ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฮ่องกง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ฮ่องกง อยู่ที่ 19.125 ล้านล้าน HKD การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ฮ่องกง เพิ่มขึ้นเป็น 19.125 ล้านล้าน HKD เมื่อวันที่ 1/6/2565 หลังจากที่มันอยู่ที่ 16.78 ล้านล้าน HKD เมื่อวันที่ 1/9/2564 ตั้งแต่ 1/3/2516 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน ฮ่องกง อยู่ที่ 2.59 ล้านล้าน HKD ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/3/2553 ด้วย 36.99 ล้านล้าน HKD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2564 ด้วย -20.4 ล้านล้าน HKD
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2516 | 3.07 ล้านล้าน HKD |
1/6/2516 | 472 ล้าน HKD |
1/9/2516 | 970 ล้าน HKD |
1/3/2517 | 6.77 ล้านล้าน HKD |
1/6/2517 | 159 ล้าน HKD |
1/9/2517 | 2.57 ล้านล้าน HKD |
1/3/2518 | 581 ล้าน HKD |
1/6/2518 | 540 ล้าน HKD |
1/9/2518 | 2.89 ล้านล้าน HKD |
1/3/2519 | 20.18 ล้านล้าน HKD |
1/6/2519 | 1.25 ล้านล้าน HKD |
1/9/2519 | 5.36 ล้านล้าน HKD |
1/12/2519 | 550 ล้าน HKD |
1/3/2520 | 22.18 ล้านล้าน HKD |
1/6/2520 | 1.74 ล้านล้าน HKD |
1/9/2520 | 376 ล้าน HKD |
1/3/2521 | 28.83 ล้านล้าน HKD |
1/6/2521 | 2.54 ล้านล้าน HKD |
1/3/2522 | 18.25 ล้านล้าน HKD |
1/6/2522 | 4.65 ล้านล้าน HKD |
1/9/2522 | 716 ล้าน HKD |
1/12/2522 | 1.21 ล้านล้าน HKD |
1/3/2523 | 10.18 ล้านล้าน HKD |
1/6/2523 | 4.97 ล้านล้าน HKD |
1/9/2523 | 8 ล้าน HKD |
1/12/2523 | 4.14 ล้านล้าน HKD |
1/3/2524 | 13.56 ล้านล้าน HKD |
1/6/2524 | 2.89 ล้านล้าน HKD |
1/9/2524 | 2.24 ล้านล้าน HKD |
1/12/2524 | 2.68 ล้านล้าน HKD |
1/6/2525 | 4.45 ล้านล้าน HKD |
1/9/2525 | 51 ล้าน HKD |
1/12/2525 | 1.17 ล้านล้าน HKD |
1/6/2526 | 4.26 ล้านล้าน HKD |
1/9/2526 | 2.59 ล้านล้าน HKD |
1/12/2526 | 6.67 ล้านล้าน HKD |
1/6/2527 | 9.97 ล้านล้าน HKD |
1/9/2527 | 1.79 ล้านล้าน HKD |
1/12/2527 | 1.92 ล้านล้าน HKD |
1/3/2528 | 703 ล้าน HKD |
1/6/2528 | 1.11 ล้านล้าน HKD |
1/12/2528 | 2.05 ล้านล้าน HKD |
1/6/2529 | 7.56 ล้านล้าน HKD |
1/9/2529 | 3.46 ล้านล้าน HKD |
1/12/2529 | 3.79 ล้านล้าน HKD |
1/3/2530 | 889 ล้าน HKD |
1/6/2530 | 5.3 ล้านล้าน HKD |
1/9/2530 | 4.11 ล้านล้าน HKD |
1/12/2530 | 9.09 ล้านล้าน HKD |
1/6/2531 | 11.24 ล้านล้าน HKD |
1/9/2531 | 9.79 ล้านล้าน HKD |
1/12/2531 | 9.07 ล้านล้าน HKD |
1/3/2532 | 4.31 ล้านล้าน HKD |
1/6/2532 | 9.48 ล้านล้าน HKD |
1/6/2533 | 8.98 ล้านล้าน HKD |
1/9/2533 | 1.85 ล้านล้าน HKD |
1/12/2533 | 1.67 ล้านล้าน HKD |
1/3/2534 | 8.12 ล้านล้าน HKD |
1/6/2534 | 10.68 ล้านล้าน HKD |
1/3/2535 | 2.67 ล้านล้าน HKD |
1/6/2535 | 11.38 ล้านล้าน HKD |
1/12/2535 | 3.43 ล้านล้าน HKD |
1/3/2536 | 2.42 ล้านล้าน HKD |
1/6/2536 | 10.58 ล้านล้าน HKD |
1/9/2536 | 852 ล้าน HKD |
1/6/2537 | 23.13 ล้านล้าน HKD |
1/9/2537 | 16.27 ล้านล้าน HKD |
1/12/2537 | 3.54 ล้านล้าน HKD |
1/3/2538 | 14.07 ล้านล้าน HKD |
1/6/2538 | 30.85 ล้านล้าน HKD |
1/9/2538 | 14.63 ล้านล้าน HKD |
1/12/2538 | 9.32 ล้านล้าน HKD |
1/3/2539 | 3.53 ล้านล้าน HKD |
1/6/2539 | 14.55 ล้านล้าน HKD |
1/9/2539 | 1.76 ล้านล้าน HKD |
1/3/2540 | 7.48 ล้านล้าน HKD |
1/6/2540 | 8.72 ล้านล้าน HKD |
1/9/2540 | 13.01 ล้านล้าน HKD |
1/9/2542 | 1.06 ล้านล้าน HKD |
1/12/2542 | 2.7 ล้านล้าน HKD |
1/3/2543 | 6.92 ล้านล้าน HKD |
1/6/2543 | 6.74 ล้านล้าน HKD |
1/9/2543 | 5.41 ล้านล้าน HKD |
1/12/2543 | 3.04 ล้านล้าน HKD |
1/3/2544 | 1.43 ล้านล้าน HKD |
1/6/2544 | 2.57 ล้านล้าน HKD |
1/6/2545 | 2.94 ล้านล้าน HKD |
1/9/2545 | 3.25 ล้านล้าน HKD |
1/12/2545 | 6.51 ล้านล้าน HKD |
1/3/2546 | 6.15 ล้านล้าน HKD |
1/6/2546 | 2.35 ล้านล้าน HKD |
1/12/2546 | 9.01 ล้านล้าน HKD |
1/3/2547 | 17.35 ล้านล้าน HKD |
1/6/2547 | 14.05 ล้านล้าน HKD |
1/9/2548 | 1.13 ล้านล้าน HKD |
1/12/2548 | 2.24 ล้านล้าน HKD |
1/12/2549 | 2.86 ล้านล้าน HKD |
1/3/2550 | 1.46 ล้านล้าน HKD |
1/6/2550 | 5.6 ล้านล้าน HKD |
1/9/2550 | 302 ล้าน HKD |
1/12/2550 | 12.06 ล้านล้าน HKD |
1/6/2551 | 4.51 ล้านล้าน HKD |
1/9/2551 | 2.68 ล้านล้าน HKD |
1/12/2551 | 5.4 ล้านล้าน HKD |
1/9/2552 | 22.18 ล้านล้าน HKD |
1/12/2552 | 27.96 ล้านล้าน HKD |
1/3/2553 | 36.99 ล้านล้าน HKD |
1/6/2553 | 12.45 ล้านล้าน HKD |
1/12/2553 | 10.08 ล้านล้าน HKD |
1/3/2554 | 10.72 ล้านล้าน HKD |
1/6/2554 | 7.36 ล้านล้าน HKD |
1/12/2554 | 791 ล้าน HKD |
1/3/2555 | 2.6 ล้านล้าน HKD |
1/12/2555 | 1.28 ล้านล้าน HKD |
1/3/2556 | 7.93 ล้านล้าน HKD |
1/12/2556 | 1.07 ล้านล้าน HKD |
1/3/2557 | 5.99 ล้านล้าน HKD |
1/6/2557 | 6.88 ล้านล้าน HKD |
1/12/2557 | 558 ล้าน HKD |
1/12/2558 | 1.57 ล้านล้าน HKD |
1/6/2559 | 1.36 ล้านล้าน HKD |
1/9/2559 | 425 ล้าน HKD |
1/12/2559 | 1.89 ล้านล้าน HKD |
1/3/2560 | 3.92 ล้านล้าน HKD |
1/6/2560 | 1.68 ล้านล้าน HKD |
1/9/2560 | 544 ล้าน HKD |
1/12/2560 | 6.66 ล้านล้าน HKD |
1/6/2561 | 2.63 ล้านล้าน HKD |
1/9/2561 | 13.57 ล้านล้าน HKD |
1/12/2562 | 5.42 ล้านล้าน HKD |
1/3/2563 | 23.44 ล้านล้าน HKD |
1/6/2563 | 1.14 ล้านล้าน HKD |
1/9/2563 | 4.33 ล้านล้าน HKD |
1/12/2563 | 22.17 ล้านล้าน HKD |
1/6/2564 | 10.21 ล้านล้าน HKD |
1/9/2564 | 16.78 ล้านล้าน HKD |
1/6/2565 | 19.13 ล้านล้าน HKD |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2565 | 19.125 ล้านล้าน HKD |
1/9/2564 | 16.78 ล้านล้าน HKD |
1/6/2564 | 10.211 ล้านล้าน HKD |
1/12/2563 | 22.172 ล้านล้าน HKD |
1/9/2563 | 4.325 ล้านล้าน HKD |
1/6/2563 | 1.143 ล้านล้าน HKD |
1/3/2563 | 23.44 ล้านล้าน HKD |
1/12/2562 | 5.421 ล้านล้าน HKD |
1/9/2561 | 13.565 ล้านล้าน HKD |
1/6/2561 | 2.633 ล้านล้าน HKD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇰 การจดทะเบียนรถยนต์ | 6,435 Units | 5,918 Units | รายเดือน |
🇭🇰 การผลิตอุตสาหกรรม | 1.8 % | 4.1 % | ควอร์เตอร์ |
🇭🇰 การล้มละลาย | 7,378 Companies | 11,390 Companies | รายเดือน |
🇭🇰 ผลิตภัณฑ์ PMI | 49.2 points | 50.6 points | รายเดือน |
🇭🇰 สภาวะธุรกิจ | 2 points | 1 points | ควอร์เตอร์ |
ในฮ่องกง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักเป็นตัวชี้วัดล่วงหน้าสำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool