ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇬🇭

กานา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ราคา

51.3 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.4 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.78 %

ค่าปัจจุบันของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ในกานา อยู่ที่51.3 คะแนน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ในกานา เพิ่มขึ้นเป็น51.3 คะแนน เมื่อวันที่1/4/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่50.9 คะแนน เมื่อวันที่1/3/2567 ตั้งแต่1/7/2560 ถึง1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในกานา อยู่ที่50.63 คะแนน ค่าสูงสุดที่เคยถึงคือวันที่1/9/2560 ด้วยค่า56.5 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้ที่1/4/2563 ด้วยค่า31.7 คะแนน

แหล่งที่มา: S&P Global

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

  • แม็กซ์

Composite PMI

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/256751.3 คะแนน
1/3/256750.9 คะแนน
1/2/256750.2 คะแนน
1/1/256748.4 คะแนน
1/12/256651.8 คะแนน
1/11/256651.6 คะแนน
1/10/256650.5 คะแนน
1/9/256650.5 คะแนน
1/8/256651.9 คะแนน
1/7/256650.5 คะแนน
1
2
3
4
5
...
9

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇬🇭
ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า
3.5 %2.9 %รายเดือน

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสแตนบิกแบงก์กาน่าอิงตามข้อมูลที่รวบรวมจากการตอบแบบสอบถามรายเดือนซึ่งส่งไปยังผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อในบริษัทภาคเอกชนประมาณ 400 แห่ง ซึ่งได้รับการคัดเลือกอย่างละเอียดเพื่อนำเสนอโครงสร้างที่แท้จริงของเศรษฐกิจกาน่าอย่างถูกต้อง รวมถึงภาคเกษตรกรรม การก่อสร้าง อุตสาหกรรม การบริการ และค้าส่งค้าปลีก แผงควบคุมถูกจัดชั้นตามขนาด GDP และขนาดแรงงานของบริษัท การตอบแบบสำรวจสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลง หากมี ในเดือนปัจจุบันเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยอิงจากข้อมูลที่รวบรวมในช่วงกลางเดือน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เป็นดัชนีผสมที่อิงตามองค์ประกอบย่อยห้ารายการโดยมีอัตราน้ำหนักดังนี้ คำสั่งซื้อใหม่ - 0.3 ผลผลิต - 0.25 การจ้างงาน - 0.2 เวลาการส่งมอบของผู้จัดหา - 0.15 สต็อกสินค้าที่ซื้อ - 0.1 โดยองค์ประกอบย่อยเวลาการส่งมอบของผู้จัดหาจะกลับด้านเพื่อให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เปรียบเทียบกันได้

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ที่ Eulerpool เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้สำหรับการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและเป็นปัจจุบัน ในหมวดหมู่การวัดดัชนีเศรษฐกิจมหภาคหนึ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ 'Composite PMI' หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่นำมาใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม (Composite PMI) คืออะไร? ดัชนี PMI เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนามาเพื่อประเมินสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและเป็นตัวชี้วัดระดับการเติบโตหรือหยุดชะงักของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำการสำรวจผ่านการถามคำถามของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อ การผลิต สต๊อกสินค้า การจ้างงาน และราคาสินค้า และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาคำนวณเป็นดัชนี PMI Composite PMI นั้นจะรวมข้อมูลทั้งจากภาคการผลิตและภาคบริการ ซึ่งทำให้ดัชนีนี้มีความครอบคลุมในการประเมินสภาพเศรษฐกิจแบบครบองค์รวม ภาคการบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งในเศรษฐกิจสมัยใหม่ และการรวมข้อมูลจากทั้งสองภาคสาขาทำให้ได้รับภาพรวมที่แม่นยำและแพร่หลายมากขึ้น ทำไม Composite PMI ถึงสำคัญ? Composite PMI มีบทบาทสำคัญในการทำให้เราเข้าใจและประเมินสภาพเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เนื่องจากดัชนีนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภค การจ้างงาน และการลงทุน ถ้าดัชนี Composite PMI สูงกว่า 50 แสดงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว ในขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ ผลลัพธ์ของ Composite PMI จะนำเสนอได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้ผู้วางแผนในบริษัท นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้บริหารองค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานได้ทันที การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Composite PMI ทั้งในช่วงเวลาสั้นและเวลา่ยาวจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตได้ เมื่อเราพูดถึงการวางแผนและการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจ การมีข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง Composite PMI จึงให้ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเศรษฐกิจมหาภาค ทั้งนี้เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมีข้อมูลภายในที่สามารถสรุปภาพรวมได้อย่างชัดเจน การเปรียบเทียบ Composite PMI ระหว่างประเทศหรือภูมิภาคแตกต่างกันยังเป็นการให้มุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการค้าโลกและการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาคสามารถนำข้อมูล Composite PMI ไปใช้ในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ, เปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขัน, และดูการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว การให้ความสำคัญกับข้อมูล Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการทำการวิเคราะห์การลงทุนเชิงลึก ทั้งในแง่ของการวิเคราะห์เศรษฐกิจระดับมหภาคและการตรวจสอบสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้กับข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และดัชนีการค้าสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ครบถ้วนและทำให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้าใจในดัชนี Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตสามารถทำให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในระดับรัฐบาลหรือธนาคารกลางสร้างนโยบายที่เหมาะสมและทันเวลา โดยสรุป ดัชนี Composite PMI เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของการเติบโตในระยะสั้นหรือยาว รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและการลงทุน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่านี้ให้แก่ผู้ใช้งานทุกท่าน เพื่อให้ได้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและความมั่นใจในทุกสถานการณ์