ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เอสโตเนีย ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน เอสโตเนีย คือ 139.364 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน เอสโตเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 139.364 คะแนน เมื่อ 1/12/2567 หลังจากที่เป็น 137.592 คะแนน เมื่อ 1/9/2567 จาก 1/3/2538 ถึง 1/12/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน เอสโตเนีย คือ 72.56 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2567 ที่ 139.36 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2538 ที่ 24.25 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2538 | 24.25 points |
1/6/2538 | 25.75 points |
1/9/2538 | 27.06 points |
1/12/2538 | 28.6 points |
1/3/2539 | 30.35 points |
1/6/2539 | 32.02 points |
1/9/2539 | 33.29 points |
1/12/2539 | 33.75 points |
1/3/2540 | 34.05 points |
1/6/2540 | 35.22 points |
1/9/2540 | 36.37 points |
1/12/2540 | 36.63 points |
1/3/2541 | 37.5 points |
1/6/2541 | 37.59 points |
1/9/2541 | 38.19 points |
1/12/2541 | 38.79 points |
1/3/2542 | 39.62 points |
1/6/2542 | 40.47 points |
1/9/2542 | 40.91 points |
1/12/2542 | 40.9 points |
1/3/2543 | 41.4 points |
1/6/2543 | 41.54 points |
1/9/2543 | 41.79 points |
1/12/2543 | 43.43 points |
1/3/2544 | 43.38 points |
1/6/2544 | 45.05 points |
1/9/2544 | 44.97 points |
1/12/2544 | 46.35 points |
1/3/2545 | 46.45 points |
1/6/2545 | 47.07 points |
1/9/2545 | 46.89 points |
1/12/2545 | 47.93 points |
1/3/2546 | 48.42 points |
1/6/2546 | 48.77 points |
1/9/2546 | 48.95 points |
1/12/2546 | 49.21 points |
1/3/2547 | 51.09 points |
1/6/2547 | 49.85 points |
1/9/2547 | 51.92 points |
1/12/2547 | 52 points |
1/3/2548 | 53.25 points |
1/6/2548 | 53.76 points |
1/9/2548 | 54.6 points |
1/12/2548 | 55.45 points |
1/3/2549 | 57.27 points |
1/6/2549 | 58.01 points |
1/9/2549 | 59.95 points |
1/12/2549 | 60.99 points |
1/3/2550 | 63.87 points |
1/6/2550 | 65.32 points |
1/9/2550 | 67.32 points |
1/12/2550 | 69.91 points |
1/3/2551 | 69.14 points |
1/6/2551 | 71.15 points |
1/9/2551 | 69.16 points |
1/12/2551 | 74.19 points |
1/3/2552 | 70.71 points |
1/6/2552 | 70.25 points |
1/9/2552 | 69.54 points |
1/12/2552 | 70.83 points |
1/3/2553 | 70.24 points |
1/6/2553 | 70.61 points |
1/9/2553 | 72.61 points |
1/12/2553 | 73.27 points |
1/3/2554 | 74.77 points |
1/6/2554 | 75.4 points |
1/9/2554 | 76.32 points |
1/12/2554 | 77.01 points |
1/3/2555 | 78 points |
1/6/2555 | 78.91 points |
1/9/2555 | 79.76 points |
1/12/2555 | 79.6 points |
1/3/2556 | 81.4 points |
1/6/2556 | 81.96 points |
1/9/2556 | 83.38 points |
1/12/2556 | 82.76 points |
1/3/2557 | 84.36 points |
1/6/2557 | 85.13 points |
1/9/2557 | 84.65 points |
1/12/2557 | 85.37 points |
1/3/2558 | 84.98 points |
1/6/2558 | 85.43 points |
1/9/2558 | 85.79 points |
1/12/2558 | 86.29 points |
1/3/2559 | 87.58 points |
1/6/2559 | 87.31 points |
1/9/2559 | 87.54 points |
1/12/2559 | 88.64 points |
1/3/2560 | 90.09 points |
1/6/2560 | 91.43 points |
1/9/2560 | 90.95 points |
1/12/2560 | 92.49 points |
1/3/2561 | 93.92 points |
1/6/2561 | 95.16 points |
1/9/2561 | 95.63 points |
1/12/2561 | 97.66 points |
1/3/2562 | 98.15 points |
1/6/2562 | 99.55 points |
1/9/2562 | 99.6 points |
1/12/2562 | 100.25 points |
1/3/2563 | 99.53 points |
1/6/2563 | 98.43 points |
1/9/2563 | 100.52 points |
1/12/2563 | 100.86 points |
1/3/2564 | 101.55 points |
1/6/2564 | 102.17 points |
1/9/2564 | 106.48 points |
1/12/2564 | 109.98 points |
1/3/2565 | 114.81 points |
1/6/2565 | 119.94 points |
1/9/2565 | 125.13 points |
1/12/2565 | 127.57 points |
1/3/2566 | 130.44 points |
1/6/2566 | 130.97 points |
1/9/2566 | 131.76 points |
1/12/2566 | 134.27 points |
1/3/2567 | 133.64 points |
1/6/2567 | 136.03 points |
1/9/2567 | 137.59 points |
1/12/2567 | 139.36 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 139.364 คะแนน |
1/9/2567 | 137.592 คะแนน |
1/6/2567 | 136.034 คะแนน |
1/3/2567 | 133.639 คะแนน |
1/12/2566 | 134.273 คะแนน |
1/9/2566 | 131.758 คะแนน |
1/6/2566 | 130.973 คะแนน |
1/3/2566 | 130.44 คะแนน |
1/12/2565 | 127.569 คะแนน |
1/9/2565 | 125.134 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇪🇪 CPI Transport | 266.11 points | 265.76 points | รายเดือน |
🇪🇪 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 6.1 % | 0 % | รายเดือน |
🇪🇪 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 5.1 % | 5.2 % | รายเดือน |
🇪🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 311.5 points | 307.2 points | รายเดือน |
🇪🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว | 160.25 points | 158.17 points | รายเดือน |
🇪🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 654.86 points | 625.74 points | รายเดือน |
🇪🇪 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 142.88 points | 141.93 points | รายเดือน |
🇪🇪 ต้นทุนการผลิต | 164.59 points | 159.3 points | รายเดือน |
🇪🇪 ราคานำเข้า | 203.64 points | 197.88 points | รายเดือน |
🇪🇪 ราคาส่งออก | 467.33 points | 458.66 points | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อ | 5.3 % | 3.9 % | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 1.4 % | 1.4 % | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY | 5.1 % | 3.8 % | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน | 1.3 % | 1 % | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 3.3 % | 0.9 % | รายเดือน |
🇪🇪 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 5.2 % | 5.6 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ