ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อาเซอร์ไบจาน ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อาเซอร์ไบจาน คือ 2.488 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน อาเซอร์ไบจาน ลดลงไปที่ 2.488 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 2.768 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2541 ถึง 1/12/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อาเซอร์ไบจาน คือ 2.47 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2551 ด้วยค่า 8.2 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2541 ด้วยค่า -306.55 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/12/2542 | 84.26 ล้าน USD |
1/3/2543 | 8.98 ล้าน USD |
1/6/2543 | 158.71 ล้าน USD |
1/9/2543 | 266.27 ล้าน USD |
1/3/2544 | 209.88 ล้าน USD |
1/6/2544 | 197.92 ล้าน USD |
1/9/2544 | 126.09 ล้าน USD |
1/12/2544 | 79.98 ล้าน USD |
1/3/2545 | 61.63 ล้าน USD |
1/6/2545 | 84.24 ล้าน USD |
1/9/2545 | 164.3 ล้าน USD |
1/12/2545 | 171.38 ล้าน USD |
1/3/2546 | 188.28 ล้าน USD |
1/6/2546 | 3.5 ล้าน USD |
1/3/2547 | 20.14 ล้าน USD |
1/6/2547 | 105.89 ล้าน USD |
1/12/2547 | 128.65 ล้าน USD |
1/3/2548 | 7.22 ล้าน USD |
1/6/2548 | 687.77 ล้าน USD |
1/9/2548 | 989.36 ล้าน USD |
1/12/2548 | 1.61 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 1.69 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 2.19 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 2.37 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 2.85 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 3.8 ล้านล้าน USD |
1/9/2550 | 3.51 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 5.07 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 5.82 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 8.2 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 6.73 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 2.26 ล้านล้าน USD |
1/3/2552 | 2.11 ล้านล้าน USD |
1/6/2552 | 3.8 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 4.15 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 4.51 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 5.04 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 5.2 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 5.18 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 4.31 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 6.55 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 7.12 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 5.93 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 4.72 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 6.82 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 5.59 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 5.1 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 4.71 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 6.04 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 4.7 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 5.22 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 5.43 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 5.54 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 5.58 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 5.08 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 2.72 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 1.76 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 2 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 1.54 ล้านล้าน USD |
1/12/2558 | 509.85 ล้าน USD |
1/3/2559 | 621.71 ล้าน USD |
1/6/2559 | 1.31 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 981.35 ล้าน USD |
1/12/2559 | 1.29 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 1.89 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 922.54 ล้าน USD |
1/12/2560 | 1.71 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 2.41 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 2.61 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 2.32 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 2.51 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 2.49 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 348.85 ล้าน USD |
1/9/2562 | 2.01 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 1.64 ล้านล้าน USD |
1/3/2563 | 1.87 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 414.03 ล้าน USD |
1/9/2563 | 56.54 ล้าน USD |
1/12/2563 | 167.96 ล้าน USD |
1/3/2564 | 1.55 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.97 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 2.89 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 4.87 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 5.45 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 7.58 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 8.16 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 6.18 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 4.72 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 2.77 ล้านล้าน USD |
1/9/2566 | 2.49 ล้านล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 2.488 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 2.768 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 4.721 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 6.181 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 8.156 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 7.575 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 5.447 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 4.867 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 2.887 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.97 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇦🇿 กระแสเงินทุน | 4.682 ล้านล้าน USD | 108.2 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 การผลิตน้ำมันดิบ | 595 BBL/D/1K | 595 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇦🇿 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 2.286 ล้านล้าน USD | 1.393 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 การโอนเงิน | 225.7 ล้าน USD | 243 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇦🇿 ทองคำสำรอง | 0 Tonnes | 0 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 นำเข้า | 4.547 ล้านล้าน USD | 4.182 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 1.655 ล้านล้าน USD | 1.519 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 9,493 | 1,848 | ประจำปี |
🇦🇿 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 16.3 % of GDP | 30.5 % of GDP | ประจำปี |
🇦🇿 ส่งออก | 7.376 ล้านล้าน USD | 6.669 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇦🇿 หนี้สินต่างประเทศ | 15.277 ล้านล้าน USD | 15.648 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
น้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็นประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดของอาเซอร์ไบจาน ด้วยเหตุนี้ ประเทศจึงมักจะมีดุลการค้าเกินดุลอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทางการค้าของอาเซอร์ไบจานได้เปลี่ยนจากรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป คู่ค้าที่สำคัญที่สุดของอาเซอร์ไบจานคือ อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ตุรกี อิสราเอล ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย รัสเซีย เยอรมนี และอินเดีย
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว