ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ซูดาน ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ซูดาน คือ 541.463 ล้าน USD ดุลการค้าใน ซูดาน ลดลงไปที่ 541.463 ล้าน USD ในวันที่ 1/6/2554 หลังจากที่เป็น 704.214 ล้าน USD ในวันที่ 1/5/2554 ตั้งแต่ 1/1/2546 ถึง 1/12/2565 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ซูดาน คือ -268.87 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/5/2554 ด้วยค่า 704.21 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/1/2560 ด้วยค่า -5.1 ล้านล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2546 | 83.59 ล้าน USD |
1/2/2546 | 55.62 ล้าน USD |
1/11/2546 | 12.46 ล้าน USD |
1/2/2547 | 67.11 ล้าน USD |
1/4/2547 | 25.06 ล้าน USD |
1/9/2547 | 12.62 ล้าน USD |
1/10/2547 | 92.49 ล้าน USD |
1/1/2548 | 12.18 ล้าน USD |
1/4/2548 | 43.43 ล้าน USD |
1/1/2550 | 41.73 ล้าน USD |
1/5/2550 | 20.14 ล้าน USD |
1/7/2550 | 168.92 ล้าน USD |
1/8/2550 | 37.78 ล้าน USD |
1/9/2550 | 217.74 ล้าน USD |
1/10/2550 | 279.69 ล้าน USD |
1/11/2550 | 363.83 ล้าน USD |
1/1/2551 | 359.06 ล้าน USD |
1/2/2551 | 425.07 ล้าน USD |
1/3/2551 | 389.09 ล้าน USD |
1/4/2551 | 488 ล้าน USD |
1/5/2551 | 610.15 ล้าน USD |
1/6/2551 | 451.45 ล้าน USD |
1/7/2551 | 170.86 ล้าน USD |
1/8/2551 | 231.8 ล้าน USD |
1/9/2551 | 89.82 ล้าน USD |
1/10/2551 | 2.97 ล้าน USD |
1/7/2552 | 14.18 ล้าน USD |
1/9/2552 | 167.77 ล้าน USD |
1/10/2552 | 192.18 ล้าน USD |
1/1/2553 | 207.79 ล้าน USD |
1/2/2553 | 215.84 ล้าน USD |
1/3/2553 | 49.52 ล้าน USD |
1/4/2553 | 289.68 ล้าน USD |
1/5/2553 | 74.24 ล้าน USD |
1/6/2553 | 38.87 ล้าน USD |
1/7/2553 | 176.41 ล้าน USD |
1/8/2553 | 89.32 ล้าน USD |
1/10/2553 | 134.6 ล้าน USD |
1/11/2553 | 43 ล้าน USD |
1/12/2553 | 131.38 ล้าน USD |
1/1/2554 | 424.52 ล้าน USD |
1/2/2554 | 597.49 ล้าน USD |
1/3/2554 | 507.46 ล้าน USD |
1/4/2554 | 678.95 ล้าน USD |
1/5/2554 | 704.21 ล้าน USD |
1/6/2554 | 541.46 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2554 | 541.463 ล้าน USD |
1/5/2554 | 704.214 ล้าน USD |
1/4/2554 | 678.95 ล้าน USD |
1/3/2554 | 507.461 ล้าน USD |
1/2/2554 | 597.488 ล้าน USD |
1/1/2554 | 424.521 ล้าน USD |
1/12/2553 | 131.378 ล้าน USD |
1/11/2553 | 43.001 ล้าน USD |
1/10/2553 | 134.603 ล้าน USD |
1/8/2553 | 89.317 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇸🇩 กระแสเงินทุน | 30.5 ล้าน USD | 33.7 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇩 การผลิตน้ำมันดิบ | 80 BBL/D/1K | 70 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇸🇩 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -152.4 ล้าน USD | -168.5 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇩 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇸🇩 นำเข้า | 1.122 ล้านล้าน USD | 975.717 ล้าน USD | รายเดือน |
🇸🇩 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -1.753 ล้านล้าน USD | -1.667 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇩 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -2.48 % of GDP | -3.4 % of GDP | ประจำปี |
🇸🇩 ส่งออก | 292.137 ล้าน USD | 241.933 ล้าน USD | รายเดือน |
การขาดดุลการค้าเฉลี่ยของซูดานสามารถอธิบายได้จากการขาดแคลนอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตรเชิงพาณิชย์ซึ่งทำให้ประเทศต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหาร สินค้าผลิตและเครื่องจักร ซูดานเป็นผู้ส่งออกสุทธิของทองคำและปศุสัตว์ คู่ค้าหลักคือจีน (78 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 22 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) รองลงมาคืออิตาลีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว