ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ภูฏาน อัตราเงินเฟ้อ
ราคา
ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ภูฏาน คือ 4.99 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน ภูฏาน เพิ่มขึ้นเป็น 4.99 % เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.53 % เมื่อ 1/2/2567. จาก 1/6/2544 ถึง 1/4/2567, GDP เฉลี่ยใน ภูฏาน คือ 5.26 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/6/2555 ที่ 13.53 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/3/2547 ที่ 0 %.
อัตราเงินเฟ้อ ·
แม็กซ์
อัตราเงินเฟ้อ | |
---|---|
1/6/2544 | 3.6 % |
1/12/2544 | 3.2 % |
1/6/2545 | 2.7 % |
1/12/2545 | 2.3 % |
1/6/2546 | 1.8 % |
1/12/2546 | 1.3 % |
1/6/2547 | 4.84 % |
1/9/2547 | 4.55 % |
1/12/2547 | 3.91 % |
1/3/2548 | 5.37 % |
1/6/2548 | 5.46 % |
1/9/2548 | 5.49 % |
1/12/2548 | 4.93 % |
1/3/2549 | 3.13 % |
1/6/2549 | 6.17 % |
1/9/2549 | 5.39 % |
1/12/2549 | 5.3 % |
1/3/2550 | 4.34 % |
1/6/2550 | 5.94 % |
1/9/2550 | 5.54 % |
1/12/2550 | 4.78 % |
1/3/2551 | 6.03 % |
1/6/2551 | 8.85 % |
1/9/2551 | 9.3 % |
1/12/2551 | 9.04 % |
1/3/2552 | 7.21 % |
1/6/2552 | 2.96 % |
1/9/2552 | 3.42 % |
1/12/2552 | 4.05 % |
1/3/2553 | 5.7 % |
1/6/2553 | 6.14 % |
1/9/2553 | 7.15 % |
1/12/2553 | 9.1 % |
1/3/2554 | 9.64 % |
1/6/2554 | 8.33 % |
1/9/2554 | 9.02 % |
1/12/2554 | 8.45 % |
1/3/2555 | 9.46 % |
1/6/2555 | 13.53 % |
1/9/2555 | 11.17 % |
1/12/2555 | 9.54 % |
1/3/2556 | 9.25 % |
1/6/2556 | 5.5 % |
1/9/2556 | 9.05 % |
1/12/2556 | 11.32 % |
1/1/2557 | 10.03 % |
1/2/2557 | 9.44 % |
1/3/2557 | 8.98 % |
1/4/2557 | 8.61 % |
1/5/2557 | 8.98 % |
1/6/2557 | 8.09 % |
1/7/2557 | 8.07 % |
1/8/2557 | 8.77 % |
1/9/2557 | 8.42 % |
1/10/2557 | 7.09 % |
1/11/2557 | 6.68 % |
1/12/2557 | 6.44 % |
1/1/2558 | 6.32 % |
1/2/2558 | 6.37 % |
1/3/2558 | 6.32 % |
1/4/2558 | 5.73 % |
1/5/2558 | 5.06 % |
1/6/2558 | 4.77 % |
1/7/2558 | 3.47 % |
1/8/2558 | 3.12 % |
1/9/2558 | 3.15 % |
1/10/2558 | 3.57 % |
1/11/2558 | 3.6 % |
1/12/2558 | 3.45 % |
1/1/2559 | 3.16 % |
1/2/2559 | 2.98 % |
1/3/2559 | 2.95 % |
1/4/2559 | 3.07 % |
1/5/2559 | 3.3 % |
1/6/2559 | 3.56 % |
1/7/2559 | 2.87 % |
1/8/2559 | 2.85 % |
1/9/2559 | 2.74 % |
1/10/2559 | 2.62 % |
1/11/2559 | 3.92 % |
1/12/2559 | 4.6 % |
1/1/2560 | 5.1 % |
1/2/2560 | 5.64 % |
1/3/2560 | 5.08 % |
1/4/2560 | 5.77 % |
1/5/2560 | 5.65 % |
1/6/2560 | 4.94 % |
1/7/2560 | 5.28 % |
1/8/2560 | 5.34 % |
1/9/2560 | 4.91 % |
1/10/2560 | 4.86 % |
1/11/2560 | 3.71 % |
1/12/2560 | 3.3 % |
1/1/2561 | 2.98 % |
1/2/2561 | 2.61 % |
1/3/2561 | 3.23 % |
1/4/2561 | 2.55 % |
1/5/2561 | 2.62 % |
1/6/2561 | 2.55 % |
1/7/2561 | 2.01 % |
1/8/2561 | 2.13 % |
1/9/2561 | 2.71 % |
1/10/2561 | 3.08 % |
1/11/2561 | 3.09 % |
1/12/2561 | 3.13 % |
1/1/2562 | 3.12 % |
1/2/2562 | 3.01 % |
1/3/2562 | 2.98 % |
1/4/2562 | 3.13 % |
1/5/2562 | 2.72 % |
1/6/2562 | 2.74 % |
1/7/2562 | 3.09 % |
1/8/2562 | 2.79 % |
1/9/2562 | 2.33 % |
1/10/2562 | 2.18 % |
1/11/2562 | 2.34 % |
1/12/2562 | 2.32 % |
1/1/2563 | 2.44 % |
1/2/2563 | 2.46 % |
1/3/2563 | 3.26 % |
1/4/2563 | 4.55 % |
1/5/2563 | 4.17 % |
1/6/2563 | 4.54 % |
1/7/2563 | 7.56 % |
1/8/2563 | 7.44 % |
1/9/2563 | 8.02 % |
1/10/2563 | 7.75 % |
1/11/2563 | 7.52 % |
1/12/2563 | 7.72 % |
1/1/2564 | 8.97 % |
1/2/2564 | 9.54 % |
1/3/2564 | 9.11 % |
1/4/2564 | 8.78 % |
1/5/2564 | 8.69 % |
1/6/2564 | 7.42 % |
1/7/2564 | 5.15 % |
1/8/2564 | 5.3 % |
1/9/2564 | 4.97 % |
1/10/2564 | 6.47 % |
1/11/2564 | 7.26 % |
1/12/2564 | 6.87 % |
1/1/2565 | 6.03 % |
1/2/2565 | 5.32 % |
1/3/2565 | 5.57 % |
1/4/2565 | 5.79 % |
1/5/2565 | 5.95 % |
1/6/2565 | 6.54 % |
1/7/2565 | 6.61 % |
1/8/2565 | 5.6 % |
1/9/2565 | 6.05 % |
1/10/2565 | 4.89 % |
1/11/2565 | 4.59 % |
1/12/2565 | 4.44 % |
1/1/2566 | 4.33 % |
1/2/2566 | 4.27 % |
1/3/2566 | 3.15 % |
1/4/2566 | 3.29 % |
1/5/2566 | 3.4 % |
1/6/2566 | 3.83 % |
1/7/2566 | 4 % |
1/8/2566 | 4.75 % |
1/9/2566 | 5.03 % |
1/10/2566 | 5.07 % |
1/11/2566 | 4.6 % |
1/12/2566 | 4.99 % |
1/1/2567 | 4.32 % |
1/2/2567 | 4.53 % |
1/3/2567 | 4.99 % |
อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 4.99 % |
1/2/2567 | 4.53 % |
1/1/2567 | 4.32 % |
1/12/2566 | 4.99 % |
1/11/2566 | 4.6 % |
1/10/2566 | 5.07 % |
1/9/2566 | 5.03 % |
1/8/2566 | 4.75 % |
1/7/2566 | 4 % |
1/6/2566 | 3.83 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇹 CPI Transport | 126.49 points | 124.8 points | รายเดือน |
🇧🇹 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | -4.37 % | -3.75 % | รายเดือน |
🇧🇹 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 5.53 % | 6.95 % | รายเดือน |
🇧🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 130.33 points | 128.41 points | รายเดือน |
🇧🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 135.24 points | 126.4 points | รายเดือน |
🇧🇹 ต้นทุนการผลิต | 96.2 points | 97.21 points | รายเดือน |
🇧🇹 ราคานำเข้า | 137.39 points | 139.09 points | ควอร์เตอร์ |
🇧🇹 ราคาส่งออก | 114.49 points | 115.49 points | ควอร์เตอร์ |
🇧🇹 ราคาส่งออก YoY | -6.87 % | -4.18 % | ควอร์เตอร์ |
🇧🇹 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 1.5 % | 0.07 % | รายเดือน |
🇧🇹 อัตราเงินเฟ้อจากราคานำเข้า YoY | -2.91 % | -2.99 % | ควอร์เตอร์ |
ในภูฏาน หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภค ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (43 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) และการขนส่ง (16 เปอร์เซ็นต์) ดัชนียังรวมถึง: ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (12 เปอร์เซ็นต์); เสื้อผ้าและรองเท้า (9 เปอร์เซ็นต์); เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ในครัวเรือนและการบำรุงรักษา (4 เปอร์เซ็นต์); ร้านอาหารและโรงแรม (4 เปอร์เซ็นต์); การสื่อสาร (3 เปอร์เซ็นต์); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบ (3 เปอร์เซ็นต์); การพักผ่อนและวัฒนธรรม (2 เปอร์เซ็นต์); การศึกษา, สุขภาพและสินค้าบริการเบ็ดเตล็ด รวมเป็นน้ำหนักทั้งหมด 4 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ