ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฮ่องกง ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ฮ่องกง คือ 6.648 ล้านล้าน HKD ดุลการค้าใน ฮ่องกง ลดลงไปที่ 6.648 ล้านล้าน HKD ในวันที่ 1/1/2565 หลังจากที่เป็น 7.228 ล้านล้าน HKD ในวันที่ 1/1/2552 ตั้งแต่ 1/1/2495 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ฮ่องกง คือ -9.6 ล้านล้าน HKD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/1/2552 ด้วยค่า 7.23 ล้านล้าน HKD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/6/2565 ด้วยค่า -68.53 ล้านล้าน HKD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/8/2510 | 62 ล้าน HKD |
1/9/2510 | 49 ล้าน HKD |
1/9/2512 | 14 ล้าน HKD |
1/9/2513 | 20 ล้าน HKD |
1/8/2516 | 148 ล้าน HKD |
1/1/2517 | 38 ล้าน HKD |
1/1/2519 | 76 ล้าน HKD |
1/7/2519 | 40 ล้าน HKD |
1/8/2519 | 139 ล้าน HKD |
1/9/2519 | 103 ล้าน HKD |
1/8/2520 | 398 ล้าน HKD |
1/9/2520 | 62 ล้าน HKD |
1/8/2522 | 215 ล้าน HKD |
1/8/2523 | 16 ล้าน HKD |
1/1/2527 | 868 ล้าน HKD |
1/7/2527 | 321 ล้าน HKD |
1/8/2527 | 1.78 ล้านล้าน HKD |
1/9/2527 | 969 ล้าน HKD |
1/10/2527 | 741 ล้าน HKD |
1/12/2527 | 1 ล้าน HKD |
1/1/2528 | 1.01 ล้านล้าน HKD |
1/2/2528 | 1.85 ล้านล้าน HKD |
1/5/2528 | 928 ล้าน HKD |
1/7/2528 | 1.63 ล้านล้าน HKD |
1/8/2528 | 1.68 ล้านล้าน HKD |
1/9/2528 | 1.09 ล้านล้าน HKD |
1/1/2529 | 287 ล้าน HKD |
1/7/2529 | 674 ล้าน HKD |
1/8/2529 | 1.93 ล้านล้าน HKD |
1/9/2529 | 1.62 ล้านล้าน HKD |
1/11/2529 | 1.1 ล้านล้าน HKD |
1/12/2529 | 523 ล้าน HKD |
1/1/2530 | 2.54 ล้านล้าน HKD |
1/7/2530 | 1.95 ล้านล้าน HKD |
1/8/2530 | 2.77 ล้านล้าน HKD |
1/9/2530 | 1.58 ล้านล้าน HKD |
1/10/2530 | 556 ล้าน HKD |
1/11/2530 | 374 ล้าน HKD |
1/1/2531 | 1.69 ล้านล้าน HKD |
1/2/2531 | 1.08 ล้านล้าน HKD |
1/8/2531 | 2.27 ล้านล้าน HKD |
1/9/2531 | 1.48 ล้านล้าน HKD |
1/10/2531 | 906 ล้าน HKD |
1/1/2532 | 381 ล้าน HKD |
1/7/2532 | 3.81 ล้านล้าน HKD |
1/8/2532 | 5.09 ล้านล้าน HKD |
1/9/2532 | 3.07 ล้านล้าน HKD |
1/10/2532 | 4.06 ล้านล้าน HKD |
1/11/2532 | 3.12 ล้านล้าน HKD |
1/12/2532 | 2.06 ล้านล้าน HKD |
1/1/2533 | 3.51 ล้านล้าน HKD |
1/6/2533 | 1.02 ล้านล้าน HKD |
1/7/2533 | 2.12 ล้านล้าน HKD |
1/8/2533 | 3.73 ล้านล้าน HKD |
1/9/2533 | 773 ล้าน HKD |
1/10/2533 | 816 ล้าน HKD |
1/11/2533 | 491 ล้าน HKD |
1/2/2534 | 799 ล้าน HKD |
1/7/2534 | 603 ล้าน HKD |
1/8/2534 | 814 ล้าน HKD |
1/9/2534 | 3.7 ล้านล้าน HKD |
1/10/2534 | 3.11 ล้านล้าน HKD |
1/11/2534 | 2.04 ล้านล้าน HKD |
1/8/2535 | 2.41 ล้านล้าน HKD |
1/9/2535 | 2.54 ล้านล้าน HKD |
1/1/2536 | 374 ล้าน HKD |
1/9/2536 | 2.6 ล้านล้าน HKD |
1/10/2536 | 2.8 ล้านล้าน HKD |
1/1/2537 | 1.73 ล้านล้าน HKD |
1/1/2541 | 1.24 ล้านล้าน HKD |
1/8/2542 | 2.41 ล้านล้าน HKD |
1/1/2544 | 1.27 ล้านล้าน HKD |
1/1/2546 | 1.8 ล้านล้าน HKD |
1/1/2547 | 839 ล้าน HKD |
1/10/2548 | 3.48 ล้านล้าน HKD |
1/1/2549 | 4.37 ล้านล้าน HKD |
1/1/2552 | 7.23 ล้านล้าน HKD |
1/1/2565 | 6.65 ล้านล้าน HKD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 6.648 ล้านล้าน HKD |
1/1/2552 | 7.228 ล้านล้าน HKD |
1/1/2549 | 4.367 ล้านล้าน HKD |
1/10/2548 | 3.476 ล้านล้าน HKD |
1/1/2547 | 839 ล้าน HKD |
1/1/2546 | 1.803 ล้านล้าน HKD |
1/1/2544 | 1.268 ล้านล้าน HKD |
1/8/2542 | 2.409 ล้านล้าน HKD |
1/1/2541 | 1.238 ล้านล้าน HKD |
1/1/2537 | 1.734 ล้านล้าน HKD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇰 กระแสเงินทุน | 135.212 ล้านล้าน HKD | 37.322 ล้านล้าน HKD | ควอร์เตอร์ |
🇭🇰 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 17.554 ชีวภาพ. HKD | 17.051 ชีวภาพ. HKD | ประจำปี |
🇭🇰 การส่งออกเทียบปีต่อปี | 14.8 % | 11.9 % | รายเดือน |
🇭🇰 เงื่อนไขการซื้อขาย | 101 points | 100.7 points | รายเดือน |
🇭🇰 ทองคำสำรอง | 2.08 Tonnes | 2.08 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇭🇰 นำเข้า | 388.09 ล้านล้าน HKD | 388.933 ล้านล้าน HKD | รายเดือน |
🇭🇰 นำเข้า YoY | 9.6 % | 3.7 % | รายเดือน |
🇭🇰 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 100.959 ล้านล้าน HKD | 70.721 ล้านล้าน HKD | ควอร์เตอร์ |
🇭🇰 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 3.391 ล้าน | 3.402 ล้าน | รายเดือน |
🇭🇰 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 7.1 % of GDP | 10.6 % of GDP | ประจำปี |
🇭🇰 ส่งออก | 375.947 ล้านล้าน HKD | 378.739 ล้านล้าน HKD | รายเดือน |
🇭🇰 หนี้สินต่างประเทศ | 14.409 ชีวภาพ. HKD | 14.362 ชีวภาพ. HKD | ควอร์เตอร์ |
นับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ฮ่องกงได้บันทึกการขาดดุลการค้า เนื่องจากการนำเข้าเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าการส่งออก สินค้าส่งออกหลักของฮ่องกงได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้า อุปกรณ์และเครื่องใช้ในการสื่อสาร และเครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง; สินค้าสำเร็จรูปต่างๆ; สินค้าอุตสาหกรรม และอาหารและสัตว์มีชีวิต หุ้นส่วนการค้าหลักคือจีน (40 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 47 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด) อีกทั้งยังรวมถึง ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว