ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เอกวาดอร์ กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในเอกวาดอร์อยู่ที่1.7 ล้านล้านUSD กระแสเงินทุนในเอกวาดอร์เพิ่มขึ้นเป็น1.7 ล้านล้านUSDเมื่อ1/3/2567 หลังจากที่เป็น180.466 ล้านUSDเมื่อ1/12/2566 จากวันที่1/3/2537ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในเอกวาดอร์อยู่ที่70.36 ล้านUSD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่2.76 ล้านล้านUSDเมื่อ1/6/2567 ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/9/2543ที่-5.56 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2537 | 297 ล้าน USD |
1/6/2537 | 345 ล้าน USD |
1/9/2537 | 262 ล้าน USD |
1/12/2537 | 238 ล้าน USD |
1/3/2538 | 128 ล้าน USD |
1/6/2538 | 260 ล้าน USD |
1/9/2538 | 171 ล้าน USD |
1/12/2538 | 26 ล้าน USD |
1/3/2539 | 70 ล้าน USD |
1/9/2539 | 61 ล้าน USD |
1/12/2539 | 99 ล้าน USD |
1/3/2540 | 157 ล้าน USD |
1/6/2540 | 366 ล้าน USD |
1/9/2540 | 242 ล้าน USD |
1/12/2540 | 214 ล้าน USD |
1/3/2541 | 224 ล้าน USD |
1/6/2541 | 477 ล้าน USD |
1/9/2541 | 550 ล้าน USD |
1/12/2541 | 524 ล้าน USD |
1/12/2543 | 28.9 ล้าน USD |
1/6/2544 | 185.7 ล้าน USD |
1/9/2544 | 262.6 ล้าน USD |
1/12/2544 | 605.5 ล้าน USD |
1/3/2545 | 256.46 ล้าน USD |
1/6/2545 | 588.76 ล้าน USD |
1/9/2545 | 319.11 ล้าน USD |
1/12/2545 | 115.13 ล้าน USD |
1/3/2546 | 106.38 ล้าน USD |
1/6/2546 | 215.75 ล้าน USD |
1/9/2546 | 276.37 ล้าน USD |
1/3/2547 | 31.49 ล้าน USD |
1/9/2547 | 120.03 ล้าน USD |
1/12/2547 | 27.5 ล้าน USD |
1/6/2548 | 71.27 ล้าน USD |
1/12/2548 | 56.71 ล้าน USD |
1/9/2549 | 187.64 ล้าน USD |
1/3/2550 | 80.82 ล้าน USD |
1/6/2550 | 522.78 ล้าน USD |
1/6/2551 | 530.15 ล้าน USD |
1/9/2552 | 1.38 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 65.09 ล้าน USD |
1/6/2553 | 353.69 ล้าน USD |
1/9/2553 | 1.22 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 926.49 ล้าน USD |
1/6/2555 | 496.27 ล้าน USD |
1/9/2555 | 1.3 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 2.08 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 30.36 ล้าน USD |
1/9/2556 | 516.02 ล้าน USD |
1/12/2556 | 301.38 ล้าน USD |
1/6/2557 | 1.61 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 1.02 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 729.58 ล้าน USD |
1/6/2558 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/6/2559 | 433.88 ล้าน USD |
1/9/2559 | 394.91 ล้าน USD |
1/12/2559 | 412.45 ล้าน USD |
1/3/2560 | 169.36 ล้าน USD |
1/6/2560 | 28.96 ล้าน USD |
1/3/2561 | 89.19 ล้าน USD |
1/6/2562 | 15.67 ล้าน USD |
1/9/2562 | 60.11 ล้าน USD |
1/12/2562 | 299.62 ล้าน USD |
1/3/2563 | 534.31 ล้าน USD |
1/6/2563 | 818.71 ล้าน USD |
1/9/2563 | 1.01 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 822.73 ล้าน USD |
1/6/2564 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 397.09 ล้าน USD |
1/12/2564 | 78.7 ล้าน USD |
1/3/2565 | 740.56 ล้าน USD |
1/6/2565 | 1.57 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 582.17 ล้าน USD |
1/3/2566 | 321.51 ล้าน USD |
1/9/2566 | 8.2 ล้าน USD |
1/12/2566 | 180.47 ล้าน USD |
1/3/2567 | 1.7 ล้านล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 1.7 ล้านล้าน USD |
1/12/2566 | 180.466 ล้าน USD |
1/9/2566 | 8.196 ล้าน USD |
1/3/2566 | 321.508 ล้าน USD |
1/9/2565 | 582.174 ล้าน USD |
1/6/2565 | 1.567 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 740.562 ล้าน USD |
1/12/2564 | 78.703 ล้าน USD |
1/9/2564 | 397.086 ล้าน USD |
1/6/2564 | 1.512 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇪🇨 การผลิตน้ำมันดิบ | 447 BBL/D/1K | 484 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇪🇨 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 87.4 ล้าน USD | 156.9 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇪🇨 การโอนเงิน | 1.496 ล้านล้าน USD | 1.406 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇪🇨 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.167 Points | 2.198 Points | ประจำปี |
🇪🇨 ทองคำสำรอง | 26.28 Tonnes | 26.28 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇪🇨 นำเข้า | 2.45 ล้านล้าน USD | 2.341 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇪🇨 ยอดการค้า | 459.61 ล้าน USD | 454.765 ล้าน USD | รายเดือน |
🇪🇨 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 522.82 ล้าน USD | 568.15 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇪🇨 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 2.2 % of GDP | 2.9 % of GDP | ประจำปี |
🇪🇨 ส่งออก | 2.909 ล้านล้าน USD | 2.795 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇪🇨 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 42.5 % of GDP | 42.8 % of GDP | ประจำปี |
ในประเทศเอกวาดอร์ การไหลของเงินทุนนานาชาติถูกวัดโดยใช้ยอดดุลของบัญชีทุนและบัญชีการเงินในดุลการชำระเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว