ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
ลัตเวีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในลัตเวียคือ69.284 ล้านEUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในลัตเวียลดลงเหลือ69.284 ล้านEURใน1/6/2567 หลังจากที่เคยเป็น146.368 ล้านEURใน1/6/2566 จาก1/3/2538ถึง1/12/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในลัตเวียคือ73.89 ล้านEUR ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่1/3/2551ด้วยค่า588.98 ล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/3/2567ด้วยค่า-632.56 ล้านEUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2538 | 42.82 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 41.97 ล้าน EUR |
1/12/2538 | 7.2 ล้าน EUR |
1/6/2539 | 2.71 ล้าน EUR |
1/12/2539 | 153.11 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 91.56 ล้าน EUR |
1/9/2540 | 47.8 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 91.03 ล้าน EUR |
1/3/2541 | 9.7 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 16.95 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 27.77 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 65.56 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 40.52 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 31.49 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 76.93 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 48.21 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 22.69 ล้าน EUR |
1/12/2544 | 28.69 ล้าน EUR |
1/3/2545 | 29.68 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 114.97 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 138.75 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 68 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 119.95 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 176.22 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 260.26 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 182.29 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 192.26 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 212.29 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 64.42 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 99.61 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 210.6 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 195.63 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 297.33 ล้าน EUR |
1/6/2549 | 241.65 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 354.32 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 165.28 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 387.63 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 342.61 ล้าน EUR |
1/9/2550 | 513.54 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 588.98 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 147.57 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 258.99 ล้าน EUR |
1/3/2552 | 217.08 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 61.44 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 230.59 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 131.01 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 56.47 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 51.41 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 284.12 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 215.61 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 29 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 338.29 ล้าน EUR |
1/6/2555 | 168.33 ล้าน EUR |
1/3/2556 | 127.31 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 34.89 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 282.05 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 23.68 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 27.52 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 275.36 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 56.95 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 213.09 ล้าน EUR |
1/3/2559 | 128.86 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 158.16 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 52.82 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 47.43 ล้าน EUR |
1/3/2560 | 91.79 ล้าน EUR |
1/6/2560 | 141.19 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 279.47 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 490.64 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 173.69 ล้าน EUR |
1/9/2562 | 201.86 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 100.27 ล้าน EUR |
1/3/2564 | 44.2 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 462.1 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 452.1 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 225.54 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 301.09 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 230.39 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 31.94 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 146.37 ล้าน EUR |
1/6/2567 | 69.28 ล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2567 | 69.284 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 146.368 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 31.94 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 230.389 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 301.088 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 225.543 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 452.096 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 462.101 ล้าน EUR |
1/3/2564 | 44.201 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 100.268 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇻 การจดทะเบียนรถยนต์ | 1,398 Units | 1,343 Units | รายเดือน |
🇱🇻 การผลิตในภาคการผลิต | 4.1 % | 1.9 % | รายเดือน |
🇱🇻 การผลิตไฟฟ้า | 720 Gigawatt-hour | 622 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇱🇻 การผลิตเหมืองแร่ | 2 % | 15.9 % | รายเดือน |
🇱🇻 การผลิตอุตสาหกรรม | 3.1 % | 0.6 % | รายเดือน |
🇱🇻 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 1.2 % | 2.2 % | รายเดือน |
🇱🇻 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 80 Units | 84 Units | รายเดือน |
🇱🇻 สภาวะธุรกิจ | -1.6 points | -2.5 points | รายเดือน |
🇱🇻 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 73 % | 73 % | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool