ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ตุรกี ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ตุรกี คือ 10.174 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน ตุรกี เพิ่มขึ้นเป็น 10.174 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เป็น 5.354 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2535 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ตุรกี คือ 2.21 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/1/2565 โดยมีมูลค่า 10.17 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2552 โดยมีมูลค่า -2.95 ล้านล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2537 | 259.68 ล้าน USD |
1/1/2538 | 516.71 ล้าน USD |
1/1/2539 | 379.12 ล้าน USD |
1/1/2543 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/1/2544 | 351.46 ล้าน USD |
1/1/2545 | 693.34 ล้าน USD |
1/1/2546 | 2.91 ล้านล้าน USD |
1/1/2547 | 1.3 ล้านล้าน USD |
1/1/2548 | 2.77 ล้านล้าน USD |
1/1/2549 | 3.57 ล้านล้าน USD |
1/1/2550 | 3.49 ล้านล้าน USD |
1/1/2551 | 5.54 ล้านล้าน USD |
1/1/2554 | 774.83 ล้าน USD |
1/1/2555 | 1.41 ล้านล้าน USD |
1/1/2556 | 2.97 ล้านล้าน USD |
1/1/2557 | 3 ล้านล้าน USD |
1/1/2558 | 3.47 ล้านล้าน USD |
1/1/2559 | 2.63 ล้านล้าน USD |
1/1/2560 | 3.62 ล้านล้าน USD |
1/1/2561 | 7.37 ล้านล้าน USD |
1/1/2562 | 7.55 ล้านล้าน USD |
1/1/2563 | 3.3 ล้านล้าน USD |
1/1/2564 | 5.35 ล้านล้าน USD |
1/1/2565 | 10.17 ล้านล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 10.174 ล้านล้าน USD |
1/1/2564 | 5.354 ล้านล้าน USD |
1/1/2563 | 3.302 ล้านล้าน USD |
1/1/2562 | 7.551 ล้านล้าน USD |
1/1/2561 | 7.371 ล้านล้าน USD |
1/1/2560 | 3.622 ล้านล้าน USD |
1/1/2559 | 2.626 ล้านล้าน USD |
1/1/2558 | 3.473 ล้านล้าน USD |
1/1/2557 | 2.998 ล้านล้าน USD |
1/1/2556 | 2.974 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇲 การผลิตน้ำมันดิบ | 191 BBL/D/1K | 191 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇹🇲 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇹🇲 นำเข้า | 3.246 ล้านล้าน USD | 4.022 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇹🇲 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 2.77 ล้าน USD | 1.83 ล้าน USD | ประจำปี |
🇹🇲 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 7.1 % of GDP | 6.5 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇲 ส่งออก | 13.427 ล้านล้าน USD | 9.377 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇹🇲 หนี้สินต่างประเทศ | 4.509 ล้านล้าน USD | 4.851 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
เติร์กเมนิสถานเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติและน้ำมันรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานมักนำไปสู่การขาดดุลการค้า สินค้าส่งออกอื่นๆ ของเติร์กเมนิสถานรวมถึงฝ้าย โพลิเมอร์ สิ่งทอ และผลิตภัณฑ์จากพืช เติร์กเมนิสถานนำเข้าส่วนใหญ่เป็นท่อเหล็กและเหล็กกล้า อุปกรณ์ก่อสร้างหนัก ข้าวสาลี เครื่องจักรสำหรับการคัดแยก และยานพาหนะ คู่ค้าหลักของเติร์กเมนิสถานคือจีน ตุรกี รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี ยูเครน อิตาลี และอิหร่าน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว