ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇿

โมซัมบิก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ราคา

49.9 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.2 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.40 %

ค่าปัจจุบันของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ในโมซัมบิก อยู่ที่49.9 คะแนน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ในโมซัมบิก เพิ่มขึ้นเป็น49.9 คะแนน เมื่อวันที่1/4/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่49.7 คะแนน เมื่อวันที่1/3/2567 ตั้งแต่1/1/2562 ถึง1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในโมซัมบิก อยู่ที่49.82 คะแนน ค่าสูงสุดที่เคยถึงคือวันที่1/6/2564 ด้วยค่า52.9 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้ที่1/4/2563 ด้วยค่า37.1 คะแนน

แหล่งที่มา: S&P Global

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

  • แม็กซ์

Composite PMI

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/256749.9 คะแนน
1/3/256749.7 คะแนน
1/2/256750.7 คะแนน
1/1/256747.8 คะแนน
1/12/256648.8 คะแนน
1/11/256649.6 คะแนน
1/10/256650 คะแนน
1/9/256650.2 คะแนน
1/8/256650.4 คะแนน
1/7/256651.9 คะแนน
1
2
3
4
5
...
7

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇿
การผลิตเหมืองแร่
11.6 %12.3 %รายเดือน
🇲🇿
การผลิตอุตสาหกรรม
0.4 %7.3 %รายเดือน
🇲🇿
การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน
-11.5 %-7.8 %รายเดือน
🇲🇿
ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า
2.9 %2.6 %รายเดือน
🇲🇿
สภาวะธุรกิจ
98.7 points96.2 pointsควอร์เตอร์

ดัชนีการจัดการจัดซื้อ (PMI™) ของธนาคารสแตนดาร์ดโมซัมบิกถูกรวบรวมโดย IHS Markit จากการตอบแบบสอบถามที่ส่งไปยังผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในกลุ่มบริษัทภาคเอกชนประมาณ 400 แห่ง กลุ่มนี้ได้รับการจัดชั้นตามภาคส่วนโดยละเอียดและขนาดแรงงานของบริษัท โดยอิงตามการมีส่วนร่วมต่อ GDP ภาคส่วนที่ครอบคลุมโดยการสำรวจประกอบด้วยเกษตรกรรม การทำเหมืองแร่ การผลิต การก่อสร้าง การค้าส่ง การค้าปลีก และบริการ การตอบแบบสอบถามถูกรวบรวมในช่วงครึ่งหลังของแต่ละเดือนและระบุทิศทางการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดัชนีการกระจายตัวจะถูกคำนวณสำหรับตัวแปรแต่ละตัวของการสำรวจ ดัชนีนี้คือผลรวมของเปอร์เซ็นต์ของการตอบ 'เพิ่มขึ้น' และครึ่งหนึ่งของเปอร์เซ็นต์ของการตอบ 'ไม่เปลี่ยนแปลง' ดัชนีมีค่าระหว่าง 0 ถึง 100 โดยการอ่านค่ามากกว่า 50 บ่งชี้ถึงการเพิ่มโดยรวมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และน้อยกว่า 50 บ่งชี้ถึงการลดลงโดยรวม ดัชนีเหล่านี้จะถูกปรับตามฤดูกาล ค่าตัวเลขหลักคือดัชนีการจัดการจัดซื้อ (PMI) ดัชนี PMI เป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของตัวชี้วัดห้าตัวดังนี้: คำสั่งซื้อใหม่ (30%), ผลผลิต (25%), การจ้างงาน (20%), เวลาการส่งมอบของซัพพลายเออร์ (15%) และสต็อกสินค้าคงคลัง (10%) สำหรับการคำนวณดัชนี PMI ดัชนีเวลาการส่งมอบของซัพพลายเออร์จะถูกกลับข้างเพื่อให้เคลื่อนไหวในทิศทางที่เปรียบเทียบได้กับตัวชี้วัดอื่นๆ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)

ที่ Eulerpool เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้สำหรับการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและเป็นปัจจุบัน ในหมวดหมู่การวัดดัชนีเศรษฐกิจมหภาคหนึ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ 'Composite PMI' หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่นำมาใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม (Composite PMI) คืออะไร? ดัชนี PMI เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนามาเพื่อประเมินสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและเป็นตัวชี้วัดระดับการเติบโตหรือหยุดชะงักของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำการสำรวจผ่านการถามคำถามของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อ การผลิต สต๊อกสินค้า การจ้างงาน และราคาสินค้า และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาคำนวณเป็นดัชนี PMI Composite PMI นั้นจะรวมข้อมูลทั้งจากภาคการผลิตและภาคบริการ ซึ่งทำให้ดัชนีนี้มีความครอบคลุมในการประเมินสภาพเศรษฐกิจแบบครบองค์รวม ภาคการบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งในเศรษฐกิจสมัยใหม่ และการรวมข้อมูลจากทั้งสองภาคสาขาทำให้ได้รับภาพรวมที่แม่นยำและแพร่หลายมากขึ้น ทำไม Composite PMI ถึงสำคัญ? Composite PMI มีบทบาทสำคัญในการทำให้เราเข้าใจและประเมินสภาพเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เนื่องจากดัชนีนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภค การจ้างงาน และการลงทุน ถ้าดัชนี Composite PMI สูงกว่า 50 แสดงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว ในขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ ผลลัพธ์ของ Composite PMI จะนำเสนอได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้ผู้วางแผนในบริษัท นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้บริหารองค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานได้ทันที การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Composite PMI ทั้งในช่วงเวลาสั้นและเวลา่ยาวจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตได้ เมื่อเราพูดถึงการวางแผนและการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจ การมีข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง Composite PMI จึงให้ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเศรษฐกิจมหาภาค ทั้งนี้เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมีข้อมูลภายในที่สามารถสรุปภาพรวมได้อย่างชัดเจน การเปรียบเทียบ Composite PMI ระหว่างประเทศหรือภูมิภาคแตกต่างกันยังเป็นการให้มุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการค้าโลกและการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาคสามารถนำข้อมูล Composite PMI ไปใช้ในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ, เปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขัน, และดูการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว การให้ความสำคัญกับข้อมูล Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการทำการวิเคราะห์การลงทุนเชิงลึก ทั้งในแง่ของการวิเคราะห์เศรษฐกิจระดับมหภาคและการตรวจสอบสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้กับข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และดัชนีการค้าสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ครบถ้วนและทำให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้าใจในดัชนี Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตสามารถทำให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในระดับรัฐบาลหรือธนาคารกลางสร้างนโยบายที่เหมาะสมและทันเวลา โดยสรุป ดัชนี Composite PMI เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของการเติบโตในระยะสั้นหรือยาว รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและการลงทุน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่านี้ให้แก่ผู้ใช้งานทุกท่าน เพื่อให้ได้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและความมั่นใจในทุกสถานการณ์