ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร แคนาดา หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่าสภาพปัจจุบันของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน แคนาดา คือ 101.56 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน แคนาดา ลดลงเป็น 101.56 % of GDP เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น 102.24 % of GDP ใน 1/12/2566 ตั้งแต่ 1/3/2533 ถึง 1/6/2567 ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยใน แคนาดา อยู่ที่ 80.86 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลถึงในวันที่ 1/12/2563 กับ 112.61 % of GDP ในขณะที่ค่าสภาพต่ำสุดถูกบันทึกใน 1/3/2533 ด้วย 54.02 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/3/2533 | 54.02 % of GDP |
1/6/2533 | 55.01 % of GDP |
1/9/2533 | 55.59 % of GDP |
1/12/2533 | 56.23 % of GDP |
1/3/2534 | 56.45 % of GDP |
1/6/2534 | 57.77 % of GDP |
1/9/2534 | 58.63 % of GDP |
1/12/2534 | 58.67 % of GDP |
1/3/2535 | 58.43 % of GDP |
1/6/2535 | 59.21 % of GDP |
1/9/2535 | 59.65 % of GDP |
1/12/2535 | 60.13 % of GDP |
1/3/2536 | 59.79 % of GDP |
1/6/2536 | 60.74 % of GDP |
1/9/2536 | 60.94 % of GDP |
1/12/2536 | 60.81 % of GDP |
1/3/2537 | 60.47 % of GDP |
1/6/2537 | 60.35 % of GDP |
1/9/2537 | 60.3 % of GDP |
1/12/2537 | 60.27 % of GDP |
1/3/2538 | 59.63 % of GDP |
1/6/2538 | 59.54 % of GDP |
1/9/2538 | 59.97 % of GDP |
1/12/2538 | 59.98 % of GDP |
1/3/2539 | 59.9 % of GDP |
1/6/2539 | 60.64 % of GDP |
1/9/2539 | 60.79 % of GDP |
1/12/2539 | 60.96 % of GDP |
1/3/2540 | 61.11 % of GDP |
1/6/2540 | 61.12 % of GDP |
1/9/2540 | 61.67 % of GDP |
1/12/2540 | 61.82 % of GDP |
1/3/2541 | 62.51 % of GDP |
1/6/2541 | 62.87 % of GDP |
1/9/2541 | 63.82 % of GDP |
1/12/2541 | 64.08 % of GDP |
1/3/2542 | 63.97 % of GDP |
1/6/2542 | 64.21 % of GDP |
1/9/2542 | 63.78 % of GDP |
1/12/2542 | 63.39 % of GDP |
1/3/2543 | 62.94 % of GDP |
1/6/2543 | 62.34 % of GDP |
1/9/2543 | 62.12 % of GDP |
1/12/2543 | 61.58 % of GDP |
1/3/2544 | 60.82 % of GDP |
1/6/2544 | 61.24 % of GDP |
1/9/2544 | 62.32 % of GDP |
1/12/2544 | 63.29 % of GDP |
1/3/2545 | 63.86 % of GDP |
1/6/2545 | 64.97 % of GDP |
1/9/2545 | 65.48 % of GDP |
1/12/2545 | 65.52 % of GDP |
1/3/2546 | 64.75 % of GDP |
1/6/2546 | 65.56 % of GDP |
1/9/2546 | 66.62 % of GDP |
1/12/2546 | 67.35 % of GDP |
1/3/2547 | 67.6 % of GDP |
1/6/2547 | 68.58 % of GDP |
1/9/2547 | 69.19 % of GDP |
1/12/2547 | 69.71 % of GDP |
1/3/2548 | 70.05 % of GDP |
1/6/2548 | 71.08 % of GDP |
1/9/2548 | 72.11 % of GDP |
1/12/2548 | 72.54 % of GDP |
1/3/2549 | 72.65 % of GDP |
1/6/2549 | 73.47 % of GDP |
1/9/2549 | 74.78 % of GDP |
1/12/2549 | 76.05 % of GDP |
1/3/2550 | 76.85 % of GDP |
1/6/2550 | 78.78 % of GDP |
1/9/2550 | 80.02 % of GDP |
1/12/2550 | 80.98 % of GDP |
1/3/2551 | 81.34 % of GDP |
1/6/2551 | 82.74 % of GDP |
1/9/2551 | 83.18 % of GDP |
1/12/2551 | 83.94 % of GDP |
1/3/2552 | 85.53 % of GDP |
1/6/2552 | 89.27 % of GDP |
1/9/2552 | 93.17 % of GDP |
1/12/2552 | 95.44 % of GDP |
1/3/2553 | 95.04 % of GDP |
1/6/2553 | 95.78 % of GDP |
1/9/2553 | 95.79 % of GDP |
1/12/2553 | 95.47 % of GDP |
1/3/2554 | 94.77 % of GDP |
1/6/2554 | 95.31 % of GDP |
1/9/2554 | 95.2 % of GDP |
1/12/2554 | 94.63 % of GDP |
1/3/2555 | 94.22 % of GDP |
1/6/2555 | 94.94 % of GDP |
1/9/2555 | 95.59 % of GDP |
1/12/2555 | 95.8 % of GDP |
1/3/2556 | 95.62 % of GDP |
1/6/2556 | 96.27 % of GDP |
1/9/2556 | 96.29 % of GDP |
1/12/2556 | 95.93 % of GDP |
1/3/2557 | 95.14 % of GDP |
1/6/2557 | 95.15 % of GDP |
1/9/2557 | 95.59 % of GDP |
1/12/2557 | 95.66 % of GDP |
1/3/2558 | 96.04 % of GDP |
1/6/2558 | 97.92 % of GDP |
1/9/2558 | 99.77 % of GDP |
1/12/2558 | 101.16 % of GDP |
1/3/2559 | 101.67 % of GDP |
1/6/2559 | 103.45 % of GDP |
1/9/2559 | 104.51 % of GDP |
1/12/2559 | 104.65 % of GDP |
1/3/2560 | 104.36 % of GDP |
1/6/2560 | 104.47 % of GDP |
1/9/2560 | 104.47 % of GDP |
1/12/2560 | 104.07 % of GDP |
1/3/2561 | 103.41 % of GDP |
1/6/2561 | 103.43 % of GDP |
1/9/2561 | 103.24 % of GDP |
1/12/2561 | 103.39 % of GDP |
1/3/2562 | 102.77 % of GDP |
1/6/2562 | 103.36 % of GDP |
1/9/2562 | 104.16 % of GDP |
1/12/2562 | 103.89 % of GDP |
1/3/2563 | 103.89 % of GDP |
1/6/2563 | 108.3 % of GDP |
1/9/2563 | 110.99 % of GDP |
1/12/2563 | 112.61 % of GDP |
1/3/2564 | 111.76 % of GDP |
1/6/2564 | 109.21 % of GDP |
1/9/2564 | 108.21 % of GDP |
1/12/2564 | 106.82 % of GDP |
1/3/2565 | 105.21 % of GDP |
1/6/2565 | 104.54 % of GDP |
1/9/2565 | 102.92 % of GDP |
1/12/2565 | 101.8 % of GDP |
1/3/2566 | 100.81 % of GDP |
1/6/2566 | 101.96 % of GDP |
1/9/2566 | 102.65 % of GDP |
1/12/2566 | 102.24 % of GDP |
1/3/2567 | 101.56 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 101.56 % of GDP |
1/12/2566 | 102.24 % of GDP |
1/9/2566 | 102.65 % of GDP |
1/6/2566 | 101.96 % of GDP |
1/3/2566 | 100.81 % of GDP |
1/12/2565 | 101.8 % of GDP |
1/9/2565 | 102.92 % of GDP |
1/6/2565 | 104.54 % of GDP |
1/3/2565 | 105.21 % of GDP |
1/12/2564 | 106.82 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇦 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 1.349 ชีวภาพ. CAD | 1.347 ชีวภาพ. CAD | ควอร์เตอร์ |
🇨🇦 การออมส่วนบุคคล | 7.2 % | 6.7 % | ควอร์เตอร์ |
🇨🇦 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 48 points | 47.89 points | รายเดือน |
🇨🇦 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 0.4 % | 0.9 % | รายเดือน |
🇨🇦 ยอดขายปลีกประจำปี | 1.8 % | 1.7 % | รายเดือน |
🇨🇦 ยอดขายปลีกไม่รวมรถยนต์ | -0.7 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇨🇦 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.11 USD/Liter | 1.12 USD/Liter | รายเดือน |
🇨🇦 รายได้ส่วนบุคคลที่ใช้ได้ | 1.668 ชีวภาพ. CAD | 1.638 ชีวภาพ. CAD | ควอร์เตอร์ |
🇨🇦 สินเชื่อบุคคล | 771.824 ล้านล้าน CAD | 769.283 ล้านล้าน CAD | รายเดือน |
🇨🇦 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 7.2 % | 7.2 % | รายเดือน |
🇨🇦 อัตราส่วนหนี้สินของครัวเรือนต่อรายได้ | 178.22 % | 179.3 % | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ