ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇧🇷

บราซิล ดุลการค้า

ราคา

9.04 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.56 ล้านล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+18.89 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน บราซิล คือ 9.04 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน บราซิล เพิ่มขึ้นเป็น 9.04 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 7.48 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/1/2502 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน บราซิล คือ 1.13 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/5/2566 โดยมีมูลค่า 11.03 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2557 โดยมีมูลค่า -4.5 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Ministério do Desenvolvimento, Indústria e Comércio Exterior

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25679.04 ล้านล้าน USD
1/3/25677.48 ล้านล้าน USD
1/2/25675.308 ล้านล้าน USD
1/1/25676.287 ล้านล้าน USD
1/12/25669.323 ล้านล้าน USD
1/11/25668.789 ล้านล้าน USD
1/10/25669.165 ล้านล้าน USD
1/9/25669.213 ล้านล้าน USD
1/8/25669.586 ล้านล้าน USD
1/7/25668.273 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
55

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇧🇷
กระแสเงินทุน
-3.128 ล้านล้าน USD-4.996 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
การขายอาวุธ
54 ล้าน SIPRI TIV8 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇧🇷
การผลิตน้ำมันดิบ
3,194 BBL/D/1K3,356 BBL/D/1Kรายเดือน
🇧🇷
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
6.1 ล้านล้าน USD7.3 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
การโอนเงิน
355.8 ล้าน USD396.8 ล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
เงื่อนไขการซื้อขาย
129 points128 pointsรายเดือน
🇧🇷
ดัชนีการก่อการร้าย
1.988 Points0.599 Pointsประจำปี
🇧🇷
ทองคำสำรอง
129.65 Tonnes129.65 Tonnesควอร์เตอร์
🇧🇷
นำเข้า
23.426 ล้านล้าน USD24.251 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-6.526 ล้านล้าน USD-6.899 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
3.63 ล้าน 746,000 ประจำปี
🇧🇷
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-1.42 % of GDP-2.5 % of GDPประจำปี
🇧🇷
ส่งออก
28.789 ล้านล้าน USD29.079 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇧🇷
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
2.9 % of GDP3.2 % of GDPประจำปี
🇧🇷
หนี้สินต่างประเทศ
741.135 ล้านล้าน USD738.588 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บราซิลมีการรายงานการเกินดุลการค้า ส่วนใหญ่เกิดจากการส่งออกสูงในอุตสาหกรรมการผลิต (54 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกรวมทั้งหมด), การทำเหมือง (23 เปอร์เซ็นต์) และผลิตภัณฑ์เกษตร (22 เปอร์เซ็นต์) การนำเข้าหลักของบราซิลคือในอุตสาหกรรมการผลิต (89 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้ารวมทั้งหมด) โดยเชื้อเพลิงและปุ๋ยประกอบด้วย 18 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้ารวม คู่ค้าการค้าที่ใหญ่ที่สุดคือ: จีน (27 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 22 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า), สหรัฐอเมริกา (11 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 19 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า), อาร์เจนตินา (5 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 5 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) นอกจากนี้ยังมี: เนเธอร์แลนด์, แคนาดา, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, และสเปน

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว