ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇧🇪

เบลเยียม ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

ราคา

8.83 TWh
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0 TWh
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0 %

ค่าปัจจุบันของความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติใน เบลเยียม คือ 8.83 TWh ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติใน เบลเยียม ลดลงเป็น 8.83 TWh เมื่อ 1/10/2567 หลังจากที่เป็น 8.83 TWh เมื่อ 1/9/2567 ตั้งแต่ 1/1/2554 จนถึง 29/10/2567 ค่าจีดีพีเฉลี่ยใน เบลเยียม คือ 8.75 TWh ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกไว้เมื่อ 11/8/2566 ด้วย 9.13 TWh ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 3/1/2554 ด้วย 6.7 TWh

แหล่งที่มา: Gas Infrastructure Europe

ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

  • แม็กซ์

ความจุสำรองแก๊สธรรมชาติ

ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/10/25678.83 TWh
1/9/25678.83 TWh
1/8/25678.83 TWh
1/7/25678.83 TWh
1/6/25678.83 TWh
1/5/25678.83 TWh
1/4/25678.83 TWh
1/3/25678.83 TWh
1/2/25678.83 TWh
1/1/25678.83 TWh
1
2
3
4
5
...
17

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่สำคัญซึ่งมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้าและการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติยังเป็นทรัพยากรที่มีการซื้อขายในตลาดหุ้น และการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Stocks) เป็นหนึ่งในวิธีที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ในบริบทของเศรษฐมิติหุ้นที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติ ความจุของก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Stocks Capacity) เป็นตัวแปรที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยที่สามารถบ่งบอกถึงศักยภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และกำไรของบริษัทนั้นๆ รวมถึงราคาหุ้นด้วย การลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายประการรวมถึงความจุของก๊าซธรรมชาติ นั่นคือปริมาณก๊าซธรรมชาติที่บริษัทสามารถผลิตและจัดเก็บได้ ความจุนี้มีผลต่อความสามารถของบริษัทในการตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งในบางครั้งความต้องการอาจจะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อความจุของก๊าซธรรมชาติได้แก่ คุณภาพและปริมาณของแหล่งก๊าซธรรมชาติ ความสามารถในการขนส่ง การจัดเก็บ และเทคโนโลยีที่บริษัทนั้นใช้ การศึกษาความจุของก๊าซธรรมชาติยังครอบคลุมถึงการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและการผลิตก๊าซธรรมชาติ เช่น การสำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่ๆ (Exploration), การฟื้นฟูและการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติเดิม (Development), และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Enhanced Recovery Techniques) ปัจจัยเหล่านี้อาจช่วยเพิ่มความจุของก๊าซธรรมชาติได้ อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความจุก๊าซธรรมชาติคือการจัดเก็บก๊าซธรรมชาติ (Storage) การจัดเก็บเป็นส่วนสำคัญของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานต่อเนื่อง ดังนั้นการมีความจุก๊าซธรรมชาติในระดับสูง หมายถึงบริษัทมีความสามารถในการจัดเก็บก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่มากพอรองรับความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น การขนส่งก๊าซธรรมชาติก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความจุก๊าซธรรมชาติ การขนส่งก๊าซธรรมชาติสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งทางท่อก๊าซ (Pipeline), ทางเรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas - LNG), และการใช้รถบรรทุกก๊าซ (Compressed Natural Gas - CNG) การมีโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งที่ดีสามารถเพิ่มความจุก๊าซธรรมชาติของบริษัทได้อย่างมากและยังช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนทรัพยากรในช่วงวิกฤต เทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิตและขนส่งก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญอย่างมาก เมื่อบริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถเพิ่มความจุก๊าซธรรมชาติได้และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและขนส่ง ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีในสาขาการเจาะสำรวจนอกชายฝั่ง (Offshore Drilling) และการฟื้นฟูแหล่งก๊าซธรรมชาติ การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับความจุก๊าซธรรมชาติควรครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ทางการเงิน เช่น รายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติ ต้นทุนการผลิต และการบริหารจัดการทรัพยากร ปัจจัยเหล่านี้สามารถประเมินความสามารถของบริษัทในการทำกำไร ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อความจุก๊าซธรรมชาติ เช่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ รวมถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งสามารถส่งผลให้ความจุของก๊าซธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังควรพิจารณาถึงแนวโน้มและภาวะตลาดในอนาคต ปัจจัยต่างๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของความต้องการพลังงาน การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม สามารถส่งผลกระทบต่อความจุของก๊าซธรรมชาติในระยะยาว การพยากรณ์แนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการตัดสินใจที่มีข้อมูลประกอบ และเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนได้ สรุปแล้ว การลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการรวมถึงความจุของก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นตัวแปรที่มีความสำคัญมาก และยังต้องวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความจุนี้เช่น การจัดเก็บ การขนส่ง การใช้เทคโนโลยี และปัจจัยภายนอก การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เพียงพอจะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการตัดสินใจที่มีความมั่นใจและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ ด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมและการวิเคราะห์เชิงลึกที่ eulerpool เรามุ่งหวังที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้แก่นักลงทุนที่สนใจในตลาดหุ้นก๊าซธรรมชาติ ผ่านการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐมิติและการวิเคราะห์ที่เป็นประโยชน์ในการสนับสนุนการตัดสินใจลงทุน