ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ไฮติ การนำเข้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าในไฮติคือ194.297 ล้านUSD การนำเข้าในไฮติลดลงมาที่194.297 ล้านUSDเมื่อวันที่1/11/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่222.219 ล้านUSDเมื่อวันที่1/10/2566 จากช่วง1/1/2551ถึง1/12/2566, GDP เฉลี่ยในไฮติอยู่ที่160.9 ล้านUSD ค่าอยู่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2563ด้วย315.47 ล้านUSD, ในขณะที่ค่าที่ต่ำที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อ1/1/2552ด้วย81.82 ล้านUSD
การนำเข้า ·
แม็กซ์
นำเข้า | |
---|---|
1/1/2551 | 82.01 ล้าน USD |
1/2/2551 | 87.18 ล้าน USD |
1/3/2551 | 115.5 ล้าน USD |
1/4/2551 | 109.3 ล้าน USD |
1/5/2551 | 111.48 ล้าน USD |
1/6/2551 | 88.63 ล้าน USD |
1/7/2551 | 146.63 ล้าน USD |
1/8/2551 | 140.87 ล้าน USD |
1/9/2551 | 165.2 ล้าน USD |
1/10/2551 | 123.97 ล้าน USD |
1/11/2551 | 120.44 ล้าน USD |
1/12/2551 | 109.42 ล้าน USD |
1/1/2552 | 81.82 ล้าน USD |
1/2/2552 | 93.92 ล้าน USD |
1/3/2552 | 107.1 ล้าน USD |
1/4/2552 | 114.13 ล้าน USD |
1/5/2552 | 119.12 ล้าน USD |
1/6/2552 | 87.42 ล้าน USD |
1/7/2552 | 111.02 ล้าน USD |
1/8/2552 | 93.79 ล้าน USD |
1/9/2552 | 94.93 ล้าน USD |
1/10/2552 | 121.98 ล้าน USD |
1/11/2552 | 97.4 ล้าน USD |
1/12/2552 | 103.37 ล้าน USD |
1/1/2553 | 124.89 ล้าน USD |
1/2/2553 | 119.8 ล้าน USD |
1/3/2553 | 180.12 ล้าน USD |
1/4/2553 | 154.08 ล้าน USD |
1/5/2553 | 162.26 ล้าน USD |
1/6/2553 | 156.24 ล้าน USD |
1/7/2553 | 157.61 ล้าน USD |
1/8/2553 | 155.95 ล้าน USD |
1/9/2553 | 160.32 ล้าน USD |
1/10/2553 | 167.18 ล้าน USD |
1/11/2553 | 142.62 ล้าน USD |
1/12/2553 | 138.46 ล้าน USD |
1/1/2554 | 125.98 ล้าน USD |
1/2/2554 | 106.58 ล้าน USD |
1/3/2554 | 144.47 ล้าน USD |
1/4/2554 | 147.11 ล้าน USD |
1/5/2554 | 130.46 ล้าน USD |
1/6/2554 | 145.78 ล้าน USD |
1/7/2554 | 139.49 ล้าน USD |
1/8/2554 | 115.87 ล้าน USD |
1/9/2554 | 177.3 ล้าน USD |
1/10/2554 | 141.33 ล้าน USD |
1/11/2554 | 159.01 ล้าน USD |
1/12/2554 | 148.91 ล้าน USD |
1/1/2555 | 104.28 ล้าน USD |
1/2/2555 | 95.96 ล้าน USD |
1/3/2555 | 134.51 ล้าน USD |
1/4/2555 | 105.65 ล้าน USD |
1/5/2555 | 109.32 ล้าน USD |
1/6/2555 | 137.57 ล้าน USD |
1/7/2555 | 120.12 ล้าน USD |
1/8/2555 | 135.47 ล้าน USD |
1/9/2555 | 127.47 ล้าน USD |
1/10/2555 | 142.85 ล้าน USD |
1/11/2555 | 138.83 ล้าน USD |
1/12/2555 | 134.07 ล้าน USD |
1/1/2556 | 130 ล้าน USD |
1/2/2556 | 100.88 ล้าน USD |
1/3/2556 | 126.51 ล้าน USD |
1/4/2556 | 151.95 ล้าน USD |
1/5/2556 | 142.73 ล้าน USD |
1/6/2556 | 157.33 ล้าน USD |
1/7/2556 | 169.15 ล้าน USD |
1/8/2556 | 145.91 ล้าน USD |
1/9/2556 | 137.32 ล้าน USD |
1/10/2556 | 191.42 ล้าน USD |
1/11/2556 | 136.66 ล้าน USD |
1/12/2556 | 137.17 ล้าน USD |
1/1/2557 | 135.81 ล้าน USD |
1/2/2557 | 121.68 ล้าน USD |
1/3/2557 | 164.46 ล้าน USD |
1/4/2557 | 164.76 ล้าน USD |
1/5/2557 | 161.59 ล้าน USD |
1/6/2557 | 145.1 ล้าน USD |
1/7/2557 | 157.47 ล้าน USD |
1/8/2557 | 150.88 ล้าน USD |
1/9/2557 | 142.2 ล้าน USD |
1/10/2557 | 156.99 ล้าน USD |
1/11/2557 | 177.94 ล้าน USD |
1/12/2557 | 154.87 ล้าน USD |
1/1/2558 | 139.4 ล้าน USD |
1/2/2558 | 107.6 ล้าน USD |
1/3/2558 | 138.88 ล้าน USD |
1/4/2558 | 163.19 ล้าน USD |
1/5/2558 | 166.43 ล้าน USD |
1/6/2558 | 154.51 ล้าน USD |
1/7/2558 | 145.8 ล้าน USD |
1/8/2558 | 144.22 ล้าน USD |
1/9/2558 | 144.08 ล้าน USD |
1/10/2558 | 140.62 ล้าน USD |
1/11/2558 | 151.02 ล้าน USD |
1/12/2558 | 148.21 ล้าน USD |
1/1/2559 | 112.92 ล้าน USD |
1/2/2559 | 119.08 ล้าน USD |
1/3/2559 | 149.27 ล้าน USD |
1/4/2559 | 134.09 ล้าน USD |
1/5/2559 | 155.06 ล้าน USD |
1/6/2559 | 169.43 ล้าน USD |
1/7/2559 | 140.57 ล้าน USD |
1/8/2559 | 173.68 ล้าน USD |
1/9/2559 | 148.26 ล้าน USD |
1/10/2559 | 151.09 ล้าน USD |
1/11/2559 | 163.29 ล้าน USD |
1/12/2559 | 156.29 ล้าน USD |
1/1/2560 | 158.79 ล้าน USD |
1/2/2560 | 122.63 ล้าน USD |
1/3/2560 | 174 ล้าน USD |
1/4/2560 | 186.41 ล้าน USD |
1/5/2560 | 178.68 ล้าน USD |
1/6/2560 | 195.61 ล้าน USD |
1/7/2560 | 193.99 ล้าน USD |
1/8/2560 | 188.49 ล้าน USD |
1/9/2560 | 201.88 ล้าน USD |
1/10/2560 | 199.29 ล้าน USD |
1/11/2560 | 201.82 ล้าน USD |
1/12/2560 | 206.06 ล้าน USD |
1/1/2561 | 170.43 ล้าน USD |
1/2/2561 | 168.79 ล้าน USD |
1/3/2561 | 164.3 ล้าน USD |
1/4/2561 | 202.82 ล้าน USD |
1/5/2561 | 208.74 ล้าน USD |
1/6/2561 | 212.19 ล้าน USD |
1/7/2561 | 202.61 ล้าน USD |
1/8/2561 | 207.46 ล้าน USD |
1/9/2561 | 201.1 ล้าน USD |
1/10/2561 | 196.22 ล้าน USD |
1/11/2561 | 222.42 ล้าน USD |
1/12/2561 | 190.33 ล้าน USD |
1/1/2562 | 186.32 ล้าน USD |
1/2/2562 | 132.31 ล้าน USD |
1/3/2562 | 188.71 ล้าน USD |
1/4/2562 | 199.87 ล้าน USD |
1/5/2562 | 202.23 ล้าน USD |
1/6/2562 | 168.66 ล้าน USD |
1/7/2562 | 172.97 ล้าน USD |
1/8/2562 | 181.41 ล้าน USD |
1/9/2562 | 170.02 ล้าน USD |
1/10/2562 | 135.9 ล้าน USD |
1/11/2562 | 126.75 ล้าน USD |
1/12/2562 | 162.48 ล้าน USD |
1/1/2563 | 161.76 ล้าน USD |
1/2/2563 | 171.75 ล้าน USD |
1/3/2563 | 198.98 ล้าน USD |
1/4/2563 | 178.78 ล้าน USD |
1/5/2563 | 200.43 ล้าน USD |
1/6/2563 | 187.41 ล้าน USD |
1/7/2563 | 235.87 ล้าน USD |
1/8/2563 | 196.82 ล้าน USD |
1/9/2563 | 181.88 ล้าน USD |
1/10/2563 | 194.97 ล้าน USD |
1/11/2563 | 239.85 ล้าน USD |
1/12/2563 | 315.47 ล้าน USD |
1/1/2564 | 214.58 ล้าน USD |
1/2/2564 | 179.97 ล้าน USD |
1/3/2564 | 193.95 ล้าน USD |
1/4/2564 | 203.38 ล้าน USD |
1/5/2564 | 205.54 ล้าน USD |
1/6/2564 | 216 ล้าน USD |
1/7/2564 | 173.09 ล้าน USD |
1/8/2564 | 249.75 ล้าน USD |
1/9/2564 | 193.44 ล้าน USD |
1/10/2564 | 242.27 ล้าน USD |
1/11/2564 | 226.39 ล้าน USD |
1/12/2564 | 250.79 ล้าน USD |
1/1/2565 | 232.6 ล้าน USD |
1/2/2565 | 176.78 ล้าน USD |
1/3/2565 | 205.96 ล้าน USD |
1/4/2565 | 188.33 ล้าน USD |
1/5/2565 | 249.1 ล้าน USD |
1/6/2565 | 289.83 ล้าน USD |
1/7/2565 | 237.65 ล้าน USD |
1/8/2565 | 219.58 ล้าน USD |
1/9/2565 | 163.93 ล้าน USD |
1/10/2565 | 110.45 ล้าน USD |
1/11/2565 | 103.14 ล้าน USD |
1/12/2565 | 161.3 ล้าน USD |
1/1/2566 | 209.49 ล้าน USD |
1/2/2566 | 154.4 ล้าน USD |
1/3/2566 | 186.32 ล้าน USD |
1/4/2566 | 195.41 ล้าน USD |
1/5/2566 | 191 ล้าน USD |
1/6/2566 | 160.37 ล้าน USD |
1/7/2566 | 166.14 ล้าน USD |
1/8/2566 | 170.28 ล้าน USD |
1/9/2566 | 197.48 ล้าน USD |
1/10/2566 | 222.22 ล้าน USD |
1/11/2566 | 194.3 ล้าน USD |
การนำเข้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/11/2566 | 194.297 ล้าน USD |
1/10/2566 | 222.219 ล้าน USD |
1/9/2566 | 197.475 ล้าน USD |
1/8/2566 | 170.281 ล้าน USD |
1/7/2566 | 166.141 ล้าน USD |
1/6/2566 | 160.369 ล้าน USD |
1/5/2566 | 190.999 ล้าน USD |
1/4/2566 | 195.407 ล้าน USD |
1/3/2566 | 186.325 ล้าน USD |
1/2/2566 | 154.398 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇹 การโอนเงิน | 3.798 ล้านล้าน USD | 3.994 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇭🇹 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇭🇹 ทองคำสำรอง | 1.81 Tonnes | 1.81 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇭🇹 ยอดการค้า | -114.477 ล้าน USD | -113.389 ล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇹 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -29.82 ล้าน USD | -161.36 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇭🇹 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -2.9 % of GDP | -2.3 % of GDP | ประจำปี |
🇭🇹 ส่งออก | 63.006 ล้าน USD | 82.217 ล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇹 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 10.8 % of GDP | 15.3 % of GDP | ประจำปี |
เฮติส่วนใหญ่นำเข้าข้าว, ผ้าฝ้าย, น้ำมันพืช, ข้าวสาลี, น้ำตาลอ้อย, นม, เหล็กและเหล็กกล้า, ไก่, ยานพาหนะ และเชื้อเพลิง คู่ค้าหลักของเฮติในการนำเข้าสินค้าคือ สาธารณรัฐโดมินิกัน สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส และจีน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร การนำเข้า
การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป