ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เดนมาร์ก การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการใช้จ่ายของรัฐบาลใน เดนมาร์ก คือ 146.3 ล้าน DKK การใช้จ่ายของรัฐบาลใน เดนมาร์ก ลดลงเหลือ 146.3 ล้าน DKK เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เคยเป็น 147.6 ล้าน DKK เมื่อ 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/3/2534 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน เดนมาร์ก อยู่ที่ 125.54 ล้าน DKK ระดับสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/12/2564 ด้วย 157.3 ล้าน DKK ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/6/2534 ด้วย 91.4 ล้าน DKK
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2534 | 91.8 ล้าน DKK |
1/6/2534 | 91.4 ล้าน DKK |
1/9/2534 | 92 ล้าน DKK |
1/12/2534 | 91.9 ล้าน DKK |
1/3/2535 | 92.6 ล้าน DKK |
1/6/2535 | 91.5 ล้าน DKK |
1/9/2535 | 91.9 ล้าน DKK |
1/12/2535 | 93.5 ล้าน DKK |
1/3/2536 | 93.5 ล้าน DKK |
1/6/2536 | 95.8 ล้าน DKK |
1/9/2536 | 97.2 ล้าน DKK |
1/12/2536 | 98.7 ล้าน DKK |
1/3/2537 | 99.1 ล้าน DKK |
1/6/2537 | 97.5 ล้าน DKK |
1/9/2537 | 97.5 ล้าน DKK |
1/12/2537 | 99 ล้าน DKK |
1/3/2538 | 99.7 ล้าน DKK |
1/6/2538 | 100 ล้าน DKK |
1/9/2538 | 100.6 ล้าน DKK |
1/12/2538 | 101.4 ล้าน DKK |
1/3/2539 | 102.5 ล้าน DKK |
1/6/2539 | 103.4 ล้าน DKK |
1/9/2539 | 104.1 ล้าน DKK |
1/12/2539 | 103.9 ล้าน DKK |
1/3/2540 | 103.6 ล้าน DKK |
1/6/2540 | 103.8 ล้าน DKK |
1/9/2540 | 104.4 ล้าน DKK |
1/12/2540 | 104.2 ล้าน DKK |
1/3/2541 | 105.7 ล้าน DKK |
1/6/2541 | 107.1 ล้าน DKK |
1/9/2541 | 108 ล้าน DKK |
1/12/2541 | 108.1 ล้าน DKK |
1/3/2542 | 110.1 ล้าน DKK |
1/6/2542 | 110.6 ล้าน DKK |
1/9/2542 | 110.4 ล้าน DKK |
1/12/2542 | 111.8 ล้าน DKK |
1/3/2543 | 113 ล้าน DKK |
1/6/2543 | 113.1 ล้าน DKK |
1/9/2543 | 114.5 ล้าน DKK |
1/12/2543 | 115.3 ล้าน DKK |
1/3/2544 | 114.5 ล้าน DKK |
1/6/2544 | 115.5 ล้าน DKK |
1/9/2544 | 117 ล้าน DKK |
1/12/2544 | 117.6 ล้าน DKK |
1/3/2545 | 117.4 ล้าน DKK |
1/6/2545 | 118.4 ล้าน DKK |
1/9/2545 | 119.6 ล้าน DKK |
1/12/2545 | 119.2 ล้าน DKK |
1/3/2546 | 118.4 ล้าน DKK |
1/6/2546 | 118.9 ล้าน DKK |
1/9/2546 | 119.1 ล้าน DKK |
1/12/2546 | 119.4 ล้าน DKK |
1/3/2547 | 120.6 ล้าน DKK |
1/6/2547 | 121.4 ล้าน DKK |
1/9/2547 | 120.7 ล้าน DKK |
1/12/2547 | 120.4 ล้าน DKK |
1/3/2548 | 121.8 ล้าน DKK |
1/6/2548 | 121.8 ล้าน DKK |
1/9/2548 | 122.6 ล้าน DKK |
1/12/2548 | 123.4 ล้าน DKK |
1/3/2549 | 124.8 ล้าน DKK |
1/6/2549 | 125.5 ล้าน DKK |
1/9/2549 | 126 ล้าน DKK |
1/12/2549 | 125.9 ล้าน DKK |
1/3/2550 | 126.7 ล้าน DKK |
1/6/2550 | 126.4 ล้าน DKK |
1/9/2550 | 126.5 ล้าน DKK |
1/12/2550 | 128.7 ล้าน DKK |
1/3/2551 | 128.5 ล้าน DKK |
1/6/2551 | 130.2 ล้าน DKK |
1/9/2551 | 132.4 ล้าน DKK |
1/12/2551 | 133.9 ล้าน DKK |
1/3/2552 | 134.8 ล้าน DKK |
1/6/2552 | 134.4 ล้าน DKK |
1/9/2552 | 135.3 ล้าน DKK |
1/12/2552 | 135.8 ล้าน DKK |
1/3/2553 | 137.4 ล้าน DKK |
1/6/2553 | 137.4 ล้าน DKK |
1/9/2553 | 137.1 ล้าน DKK |
1/12/2553 | 137.3 ล้าน DKK |
1/3/2554 | 135.9 ล้าน DKK |
1/6/2554 | 138.4 ล้าน DKK |
1/9/2554 | 136.4 ล้าน DKK |
1/12/2554 | 135.2 ล้าน DKK |
1/3/2555 | 137.2 ล้าน DKK |
1/6/2555 | 137.4 ล้าน DKK |
1/9/2555 | 136.7 ล้าน DKK |
1/12/2555 | 139.3 ล้าน DKK |
1/3/2556 | 135.5 ล้าน DKK |
1/6/2556 | 136.7 ล้าน DKK |
1/9/2556 | 138.4 ล้าน DKK |
1/12/2556 | 139.8 ล้าน DKK |
1/3/2557 | 140.8 ล้าน DKK |
1/6/2557 | 135.7 ล้าน DKK |
1/9/2557 | 142.1 ล้าน DKK |
1/12/2557 | 142.9 ล้าน DKK |
1/3/2558 | 144 ล้าน DKK |
1/6/2558 | 143.5 ล้าน DKK |
1/9/2558 | 143.2 ล้าน DKK |
1/12/2558 | 142.3 ล้าน DKK |
1/3/2559 | 142.2 ล้าน DKK |
1/6/2559 | 143.7 ล้าน DKK |
1/9/2559 | 144.3 ล้าน DKK |
1/12/2559 | 143.1 ล้าน DKK |
1/3/2560 | 144.2 ล้าน DKK |
1/6/2560 | 144.6 ล้าน DKK |
1/9/2560 | 145 ล้าน DKK |
1/12/2560 | 145.2 ล้าน DKK |
1/3/2561 | 145.3 ล้าน DKK |
1/6/2561 | 145.1 ล้าน DKK |
1/9/2561 | 145.1 ล้าน DKK |
1/12/2561 | 145.7 ล้าน DKK |
1/3/2562 | 146 ล้าน DKK |
1/6/2562 | 146.4 ล้าน DKK |
1/9/2562 | 146.5 ล้าน DKK |
1/12/2562 | 148.1 ล้าน DKK |
1/3/2563 | 145.7 ล้าน DKK |
1/6/2563 | 140.4 ล้าน DKK |
1/9/2563 | 141 ล้าน DKK |
1/12/2563 | 149.1 ล้าน DKK |
1/3/2564 | 146.2 ล้าน DKK |
1/6/2564 | 151.4 ล้าน DKK |
1/9/2564 | 149.4 ล้าน DKK |
1/12/2564 | 157.3 ล้าน DKK |
1/3/2565 | 151.7 ล้าน DKK |
1/6/2565 | 145.5 ล้าน DKK |
1/9/2565 | 145.1 ล้าน DKK |
1/12/2565 | 146.8 ล้าน DKK |
1/3/2566 | 147.2 ล้าน DKK |
1/6/2566 | 149.2 ล้าน DKK |
1/9/2566 | 147.6 ล้าน DKK |
1/12/2566 | 146.3 ล้าน DKK |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 146.3 ล้าน DKK |
1/9/2566 | 147.6 ล้าน DKK |
1/6/2566 | 149.2 ล้าน DKK |
1/3/2566 | 147.2 ล้าน DKK |
1/12/2565 | 146.8 ล้าน DKK |
1/9/2565 | 145.1 ล้าน DKK |
1/6/2565 | 145.5 ล้าน DKK |
1/3/2565 | 151.7 ล้าน DKK |
1/12/2564 | 157.3 ล้าน DKK |
1/9/2564 | 149.4 ล้าน DKK |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇩🇰 การใช้จ่ายทางทหาร | 8.145 ล้านล้าน USD | 5.475 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇩🇰 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 46.8 % of GDP | 44.9 % of GDP | ประจำปี |
🇩🇰 คำขอลี้ภัย | 215 persons | 155 persons | รายเดือน |
🇩🇰 งบประมาณของรัฐ | 3.1 % of GDP | 3.3 % of GDP | ประจำปี |
🇩🇰 ดัชนีการทุจริต | 90 Points | 90 Points | ประจำปี |
🇩🇰 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | 6.655 ล้านล้าน DKK | 25.684 ล้านล้าน DKK | ควอร์เตอร์ |
🇩🇰 รัฐบาลใช้จ่าย | 349.717 ล้านล้าน DKK | 320.395 ล้านล้าน DKK | ควอร์เตอร์ |
🇩🇰 รายได้ของรัฐ | 369.891 ล้านล้าน DKK | 359.643 ล้านล้าน DKK | ควอร์เตอร์ |
🇩🇰 หนี้สาธารณะ | 646.433 ล้านล้าน DKK | 642.371 ล้านล้าน DKK | รายเดือน |
🇩🇰 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 29.3 % of GDP | 29.8 % of GDP | ประจำปี |
🇩🇰 อันดับคอร์รัปชั่น | 1 | 1 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายสาธารณะในสินค้าและบริการและเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับการเก็บภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และการจัดการโครงการสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ