ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇹

อิตาลี การใช้จ่ายของรัฐบาล

ราคา

90.633 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-629.2 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-0.69 %

มูลค่าปัจจุบันของการใช้จ่ายของรัฐบาลใน อิตาลี คือ 90.633 ล้านล้าน EUR การใช้จ่ายของรัฐบาลใน อิตาลี ลดลงเหลือ 90.633 ล้านล้าน EUR เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น 91.262 ล้านล้าน EUR เมื่อ 1/12/2566 ตั้งแต่ 1/3/2534 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน อิตาลี อยู่ที่ 83.02 ล้านล้าน EUR ระดับสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/9/2552 ด้วย 92.79 ล้านล้าน EUR ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/9/2538 ด้วย 61 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: National Institute of Statistics (ISTAT)

การใช้จ่ายของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รัฐบาลใช้จ่าย

การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/256790.633 ล้านล้าน EUR
1/12/256691.262 ล้านล้าน EUR
1/9/256691.173 ล้านล้าน EUR
1/6/256690.689 ล้านล้าน EUR
1/3/256690.2 ล้านล้าน EUR
1/12/256589.7 ล้านล้าน EUR
1/9/256588.816 ล้านล้าน EUR
1/6/256589.096 ล้านล้าน EUR
1/3/256588.908 ล้านล้าน EUR
1/12/256489.041 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
14

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇹
การใช้จ่ายทางทหาร
35.529 ล้านล้าน USD34.692 ล้านล้าน USDประจำปี
🇮🇹
ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP
55.2 % of GDP56.3 % of GDPประจำปี
🇮🇹
คำขอลี้ภัย
11,685 persons14,770 personsรายเดือน
🇮🇹
งบประมาณของรัฐ
-7.2 % of GDP-8.1 % of GDPประจำปี
🇮🇹
ดัชนีการทุจริต
56 Points56 Pointsประจำปี
🇮🇹
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-14.855 ล้านล้าน EUR-31.271 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
รัฐบาลใช้จ่าย
60.962 ล้านล้าน EUR105.798 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
รายได้ของรัฐ
49.109 ล้านล้าน EUR47.059 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
หนี้สาธารณะ
2.919 ชีวภาพ. EUR2.906 ชีวภาพ. EURรายเดือน
🇮🇹
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
134.6 % of GDP138.1 % of GDPประจำปี
🇮🇹
อันดับคอร์รัปชั่น
42 41 ประจำปี

การใช้จ่ายภาครัฐหมายถึงการใช้จ่ายของภาครัฐในสินค้าและบริการ และเป็นส่วนประกอบสำคัญของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการตั้งเป้าหมายงบประมาณ การปรับภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐและงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล

การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ