวภาพ. HKDควอร์เตอร์

นับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ฮ่องกงได้บันทึกการขาดดุลการค้า เนื่องจากการนำเข้าเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าการส่งออก สินค้าส่งออกหลักของฮ่องกงได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องใช้ในการสื่อสาร และเครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง; สินค้าสำเร็จรูปต่างๆ; สินค้าอุตสาหกรรม และอาหารและสัตว์มีชีวิต หุ้นส่วนการค้าหลักคือจีน (40 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 47 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) อีกทั้งยังรวมถึง ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว