ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇩🇰

เดนมาร์ก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ราคา

6.685 ล้านล้าน DKK
การเปลี่ยนแปลง +/-
-12.571 ล้านล้าน DKK
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-96.92 %

มูลค่าปัจจุบันของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน เดนมาร์ก คือ 6.685 ล้านล้าน DKK การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน เดนมาร์ก ลดลงเหลือ 6.685 ล้านล้าน DKK ณ วันที่ 1/12/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 19.256 ล้านล้าน DKK เมื่อวันที่ 1/9/2566 จาก 1/3/2548 ถึง 1/6/2567 ค่า GDP เฉลี่ยใน เดนมาร์ก คือ 6.39 ล้านล้าน DKK โดยมูลค่าสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 1/9/2560 ที่ 54.75 ล้านล้าน DKK ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/12/2553 ที่ -21.38 ล้านล้าน DKK

แหล่งที่มา: Danmarks Nationalbank

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

  • แม็กซ์

การลงทุนตรงจากต่างประเทศ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/25666.685 ล้านล้าน DKK
1/9/256619.256 ล้านล้าน DKK
1/6/256627.312 ล้านล้าน DKK
1/3/256613.574 ล้านล้าน DKK
1/12/256529.016 ล้านล้าน DKK
1/9/25656.122 ล้านล้าน DKK
1/6/256513.368 ล้านล้าน DKK
1/3/25657.453 ล้านล้าน DKK
1/12/256421.347 ล้านล้าน DKK
1/9/25646.496 ล้านล้าน DKK
1
2
3
4
...
5

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇩🇰
กระแสเงินทุน
-261.3 ล้าน DKK-294.2 ล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
การขายอาวุธ
46 ล้าน SIPRI TIV61 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇩🇰
การผลิตน้ำมันดิบ
61 BBL/D/1K59 BBL/D/1Kรายเดือน
🇩🇰
เงื่อนไขการซื้อขาย
105.8 points102.6 pointsรายเดือน
🇩🇰
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0.158 Pointsประจำปี
🇩🇰
ทองคำสำรอง
66.5 Tonnes66.55 Tonnesควอร์เตอร์
🇩🇰
นำเข้า
138.745 ล้านล้าน DKK140.794 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
1,915.072 Terajoule27,573.606 Terajouleรายเดือน
🇩🇰
ยอดการค้า
23.076 ล้านล้าน DKK19.789 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
27.666 ล้านล้าน DKK23.246 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
10.9 % of GDP13.4 % of GDPประจำปี
🇩🇰
ส่งออก
161.82 ล้านล้าน DKK160.583 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
หนี้สินต่างประเทศ
25.648 ล้านล้าน DKK25.038 ล้านล้าน DKKรายเดือน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความหมายถึงการลงทุนโดยหน่วยงานหรือบุคคลจากประเทศหนึ่งเข้าไปลงทุนในกิจการของประเทศอื่น โดยมีการถือหุ้นหรือสิทธิ์ในการบริหารจัดการกิจการนั้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต่างกับการลงทุนทางการเงินที่เน้นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อหากำไรในระยะสั้น ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจมหภาค ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศมักจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านการเพิ่มพูนทุนทรัพย์สิน การสร้างงานใหม่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเพิ่มผลผลิต ผู้ลงทุนต่างประเทศมักจะมองหาสิ่งที่พวกเขาสามารถได้รับจากการลงทุน เช่น ผลตอบแทนที่สูงขึ้น การกระจายความเสี่ยง การเข้าถึงแหล่งทรัพยากร หรือการขยายตลาดใหม่ ซึ่งทุกปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค ในมุมมองของประเทศที่รับการลงทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า FDI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ผ่านการนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ นอกจากนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังสามารถช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน โรงงาน และระบบสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจสามารถขยับขยายและพัฒนาได้เร็วขึ้น อีกประเด็นที่สำคัญคือผลกระทบต่อการว่างงาน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมักจะนำไปสู่การสร้างงานใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เมื่อมีการสร้างงานใหม่ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอัตราการว่างงาน แต่ยังช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น การใช้จ่ายนี้เองจะนำไปสู่การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันยั่งยืน สำหรับประเทศไทย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศถือเป็นแหล่งทุนที่สำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนโยบายที่เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยได้มีการออกกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมและสร้างความเอื้อต่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี การให้สิทธิเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และการส่งเสริมการลงทุนในคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones หรือ SEZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการให้สิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้มักจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมให้บริการ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและสามารถลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เมื่อพูดถึงปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทย มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ความเป็นกลางทางการเมือง ศักยภาพทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่เติบโต และการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเพียงบางส่วนของปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การมีนโยบายที่ชัดเจนและความโปร่งใสในการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่จะไม่สามารถละเลยได้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแต่ผลบวกเท่านั้น ยังมีผลกระทบบางประการที่ต้องระมัดระวัง เช่น การเข้าไปควบคุมกิจการที่อาจจะผูกขาดตลาด หรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินกว่าความจำเป็น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนเหล่านี้มีประโยชน์สูงสุดแก่เศรษฐกิจและประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ การพัฒนาเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในการรับมือกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การมีบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถสูงจะทำให้ประเทศมีโอกาสในการเจรจาและบริหารจัดการการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการพัฒนาทางทักษะที่คงอยู่และลดการพึ่งพาทรัพยากรจากต่างประเทศ สุดท้ายนี้ การมีข้อมูลครบถ้วนและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เว็บไซต์ eulerpool ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการนำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาค ทีมงานของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน และถูกต้องที่สุดเพื่อช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในเครื่องหมายที่จะบอกถึงสุขภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดและเติบโตในโลกเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว