Amazon.com Inc. วางแผนลงทุนในศูนย์ข้อมูลเกือบ 150 พันล้านดอลลาร์ใน 15 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสำหรับแอปพลิเคชั่น AI และบริการดิจิทัลอื่นๆ การเคลื่อนไหวนี้เป็นสัญญาณของความแข็งแกร่ง ในขณะที่บริษัทพยายามรักษาอำนาจการควบคุมในตลาดบริการคลาวด์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าสองเท่าของ Microsoft Corp. ที่ตามมา
การลงทุนในฟาร์มเซิร์ฟเวอร์ของอเมซอนที่วางแผนไว้เกินกว่าความมุ่งมั่นของสาธารณะจากไมโครซอฟท์และ Alphabet Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลมาก แม้ว่าไม่มีบริษัทใดเปิดเผยการใช้จ่ายสำหรับศูนย์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเหมือนอเมซอน โฆษกจากไมโครซอฟท์และกูเกิลปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขที่สามารถเปรียบเทียบได้
ท่ามกลางการลดต้นทุนทั่วไปของ Amazon การลงทุนทางด้านเงินทุนของ AWS สำหรับศูนย์ข้อมูลในปี 2566 ได้ลดลงเป็นครั้งแรก 2% แม้ในขณะที่ Microsoft เพิ่มการลงทุนของตัวเองมากกว่า 50% อย่างไรก็ตาม ในเดือนที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Amazon ได้กล่าวว่า การลงทุนทางด้านเงินทุนในปีนี้จะเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ AWS รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI
Amazon มีแผนขยายฮับฟาร์มเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ในนอร์ทเวอร์จิเนียและโอเรกอน และขยายไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เช่น มิสซิสซิปปี้, ซาอุดีอาราเบีย และมาเลเซีย ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Amazon ได้มุ่งมั่นที่จะลงทุน 148 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการสร้างและดำเนินการศูนย์ข้อมูลทั่วโลก
การขยายศูนย์ข้อมูลไม่เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบริการทางธุรกิจ เช่น การจัดเก็บไฟล์และฐานข้อมูลเท่านั้น แต่ยังจะมอบประสิทธิภาพการประมวลผลระดับมหาศาลที่จำเป็นสำหรับการระเบิดของความคาดหวังในด้านปัญญาประดิษฐ์แบบ generative
แผนการลงทุนของอเมซอน หลายหมื่นล้านดอลลาร์ในรัฐเวอร์จิเนียและโอเรกอน แต่การหาไฟฟ้าสำหรับการจ่ายพลังงานกลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากขึ้น ศูนย์ข้อมูลต้องการพลังงานจำนวนมาก และการเติบโตอย่างรวดเร็วของพวกมันกำลังกดดันบริษัทจัดหาพลังงาน.
เนื่องจากต้องเผชิญกับความต้านทานจากศูนย์ข้อมูล, อเมซอนจึงมุ่งเน้นไปที่การก่อสร้างสถานที่ใหม่ๆ ในส่วนอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา และทำงานร่วมกับบริษัทสาธารณูปโภคเพื่อ "ตอบสนองความต้องการพลังงานของเราด้วยพลังงานหมุนเวียนที่ปราศจากคาร์บอนไดออกไซด์"
อเมซอนมุ่งมั่นที่จะดำเนินการบริษัททั้งหมดด้วยไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2025 แต่โครงการเหล่านี้อาจอยู่ห่างไกลจากศูนย์ข้อมูลของพวกเขา ซึ่งเป็นความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและความต้องการที่สร้างปัญหาให้กับระบบไฟฟ้าที่แตกแยกและล้าสมัยของสหรัฐอเมริกา
