ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇹🇲

ตุรกี ดุลการค้า

ราคา

10.174 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+4.82 ล้านล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+62.08 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ตุรกี คือ 10.174 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน ตุรกี เพิ่มขึ้นเป็น 10.174 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เป็น 5.354 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2535 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ตุรกี คือ 2.21 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/1/2565 โดยมีมูลค่า 10.17 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2552 โดยมีมูลค่า -2.95 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: SESRIC - The Statistical, Economic & Social Res. & Training Centre for Islamic Countries

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/256510.174 ล้านล้าน USD
1/1/25645.354 ล้านล้าน USD
1/1/25633.302 ล้านล้าน USD
1/1/25627.551 ล้านล้าน USD
1/1/25617.371 ล้านล้าน USD
1/1/25603.622 ล้านล้าน USD
1/1/25592.626 ล้านล้าน USD
1/1/25583.473 ล้านล้าน USD
1/1/25572.998 ล้านล้าน USD
1/1/25562.974 ล้านล้าน USD
1
2
3

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇹🇲
การผลิตน้ำมันดิบ
191 BBL/D/1K191 BBL/D/1Kรายเดือน
🇹🇲
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇹🇲
นำเข้า
3.246 ล้านล้าน USD4.022 ล้านล้าน USDประจำปี
🇹🇲
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
2.77 ล้าน USD1.83 ล้าน USDประจำปี
🇹🇲
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
7.1 % of GDP6.5 % of GDPประจำปี
🇹🇲
ส่งออก
13.427 ล้านล้าน USD9.377 ล้านล้าน USDประจำปี
🇹🇲
หนี้สินต่างประเทศ
4.509 ล้านล้าน USD4.851 ล้านล้าน USDประจำปี

เติร์กเมนิสถานเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติและน้ำมันรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานมักนำไปสู่การขาดดุลการค้า สินค้าส่งออกอื่นๆ ของเติร์กเมนิสถานรวมถึงฝ้าย โพลิเมอร์ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์จากพืช เติร์กเมนิสถานนำเข้าส่วนใหญ่เป็นท่อเหล็กและเหล็กกล้า อุปกรณ์ก่อสร้างหนัก ข้าวสาลี เครื่องจักรสำหรับการคัดแยก และยานพาหนะ คู่ค้าหลักของเติร์กเมนิสถานคือจีน ตุรกี รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี ยูเครน อิตาลี และอิหร่าน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว