ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇦🇿

อาเซอร์ไบจาน ดุลการค้า

ราคา

2.488 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-280.752 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-10.68 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อาเซอร์ไบจาน คือ 2.488 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน อาเซอร์ไบจาน ลดลงไปที่ 2.488 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 2.768 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2541 ถึง 1/12/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อาเซอร์ไบจาน คือ 2.47 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2551 ด้วยค่า 8.2 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2541 ด้วยค่า -306.55 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Central Bank of the Republic of Azerbaijan

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25662.488 ล้านล้าน USD
1/6/25662.768 ล้านล้าน USD
1/3/25664.721 ล้านล้าน USD
1/12/25656.181 ล้านล้าน USD
1/9/25658.156 ล้านล้าน USD
1/6/25657.575 ล้านล้าน USD
1/3/25655.447 ล้านล้าน USD
1/12/25644.867 ล้านล้าน USD
1/9/25642.887 ล้านล้าน USD
1/6/25641.97 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
10

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇦🇿
กระแสเงินทุน
4.682 ล้านล้าน USD108.2 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
การผลิตน้ำมันดิบ
595 BBL/D/1K595 BBL/D/1Kรายเดือน
🇦🇿
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
2.286 ล้านล้าน USD1.393 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
การโอนเงิน
225.7 ล้าน USD243 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇦🇿
ทองคำสำรอง
0 Tonnes0 Tonnesควอร์เตอร์
🇦🇿
นำเข้า
4.547 ล้านล้าน USD4.182 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
1.655 ล้านล้าน USD1.519 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
9,493 1,848 ประจำปี
🇦🇿
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
16.3 % of GDP30.5 % of GDPประจำปี
🇦🇿
ส่งออก
7.376 ล้านล้าน USD6.669 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇦🇿
หนี้สินต่างประเทศ
15.277 ล้านล้าน USD15.648 ล้านล้าน USDประจำปี

น้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็นประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดของอาเซอร์ไบจาน ด้วยเหตุนี้ ประเทศจึงมักจะมีดุลการค้าเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางการค้าของอาเซอร์ไบจานได้เปลี่ยนจากรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป คู่ค้าที่สำคัญที่สุดของอาเซอร์ไบจานคือ อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ตุรกี อิสราเอล ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย รัสเซีย เยอรมนี และอินเดีย

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว