ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ไฮติ หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่า หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปัจจุบันใน ไฮติ คือ 24.2 % of GDP ค่า หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ไฮติ เพิ่มขึ้นเป็น 24.2 % of GDP เมื่อ 1/1/2564 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 21.3 % of GDP เมื่อ 1/1/2563 ตั้งแต่ 1/1/2540 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ไฮติ อยู่ที่ 25.83 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อ 1/1/2546 ที่ 37.8 % of GDP ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2552 ที่ 18.3 % of GDP
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | |
---|---|
1/1/2540 | 26.2 % of GDP |
1/1/2541 | 24 % of GDP |
1/1/2542 | 24.1 % of GDP |
1/1/2543 | 32.5 % of GDP |
1/1/2544 | 28.8 % of GDP |
1/1/2545 | 32 % of GDP |
1/1/2546 | 37.8 % of GDP |
1/1/2547 | 30.4 % of GDP |
1/1/2548 | 29.7 % of GDP |
1/1/2549 | 32.2 % of GDP |
1/1/2550 | 30.2 % of GDP |
1/1/2551 | 32.7 % of GDP |
1/1/2552 | 18.3 % of GDP |
1/1/2553 | 23.2 % of GDP |
1/1/2554 | 21.3 % of GDP |
1/1/2555 | 22.8 % of GDP |
1/1/2556 | 24.4 % of GDP |
1/1/2557 | 20.8 % of GDP |
1/1/2558 | 21.7 % of GDP |
1/1/2559 | 21.6 % of GDP |
1/1/2560 | 19 % of GDP |
1/1/2561 | 21.6 % of GDP |
1/1/2562 | 25.8 % of GDP |
1/1/2563 | 21.3 % of GDP |
1/1/2564 | 24.2 % of GDP |
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2564 | 24.2 % of GDP |
1/1/2563 | 21.3 % of GDP |
1/1/2562 | 25.8 % of GDP |
1/1/2561 | 21.6 % of GDP |
1/1/2560 | 19 % of GDP |
1/1/2559 | 21.6 % of GDP |
1/1/2558 | 21.7 % of GDP |
1/1/2557 | 20.8 % of GDP |
1/1/2556 | 24.4 % of GDP |
1/1/2555 | 22.8 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇹 การใช้จ่ายทางทหาร | 11.7 ล้าน USD | 12.7 ล้าน USD | ประจำปี |
🇭🇹 งบประมาณของรัฐ | 0.66 % of GDP | -3.14 % of GDP | ประจำปี |
🇭🇹 ดัชนีการทุจริต | 17 Points | 17 Points | ประจำปี |
🇭🇹 อันดับคอร์รัปชั่น | 172 | 171 | ประจำปี |
โดยทั่วไปแล้ว หนี้รัฐบาลเมื่อเปรียบเทียบกับ GDP เป็นเปอร์เซ็นต์ถูกใช้โดยนักลงทุนเพื่อวัดความสามารถของประเทศในการชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืมและอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้รัฐบาลต่อ GDP เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยให้เรามีความเข้าใจในสภาพคล่องทางการเงินและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างชัดเจน หนี้รัฐบาลต่อ GDP หมายถึงอัตราส่วนของหนี้สาธารณะที่ประเทศถือไว้เทียบกับผลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยทั่วไปแล้วค่าที่ได้จากการคำนวณตัวบ่งชี้นี้จะแสดงออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถใช้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ประเทศนั้นๆ จะประสบปัญหาทางการเงินหรือความเฉื่อยทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากหนี้รัฐบาลต่อ GDP มีค่าเพิ่มขึ้น หมายถึงรัฐบาลต้องการกว่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกันผลผลิตในทางเศรษฐกิจไม่สามารถตามทัน เช่นนี้อาจนำไปสู่ภาวะวิกฤติจากหนี้ เพิ่มความเสี่ยงที่รัฐบาลจะต้องเผชิญกับปัญหาการชำระหนี้ไม่ได้ การให้ความสำคัญกับตัวเลขหนี้ต่อ GDP จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการเศรษฐกิจ แต่ยังรวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่รับผลกระทบจากนโยบายทางการเงินของรัฐบาล การเปรียบเทียบหนี้รัฐบาลต่อ GDP ระหว่างประเทศยังเป็นวิธีการที่น่าสนใจในการวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงินของเศรษฐกิจโลก ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือพิจารณาว่าสถานะทางการเงินของประเทศหนึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่นๆ หรือไม่ ตัวอย่างของประเทศที่มีหนี้รัฐบาลต่อ GDP สูง เช่น ญี่ปุ่น หรือ กรีซ มีความหน่วยแน่ใจที่ว่าแนวทางจับการของรัฐบาลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกัน การที่หลายนโยบายการคลังของประเทศเหล่านี้อยู่ในระดับคงจะเดิมที่สมดุล ความเชื่อถือในตลาดการเงินยังคงสูง การวิเคราะห์หนี้รัฐบาลต่อ GDP ยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการคลังของรัฐบาลในอนาคต ถ้าประเทศหนึ่งมีหนี้รัฐบาลต่อ GDP ในระดับสูงและยังไม่มีทิศทางที่จะลดลง เป็นไปได้ว่ารัฐบาลของประเทศนั้นจะต้องมีการดำเนินนโยบายการคลังที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มภาษี หรือการลดค่าใช้จ่ายของรัฐในบางด้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากหนี้ที่มากขึ้นนี้ นอกจากการดูค่าอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP แล้ว การวิเคราะห์แนวโน้มระยะยาวยังมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมักจะดูข้อมูลย้อนหลังกว่า 10-20 ปี เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางการชำระหนี้และการใช้จ่ายของรัฐบาล รวมไปถึงการประเมินการกู้หนี้ใหม่ของประเทศหนึ่งๆ การดูแนวโน้มนี้ยังช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าประเทศหนึ่งมีความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่ การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนนี้อาจสะท้อนถึงการใช้จ่ายส่วนเกินของรัฐบาล ซึ่งสามารถกระทำในหลายรูปแบบ เช่น การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรืออาจเป็นการเน้นย้ำการให้บริการทางสังคม เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษาหรือการป้องกันประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถบ่งชี้ระดับความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก เป็นต้น หนี้รัฐบาลต่อ GDP ยังมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์ภาวะความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักวิจัยที่สนใจสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่มีหนี้รัฐบาลต่อ GDP ในระดับต่ำหรือคงที่ มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าประเทศที่หนี้รัฐบาลต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับนโยบายการเงินและการคลัง การดูแลไม่ให้หนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้นเกินอัตราที่สามารถบริหารจัดการได้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP ที่สูงเกินไปอาจทำให้รัฐบาลเผชิญกับปัญหาในการกู้หนี้ใหม่ หรือการชำระหนี้เก่าที่อาจไปกระทบถึงเสถียรภาพทางการเงินของประเทศตามมา เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลที่เสนอตัวบ่งชี้หนี้รัฐบาลต่อ GDP พร้อมข้อมูลที่สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการอัพเดทข้อมูลที่ทันสมัยและการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่มีความละเอียดและแม่นยำ ทั้งนี้ เรามีความตั้งใจที่จะแนะนำให้ผู้ใช้มีความเข้าใจในเรื่องของการเงินและเศรษฐกิจในระดับที่ลึกซึ้งและมีข้อมูลที่แน่ชัดสำหรับการตัดสินใจต่างๆ ในสุดท้าย ค่าอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP เป็นตัวบ่งชี้ที่มีความสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับนักเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยทางเศรษฐกิจ แต่ยังหมายถึงผลกระทบที่เป็น้อนดีต่อประชาชนทั่วไป การเข้าใจในความหมายและการวิเคราะห์ตัวเลขนี้จะช่วยให้เรามีภาพรวมที่ชัดเจนและสามารถตระหนักถึงความสำคัญของเสถียรภาพทางการเงินในเศรษฐกิจของประเทศ.