ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ไต้หวัน การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในไต้หวันคือ729.459 ล้านล้านTWD การใช้จ่ายของรัฐบาลในไต้หวันเพิ่มขึ้นเป็น729.459 ล้านล้านTWDเมื่อ1/9/2566หลังจากที่มันคือ727.456 ล้านล้านTWDเมื่อ1/6/2566 จาก1/3/2524ถึง1/12/2566 GDP เฉลี่ยในไต้หวันคือ463.69 ล้านล้านTWD มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2565ที่มีมูลค่า738.96 ล้านล้านTWD ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/3/2524ที่มีมูลค่า133.47 ล้านล้านTWD
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2524 | 133.47 ล้านล้าน TWD |
1/6/2524 | 133.94 ล้านล้าน TWD |
1/9/2524 | 135.81 ล้านล้าน TWD |
1/12/2524 | 136.24 ล้านล้าน TWD |
1/3/2525 | 162.48 ล้านล้าน TWD |
1/6/2525 | 164.41 ล้านล้าน TWD |
1/9/2525 | 163.13 ล้านล้าน TWD |
1/12/2525 | 162.44 ล้านล้าน TWD |
1/3/2526 | 170.07 ล้านล้าน TWD |
1/6/2526 | 173.81 ล้านล้าน TWD |
1/9/2526 | 172.91 ล้านล้าน TWD |
1/12/2526 | 174.76 ล้านล้าน TWD |
1/3/2527 | 182.89 ล้านล้าน TWD |
1/6/2527 | 184.75 ล้านล้าน TWD |
1/9/2527 | 193.71 ล้านล้าน TWD |
1/12/2527 | 191.84 ล้านล้าน TWD |
1/3/2528 | 194.4 ล้านล้าน TWD |
1/6/2528 | 199.4 ล้านล้าน TWD |
1/9/2528 | 204.48 ล้านล้าน TWD |
1/12/2528 | 206.81 ล้านล้าน TWD |
1/3/2529 | 206.26 ล้านล้าน TWD |
1/6/2529 | 213.58 ล้านล้าน TWD |
1/9/2529 | 205.46 ล้านล้าน TWD |
1/12/2529 | 211.78 ล้านล้าน TWD |
1/3/2530 | 221.14 ล้านล้าน TWD |
1/6/2530 | 230.06 ล้านล้าน TWD |
1/9/2530 | 234.62 ล้านล้าน TWD |
1/12/2530 | 242.12 ล้านล้าน TWD |
1/3/2531 | 240.41 ล้านล้าน TWD |
1/6/2531 | 247.82 ล้านล้าน TWD |
1/9/2531 | 255.24 ล้านล้าน TWD |
1/12/2531 | 260.48 ล้านล้าน TWD |
1/3/2532 | 264.68 ล้านล้าน TWD |
1/6/2532 | 271.77 ล้านล้าน TWD |
1/9/2532 | 301.99 ล้านล้าน TWD |
1/12/2532 | 302.98 ล้านล้าน TWD |
1/3/2533 | 310.95 ล้านล้าน TWD |
1/6/2533 | 318.24 ล้านล้าน TWD |
1/9/2533 | 330.49 ล้านล้าน TWD |
1/12/2533 | 330.74 ล้านล้าน TWD |
1/3/2534 | 335.12 ล้านล้าน TWD |
1/6/2534 | 342.82 ล้านล้าน TWD |
1/9/2534 | 354.14 ล้านล้าน TWD |
1/12/2534 | 354.62 ล้านล้าน TWD |
1/3/2535 | 349.97 ล้านล้าน TWD |
1/6/2535 | 353.7 ล้านล้าน TWD |
1/9/2535 | 362.12 ล้านล้าน TWD |
1/12/2535 | 360.44 ล้านล้าน TWD |
1/3/2536 | 370.72 ล้านล้าน TWD |
1/6/2536 | 365.76 ล้านล้าน TWD |
1/9/2536 | 366.05 ล้านล้าน TWD |
1/12/2536 | 368.46 ล้านล้าน TWD |
1/3/2537 | 374.05 ล้านล้าน TWD |
1/6/2537 | 372.86 ล้านล้าน TWD |
1/9/2537 | 365.08 ล้านล้าน TWD |
1/12/2537 | 368.28 ล้านล้าน TWD |
1/3/2538 | 412.3 ล้านล้าน TWD |
1/6/2538 | 407.98 ล้านล้าน TWD |
1/9/2538 | 433.66 ล้านล้าน TWD |
1/12/2538 | 426.46 ล้านล้าน TWD |
1/3/2539 | 426.07 ล้านล้าน TWD |
1/6/2539 | 458.19 ล้านล้าน TWD |
1/9/2539 | 451.38 ล้านล้าน TWD |
1/12/2539 | 462.95 ล้านล้าน TWD |
1/3/2540 | 460.65 ล้านล้าน TWD |
1/6/2540 | 465.6 ล้านล้าน TWD |
1/9/2540 | 490.18 ล้านล้าน TWD |
1/12/2540 | 486.13 ล้านล้าน TWD |
1/3/2541 | 494.94 ล้านล้าน TWD |
1/6/2541 | 506.08 ล้านล้าน TWD |
1/9/2541 | 477.31 ล้านล้าน TWD |
1/12/2541 | 515.45 ล้านล้าน TWD |
1/3/2542 | 505.39 ล้านล้าน TWD |
1/6/2542 | 490.58 ล้านล้าน TWD |
1/9/2542 | 478.68 ล้านล้าน TWD |
1/12/2542 | 471.15 ล้านล้าน TWD |
1/3/2543 | 478.47 ล้านล้าน TWD |
1/6/2543 | 499.9 ล้านล้าน TWD |
1/9/2543 | 497.73 ล้านล้าน TWD |
1/12/2543 | 481.9 ล้านล้าน TWD |
1/3/2544 | 501.67 ล้านล้าน TWD |
1/6/2544 | 499.25 ล้านล้าน TWD |
1/9/2544 | 498.77 ล้านล้าน TWD |
1/12/2544 | 513.66 ล้านล้าน TWD |
1/3/2545 | 499.08 ล้านล้าน TWD |
1/6/2545 | 518.44 ล้านล้าน TWD |
1/9/2545 | 504.55 ล้านล้าน TWD |
1/12/2545 | 528.24 ล้านล้าน TWD |
1/3/2546 | 515.2 ล้านล้าน TWD |
1/6/2546 | 493.05 ล้านล้าน TWD |
1/9/2546 | 521.4 ล้านล้าน TWD |
1/12/2546 | 509.15 ล้านล้าน TWD |
1/3/2547 | 524.26 ล้านล้าน TWD |
1/6/2547 | 506.93 ล้านล้าน TWD |
1/9/2547 | 520.87 ล้านล้าน TWD |
1/12/2547 | 510.88 ล้านล้าน TWD |
1/3/2548 | 515.23 ล้านล้าน TWD |
1/6/2548 | 531.76 ล้านล้าน TWD |
1/9/2548 | 519.4 ล้านล้าน TWD |
1/12/2548 | 507.09 ล้านล้าน TWD |
1/3/2549 | 505.85 ล้านล้าน TWD |
1/6/2549 | 517.21 ล้านล้าน TWD |
1/9/2549 | 519.45 ล้านล้าน TWD |
1/12/2549 | 520.17 ล้านล้าน TWD |
1/3/2550 | 514.85 ล้านล้าน TWD |
1/6/2550 | 524.46 ล้านล้าน TWD |
1/9/2550 | 539.33 ล้านล้าน TWD |
1/12/2550 | 529.6 ล้านล้าน TWD |
1/3/2551 | 530.7 ล้านล้าน TWD |
1/6/2551 | 533.86 ล้านล้าน TWD |
1/9/2551 | 532.61 ล้านล้าน TWD |
1/12/2551 | 545.92 ล้านล้าน TWD |
1/3/2552 | 547.38 ล้านล้าน TWD |
1/6/2552 | 547.19 ล้านล้าน TWD |
1/9/2552 | 555.16 ล้านล้าน TWD |
1/12/2552 | 562.71 ล้านล้าน TWD |
1/3/2553 | 555.4 ล้านล้าน TWD |
1/6/2553 | 561.5 ล้านล้าน TWD |
1/9/2553 | 563.35 ล้านล้าน TWD |
1/12/2553 | 558.16 ล้านล้าน TWD |
1/3/2554 | 569.36 ล้านล้าน TWD |
1/6/2554 | 567.7 ล้านล้าน TWD |
1/9/2554 | 578.16 ล้านล้าน TWD |
1/12/2554 | 572.45 ล้านล้าน TWD |
1/3/2555 | 581.88 ล้านล้าน TWD |
1/6/2555 | 591.04 ล้านล้าน TWD |
1/9/2555 | 583.07 ล้านล้าน TWD |
1/12/2555 | 585.74 ล้านล้าน TWD |
1/3/2556 | 577.76 ล้านล้าน TWD |
1/6/2556 | 578.67 ล้านล้าน TWD |
1/9/2556 | 577.85 ล้านล้าน TWD |
1/12/2556 | 575.58 ล้านล้าน TWD |
1/3/2557 | 602.98 ล้านล้าน TWD |
1/6/2557 | 594.47 ล้านล้าน TWD |
1/9/2557 | 600.28 ล้านล้าน TWD |
1/12/2557 | 599.47 ล้านล้าน TWD |
1/3/2558 | 587.07 ล้านล้าน TWD |
1/6/2558 | 600.55 ล้านล้าน TWD |
1/9/2558 | 603.35 ล้านล้าน TWD |
1/12/2558 | 603.19 ล้านล้าน TWD |
1/3/2559 | 627.06 ล้านล้าน TWD |
1/6/2559 | 613.05 ล้านล้าน TWD |
1/9/2559 | 623.84 ล้านล้าน TWD |
1/12/2559 | 618.29 ล้านล้าน TWD |
1/3/2560 | 604.33 ล้านล้าน TWD |
1/6/2560 | 623.04 ล้านล้าน TWD |
1/9/2560 | 634.05 ล้านล้าน TWD |
1/12/2560 | 610.63 ล้านล้าน TWD |
1/3/2561 | 647.18 ล้านล้าน TWD |
1/6/2561 | 664.17 ล้านล้าน TWD |
1/9/2561 | 625.59 ล้านล้าน TWD |
1/12/2561 | 634.43 ล้านล้าน TWD |
1/3/2562 | 630.8 ล้านล้าน TWD |
1/6/2562 | 654.05 ล้านล้าน TWD |
1/9/2562 | 652.63 ล้านล้าน TWD |
1/12/2562 | 647.98 ล้านล้าน TWD |
1/3/2563 | 656.49 ล้านล้าน TWD |
1/6/2563 | 652.44 ล้านล้าน TWD |
1/9/2563 | 676.54 ล้านล้าน TWD |
1/12/2563 | 671.75 ล้านล้าน TWD |
1/3/2564 | 692.5 ล้านล้าน TWD |
1/6/2564 | 668.67 ล้านล้าน TWD |
1/9/2564 | 703.06 ล้านล้าน TWD |
1/12/2564 | 694.16 ล้านล้าน TWD |
1/3/2565 | 698.03 ล้านล้าน TWD |
1/6/2565 | 725.61 ล้านล้าน TWD |
1/9/2565 | 728.89 ล้านล้าน TWD |
1/12/2565 | 738.96 ล้านล้าน TWD |
1/3/2566 | 724.97 ล้านล้าน TWD |
1/6/2566 | 727.46 ล้านล้าน TWD |
1/9/2566 | 729.46 ล้านล้าน TWD |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 729.459 ล้านล้าน TWD |
1/6/2566 | 727.456 ล้านล้าน TWD |
1/3/2566 | 724.97 ล้านล้าน TWD |
1/12/2565 | 738.963 ล้านล้าน TWD |
1/9/2565 | 728.887 ล้านล้าน TWD |
1/6/2565 | 725.614 ล้านล้าน TWD |
1/3/2565 | 698.025 ล้านล้าน TWD |
1/12/2564 | 694.16 ล้านล้าน TWD |
1/9/2564 | 703.06 ล้านล้าน TWD |
1/6/2564 | 668.667 ล้านล้าน TWD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇼 การใช้จ่ายทางทหาร | 16.613 ล้านล้าน USD | 15.261 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇹🇼 งบประมาณของรัฐ | -0.5 % of GDP | -0.5 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇼 ดัชนีการทุจริต | 67 Points | 68 Points | ประจำปี |
🇹🇼 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -375.176 ล้านล้าน TWD | -312.81 ล้านล้าน TWD | ประจำปี |
🇹🇼 รัฐบาลใช้จ่าย | 3.848 ชีวภาพ. TWD | 3.435 ชีวภาพ. TWD | ประจำปี |
🇹🇼 รายได้ของรัฐ | 3.473 ชีวภาพ. TWD | 3.123 ชีวภาพ. TWD | ประจำปี |
🇹🇼 อันดับคอร์รัปชั่น | 28 | 25 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายของสาธารณะในการซื้อสินค้าบริการและเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายของสาธารณะ และโครงการสาธารณูปโภคเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ