ความเป็นอิสระของเฟด" เป็นประเด็นสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งของสหรัฐฯ

ในการแถลงการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ Bridgewater Associates ได้กล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) โดยประเด็นนี้ถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ สำหรับนักลงทุนทั่วโลก ความสำคัญอันดับแรกคือการรักษาความเป็นอิสระของธนาคารกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลที่อาจรบกวนต่อนโยบายการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่ออัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ภายใต้การนำของนักลงทุนชื่อดัง Ray Dalio, Bridgewater กำลังติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคอย่างจริงจัง เพื่อวางเดิมพันที่แม่นยำเกี่ยวกับหุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินต่างๆ Greg Jensen, Co-Chief Investment Officer, ชี้แจงถึงความสำคัญเชิงโครงสร้างของความเป็นอิสระของธนาคารกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อความยืดหยุ่นของนักการเมืองในอนาคต ผู้สมัครพรรครีพับลิกัน Donald Trump ได้บ่งบอกบางครั้งว่าเขาต้องการมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายของธนาคารกลาง แต่ล่าสุดได้กล่าวว่าเขามีสิทธิที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในฐานะประธานาธิบดี แต่ไม่มีแผนจะทำเช่นนั้น ในทางตรงกันข้าม ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต Kamala Harris ได้ให้คำมั่นว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของธนาคารกลางในกรณีที่ชนะการเลือกตั้ง แม้ว่าข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นจะแสดงให้เห็นว่า Harris มีคะแนนนำเล็กน้อยเหนือ Trump แต่ Bridgewater ไม่ได้กำหนดจุดยืนชัดเจนในช่วงหาเสียง Jensen เน้นว่าทั้งสองสถานการณ์อาจนำไปสู่ความแตกต่างทางการเมืองที่มีนัยสำคัญ รวมถึงประเด็นเรื่องการอพยพ ภาษีศุลกากร ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการกำกับดูแล หนึ่งในความเสี่ยงที่เร่งด่วนที่สุดสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามที่ Jensen ได้กล่าวไว้คือการเลือกตั้งและการประเมินมูลค่าทางการเงินอย่างพันธบัตรและหุ้น ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาดในด้านนี้อาจส่งผลร้ายแรงได้ ในเวลาเดียวกัน เฮดจ์ฟันด์อื่นๆ ก็เริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการคาดการณ์ของพวกเขามากขึ้น เช่น Daniel Loeb ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์จาก Third Point ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากกิจกรรมของบริษัทที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง โดยเขามองเห็นโอกาสในการที่ Trump จะชนะมากกว่า