FedEx ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกในภาคธุรกิจของตน กำลังพิจารณาที่จะตั้งแผนก Freight เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แยกต่างหาก มาตรการนี้อาจทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลกำไรมหาศาล และในขณะเดียวกันก็เสริมสร้างการแข่งขันในกลุ่ม LTL (Less-Than-Truckload) ของบริษัท

แผนก FedEx Freight มีรายได้ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 12 เดือนจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม และเป็นผู้ดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดในส่วน LTL. “เราคิดว่าการขายธุรกิจมีโอกาสน้อย,” แดเนียล อิมโบร จากบริษัทบริการทางการเงิน Stephens เขียนในบันทึกการวิจัยเมื่อวันพุธ.

ซาติช จินเดล ประธาน SJ Consulting ประเมินว่าการแยกสายงานนี้อาจมีมูลค่าตลาดถึง 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอิงจากผลงานที่แข็งแกร่งของคู่แข่งของ FedEx ในธุรกิจ LTL “LTL ตอนนี้เป็นที่ชื่นชอบของวอลล์สตรีท” เขากล่าว

ในการเผยแพร่ผลการดำเนินการเมื่อวันอังคาร FedEx กล่าวว่าบริษัทกำลัง "ประเมินบทบาทของ FedEx Freight ในโครงสร้างของพอร์ตโฟลิโอของบริษัท และกำลังพิจารณาก้าวที่อาจช่วยส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนของมูลค่าผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม" บริษัทมีแผนที่จะเสร็จสิ้นการทบทวนนี้ภายในสิ้นปีนี้

การตรวจสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง "Drive" ของ FedEx ที่มีเป้าหมายเพื่อขจัดอุปสรรคระหว่างการดำเนินงานทางด่วนและภาคพื้นดิน แผนนี้อาจนำไปสู่การแยกธุรกิจรถบรรทุกออกไป ในขณะที่การบริการรับและส่งสินค้า การจัดเรียง และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับพัสดุจะถูกรวมเข้าด้วยกัน

การแยกตัวที่อาจเกิดขึ้นจะยุติความพยายามของ FedEx และคู่แข่ง United Parcel Service ในการรวมธุรกิจพัสดุและการดำเนินงานรถบรรทุกไว้ภายใต้หลังคาเดียวกัน UPS ขายธุรกิจรถบรรทุกของตนในปี 2021 และแยกส่วนบริการขนส่งในเดือนนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนของ CEO Carol Tomé ที่จะมุ่งเน้นการจัดการพัสดุอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของคู่แข่งในธุรกิจ LTL ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากแม้จะมีภาวะถดถอยในความต้องการขนส่งทางรถบรรทุกที่กว้างขึ้น Old Dominion Freight Line ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ LTL รายใหญ่อันดับสองตามรายได้ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 38.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมาจากรายได้ 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

XPO ผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับสาม มีมูลค่าตลาด 12.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้ LTL น้อยกว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ขณะที่ Saia มีมูลค่าตลาด 12.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายได้ประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว

FedEx มีมูลค่าตลาดสูงถึง 72.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรายได้รวม 87.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายขนส่งทำรายได้ในช่วงเวลานี้ได้ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำกำไรได้สูงถึง 21.9% ในไตรมาสที่ผ่านมา

ไบรอัน พี. ออสเซนเบค นักวิเคราะห์จาก J.P. Morgan Securities เขียนในหมายเหตุการวิจัยว่า มี“ความแตกต่างด้านมูลค่า” เนื่องจากการรวม FedEx Freight เข้ากับการดำเนินการพัสดุ "ในช่วงหนึ่งของเดือนกันยายน 2022 มูลค่าตามราคาตลาดของ ODFL อยู่ที่ 75% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดของ FDX" เขาเขียน

การแยกตัวของ FedEx Freight จะทำให้ภาคส่วนอื่นแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน เขาเขียนต่อไปว่า "เพราะความเป็นหน่วยงานอิสระที่ใหญ่ที่สุด โดยไม่ต้องมีปัญหาการข้ามกันส่งระหว่าง Express และ Ground ทำให้สามารถตั้งอัตราค่าบริการได้สูงขึ้นกว่าปัจจุบัน

หุ้นของ FedEx เพิ่มขึ้น 15.5% สู่ 296.19 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละที่ใหญ่ที่สุดของหุ้นบริษัทนับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 1986