ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇳

อินเดีย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ราคา

60.7 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0 %

ค่าปัจจุบันของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ใน อินเดีย คือ 60.7 คะแนน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ใน อินเดีย ลดลงเป็น 60.7 คะแนน เมื่อ 1/8/2567 หลังจากที่เคยเป็น 60.7 คะแนน เมื่อ 1/7/2567 ตั้งแต่ 1/12/2556 ถึง 1/9/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อินเดีย คือ 53.05 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกถึงเมื่อ 1/7/2566 ด้วย 61.9 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/4/2563 ด้วย 7.2 คะแนน

แหล่งที่มา: S&P Global

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

  • แม็กซ์

Composite PMI

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/8/256760.7 คะแนน
1/7/256760.7 คะแนน
1/6/256760.9 คะแนน
1/5/256760.5 คะแนน
1/4/256761.5 คะแนน
1/3/256761.8 คะแนน
1/2/256760.6 คะแนน
1/1/256761.2 คะแนน
1/12/256658.5 คะแนน
1/11/256657.4 คะแนน
1
2
3
4
5
...
13

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇳
การจดทะเบียนรถยนต์
160,306 Units168,912 Unitsรายเดือน
🇮🇳
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ
544.48 ล้านล้าน INR461.83 ล้านล้าน INRควอร์เตอร์
🇮🇳
การผลิตในภาคการผลิต
4.6 %2.6 %รายเดือน
🇮🇳
การผลิตไฟฟ้า
134,935.87 Gigawatt-hour139,791.55 Gigawatt-hourรายเดือน
🇮🇳
การผลิตรถยนต์
151,538 Units171,437 Unitsรายเดือน
🇮🇳
การผลิตเหมืองแร่
6.56 %6.69 %รายเดือน
🇮🇳
การผลิตเหล็ก
12.3 ล้าน Tonnes12.3 ล้าน Tonnesรายเดือน
🇮🇳
การผลิตอุตสาหกรรม
5 %4.9 %รายเดือน
🇮🇳
การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน
-2.97 %4.67 %รายเดือน
🇮🇳
ตัวชี้วัดเชิง복합แสดงสัญญาณล่วงหน้า
100.308 points100.178 pointsรายเดือน
🇮🇳
บริการ PMI
57.7 points60.9 pointsรายเดือน
🇮🇳
ผลิตภัณฑ์ PMI
56.5 points57.5 pointsรายเดือน
🇮🇳
ยอดขายรถยนต์รวม
315,689 Units308,779 Unitsรายเดือน
🇮🇳
สภาวะธุรกิจ
130.3 points135.4 pointsควอร์เตอร์
🇮🇳
อัตราการใช้กำลังการผลิต
75.8 %74 %ควอร์เตอร์
🇮🇳
อัตราการเติบโตของเงินฝาก
11.8 %11.5 %frequency_biweekly

ในอินเดีย Nikkei India Composite Output Index เป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่าง Manufacturing Output Index และ Services Business Activity Index ซึ่งใช้ติดตามแนวโน้มทางธุรกิจในภาคเอกชน โดยอิงจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากตัวแทนของบริษัทประมาณ 800 แห่ง ดัชนีนี้ติดตามตัวแปรต่าง ๆ เช่น ยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ การจ้างงาน สต็อกสินค้า และราคา หากดัชนีมีค่าเหนือ 50 จะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมธุรกิจ และหากต่ำกว่า 50 จะบ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจโดยทั่วไปกำลังลดลง

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ที่ Eulerpool เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้สำหรับการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและเป็นปัจจุบัน ในหมวดหมู่การวัดดัชนีเศรษฐกิจมหภาคหนึ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ 'Composite PMI' หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่นำมาใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม (Composite PMI) คืออะไร? ดัชนี PMI เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนามาเพื่อประเมินสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและเป็นตัวชี้วัดระดับการเติบโตหรือหยุดชะงักของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำการสำรวจผ่านการถามคำถามของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อ การผลิต สต๊อกสินค้า การจ้างงาน และราคาสินค้า และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาคำนวณเป็นดัชนี PMI Composite PMI นั้นจะรวมข้อมูลทั้งจากภาคการผลิตและภาคบริการ ซึ่งทำให้ดัชนีนี้มีความครอบคลุมในการประเมินสภาพเศรษฐกิจแบบครบองค์รวม ภาคการบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งในเศรษฐกิจสมัยใหม่ และการรวมข้อมูลจากทั้งสองภาคสาขาทำให้ได้รับภาพรวมที่แม่นยำและแพร่หลายมากขึ้น ทำไม Composite PMI ถึงสำคัญ? Composite PMI มีบทบาทสำคัญในการทำให้เราเข้าใจและประเมินสภาพเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เนื่องจากดัชนีนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภค การจ้างงาน และการลงทุน ถ้าดัชนี Composite PMI สูงกว่า 50 แสดงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว ในขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ ผลลัพธ์ของ Composite PMI จะนำเสนอได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้ผู้วางแผนในบริษัท นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้บริหารองค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานได้ทันที การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Composite PMI ทั้งในช่วงเวลาสั้นและเวลา่ยาวจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตได้ เมื่อเราพูดถึงการวางแผนและการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจ การมีข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง Composite PMI จึงให้ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเศรษฐกิจมหาภาค ทั้งนี้เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมีข้อมูลภายในที่สามารถสรุปภาพรวมได้อย่างชัดเจน การเปรียบเทียบ Composite PMI ระหว่างประเทศหรือภูมิภาคแตกต่างกันยังเป็นการให้มุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการค้าโลกและการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาคสามารถนำข้อมูล Composite PMI ไปใช้ในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ, เปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขัน, และดูการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว การให้ความสำคัญกับข้อมูล Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการทำการวิเคราะห์การลงทุนเชิงลึก ทั้งในแง่ของการวิเคราะห์เศรษฐกิจระดับมหภาคและการตรวจสอบสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้กับข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และดัชนีการค้าสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ครบถ้วนและทำให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้าใจในดัชนี Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตสามารถทำให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในระดับรัฐบาลหรือธนาคารกลางสร้างนโยบายที่เหมาะสมและทันเวลา โดยสรุป ดัชนี Composite PMI เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของการเติบโตในระยะสั้นหรือยาว รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและการลงทุน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่านี้ให้แก่ผู้ใช้งานทุกท่าน เพื่อให้ได้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและความมั่นใจในทุกสถานการณ์