Tesla ประกาศลงทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ หลังจากหนึ่งสัปดาห์ที่ทีมส่วนใหญ่ที่รับผิดชอบการสร้างเครือข่ายขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ถูกปลดออก ซีอีโอ Elon Musk ได้เปิดเผยผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ของเขาเมื่อวันศุกร์ Musk ย้ำว่าเงินจำนวนนี้จะใช้สำหรับสถานที่ใหม่และการขยายเท่านั้น โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานที่สูงกว่ามาก.
การปลดพนักงานในทีม Supercharger ของ Tesla สร้างความวิตกกังวลว่าบริษัทอาจจะลดการมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายการชาร์จไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างในสหรัฐอเมริกา Tesla ได้เริ่มต้นเครือข่ายนี้ขึ้นมาตั้งแต่กว่าทศวรรษที่แล้ว และปัจจุบันได้มีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายพันแห่งทั่วประเทศ
เทสลาเปิดเครือข่ายของตนให้รถยนต์จากแบรนด์อื่นๆ สามารถใช้งานได้มากขึ้น และได้รับเงินทุนสาธารณะเพื่อการก่อสร้างสถานีชาร์จเพิ่มเติม ซึ่งสนับสนุนแผนการของบริหารงานของไบเดนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จระดับชาติ
ในการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง มัสก์ได้แจ้งว่า แม้ว่าเทสลาจะยังคงทำงานเพื่อขยายเครือข่ายการชาร์จอยู่ แต่จะลดความเร็วในการเพิ่มสถานที่ใหม่ๆ ลง และมุ่งเน้นไปที่การขยายสถานที่ที่มีอยู่เดิมมากขึ้น
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางเทสลาได้รายงานถึงผลกำไรที่ลดลงในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2021 ในเอกสารในขณะนั้น บริษัทระบุว่า นอกจากการลงทุนในระบบขับขี่อัตโนมัติ บริษัทยังลงทุนในเทคโนโลยี AI อื่นๆ นวัตกรรมเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ และผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งการขยายเครือข่ายการชาร์จของตนเอง สำหรับปีนี้มีการวางแผนการใช้เงินทุนประมาณ 10 พันล้านดอลลาร์ ตามด้วยการลงทุนประจำปีระหว่าง 8 ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในสองปีถัดไป.
