ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇭

ฟิลิปปินส์ รายได้ของรัฐบาล

ราคา

382.089 ล้านล้าน PHP
การเปลี่ยนแปลง +/-
-155.107 ล้านล้าน PHP
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-33.75 %

มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 382.089 ล้านล้าน PHP รายได้ของรัฐบาลใน ฟิลิปปินส์ ลดลงเหลือ 382.089 ล้านล้าน PHP เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่มีมูลค่า 537.196 ล้านล้าน PHP ใน 1/4/2567 ตั้งแต่ 1/1/2502 ถึง 1/5/2567 ค่า GDP เฉลี่ยใน ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 61.35 ล้านล้าน PHP ค่าสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/4/2567 ด้วยมูลค่า 537.2 ล้านล้าน PHP ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/11/2502 ด้วยมูลค่า 81 ล้าน PHP

แหล่งที่มา: Bureau of the Treasury, Philippines

รายได้ของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รายได้ของรัฐ

รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/2567382.089 ล้านล้าน PHP
1/4/2567537.196 ล้านล้าน PHP
1/3/2567287.923 ล้านล้าน PHP
1/2/2567224.016 ล้านล้าน PHP
1/1/2567421.801 ล้านล้าน PHP
1/12/2566260.078 ล้านล้าน PHP
1/11/2566340.395 ล้านล้าน PHP
1/10/2566385.808 ล้านล้าน PHP
1/9/2566255.408 ล้านล้าน PHP
1/8/2566310.553 ล้านล้าน PHP
1
2
3
4
5
...
79

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇭
การใช้จ่ายทางทหาร
5.452 ล้านล้าน USD5.322 ล้านล้าน USDประจำปี
🇵🇭
งบประมาณของรัฐ
-6.2 % of GDP-7.3 % of GDPประจำปี
🇵🇭
ดัชนีการทุจริต
34 Points33 Pointsประจำปี
🇵🇭
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-174.911 ล้านล้าน PHP42.7 ล้านล้าน PHPรายเดือน
🇵🇭
รัฐบาลใช้จ่าย
572.919 ล้านล้าน PHP440.543 ล้านล้าน PHPรายเดือน
🇵🇭
รัฐบาลใช้จ่าย
930.304 ล้านล้าน PHP729.21 ล้านล้าน PHPควอร์เตอร์
🇵🇭
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
60.1 % of GDP60.9 % of GDPประจำปี
🇵🇭
อันดับคอร์รัปชั่น
115 116 ประจำปี

รายได้รัฐบาล หมายถึง รายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ รวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้รัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณดุลการงบประมาณของรัฐบาล

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร รายได้ของรัฐบาล

รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป